Release Date
12/01/2024
ความยาว
104 นาที
แนวหนัง
แอ็กชัน ตลก
ผู้กำกับ
เอฟ แกรี เกรย์ (F. Gary Gray)
นักแสดง
เควิน ฮาร์ต, กูกู เอ็มบาร์ธา รอว์, เออร์ซูลา คอร์เบโร, ยุน จี คิม, แซม เวอร์ธิงตัน, ฌอง เรโน
Our score
5.9[รีวิว] Lift – ปล้นเวอร์ ๆ เพ้อไปเรื่อย ดูเพลิน ๆ
จุดเด่น
- เป็นหนังแอ็กชัน คอเมดี้ที่ดูได้เพลิน ๆ
- เออร์ซูลา คอร์เบโร หรือ โตเกียว จาก Money Heist และ ยุน จี คิม สวยมาก มองเพลิน
- มีมุกตลกพอให้ยิ้ม ๆ ได้
จุดสังเกต
- บทไม่ทำให้เราลุ่นกับภารกิจของตัวละคร
- วิช่วล เอฟเฟกต์ ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจ
-
บทภาพยนตร์
5.8
-
โปรดักชัน
6.0
-
การแสดง
5.8
-
ความบันเทิง
6.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
6.0
Netflix ยังคงมือขี้นในการปั้นหนังลงสตรีมมิง และเป็นหนังแอ็กชันนี่เองที่มักจะติดอันดับหนังยอดนิยมอยู่เรื่อย ๆ ไม่เว้นแม้แต่ ‘Lift’ หรือในชื่อไทย ‘ปล้นเหนือเมฆ’ หนังปล้นแนว ‘Ocean Eleven’ ที่ได้ เอฟ แกรี่ เกรย์ (F. Gary Gray) ผู้กำกับหนังปล้น ๆ โม้ ๆ จาก ‘The Italian Job’ และ ‘Fast 8’ มากุมบังเหียนหนังแอ็กชัน คอมเมดี้ ฮา ๆ ที่เอา เควิน ฮาร์ต (Kevin Hart) มาทำทรงเท่เป็นกุนซือทีมปล้นในแผนฉกทองจากมาเฟียตลาดหุ้น
หนังจะเล่าเรื่องของ ไซรัส (รับบทโดย ฮาร์ต) กุนซือทีมปล้นงานศิลปะที่ในทีมของเขาจะประกอบด้วย คามิลลา นักบินสาวสุดเฟี้ยว (เออร์ซูลา คอร์เบโร, Úrsula Corberó) มีซัน แฮกเกอร์สาวสวย (ยุน จี คิม, Yun Jee Kim) แม็กนัส มือถอดรหัสเซฟ (บิลลี แม็กนัสเซน, Billy Magnussen) ลุค ลูกทีมจอมประหม่า (วิเวค คัลรา, Viveik Kalra) เด็นตัน นักปลอมตัวขั้นเทพ (วินเซนต์ โดโนฟรีโอ, Vincent D’Onofrio)
โดยพวกเขาต้องจำใจรับงานจาก แอ็บบี้ (กูกู เอ็มบาธา รอว์, Gugu Mbatha-Raw) ตำรวจสากลอดีตหวานใจของไซรัส ที่เสนองานให้พวกเขาปล้นทองจาก ยอร์เกนเซน (ฌอง เรโน, Jean Reno) ก่อนที่มันจะแปรไปเป็นทุนให้ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติแลกกับการล้างประวัติอาชญากรรมของพวกเขา โดยมี ฮักซ์ลีย์ (แซม เวอร์ธิงตัน, Sam Worthington) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตำรวจสากลคอยจับตามองภารกิจอย่างใกล้ชิด
ความจริงด้วยชื่อผู้กำกับอย่างเกรย์ ก็ไม่น่าเป็นห่วงอยู่แล้วสำหรับการปรุงหนังอาชญากรรมสุดคูลพร้อมพล็อตที่หวือหวา “โม้จนมัน” แถมยังแคสติงนักแสดงได้น่าสนใจมากทั้งตัว เควิน ฮาร์ต เองที่ถูกเอามา “ทำทรง” คูล ๆ เป็นหัวหน้าเจ้าเสน่ห์ (แต่เห็นหน้าเวลาเก๊กแล้วอดขำไม่ได้) ที่ก็ถือว่าให้ภาพของพระเอกที่ไม่ต้องหล่อได้ดี มาประกบคู่กับ กูกู เอ็มบาธา รอว์ สาวสวยหน้าเก๋ที่ไม่ค่อยได้รับงานหนังแอ็กชันเท่าไหร่ ก็ให้ภาพอดีตคู่รักพ่อแง่แม่งอนที่ดูแล้วเกือบ ๆ ฟินอยู่เหมือนกัน (ถ้าไม่ขำหน้าของฮาร์ตซะก่อนนะ)
หรือจะเป็นการดีงสาวสวยสองสัญชาติมาเป็นอาหารตาหนุ่ม ๆ เริ่มจาก เออร์ซูลา คอร์เบโร หรือน้องโตเกียวแห่ง ‘Money Heist’ ซีรีส์สเปนสุดฟีเวอร์ที่ทั้งเท่และสวยบาดใจ หรือใครสายเอเซียก็ยังมีน้อง ยุน จี คิม สาวอเมริกัน-เกาหลี ในมาดแฮกเกอร์ที่มักมี “คิลซ็อต” ละลายหัวใจหนุ่ม ๆ แทบทั้งเรื่อง หรือจะเป็นฝั่งหนุ่มหล่อก็มี บิลลี แม็กนัสเซน ในบทแม็กนัส หนุ่มมาดกวน รูปร่างดี ก็น่าจะพอดึงสาว ๆ ให้ดูหนังได้อย่างเพลิน ๆ อยู่เหมือนกัน
แต่ปัญหาหลักของ ‘Lift’ ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเรื่องบทหนังนี่แหละ เพราะมันให้เรารู้จักตัวละครแบบผิวเผินมาก ทุกอย่างถูกตัดรวบไม่เสียเวลาเล่าเพื่อให้ 104 นาทีของหนังมีแต่ความบันเทิงที่ตูมตาม หรืออัดเพลงฮิปฮอปบีตหนัก ๆ จนทำให้บางซีนที่หนังต้องการให้ดูโรแมนติกก็ดรอปลงโดยเฉพาะกรณีของไซรัสกับแอ็บบี้ที่เราแทบไม่มีเวลาดื่มด่ำหรือฟินจิกหมอนกับทั้งคู่อย่างที่บทหนังต้องการ
อีกเรื่องคือการที่หนังเหมือนมีตัวละครที่ไม่จำเป็นกับเรื่องเยอะเกินไปหน่อยโดยเฉพาะกรณีของ วินเซนต์ โดโนฟรีโอ ที่ต้นเรื่องปูมาเหมือนว่านี่แหละ “ตัวปี๊ด” แน่ ๆ ปรากฎพอไปถึงท้ายเรื่องอ้าวตัวละครของเขาเหมือนเป็นแค่โอเปอเรเตอร์และไม่มีบทบาทกับภารกิจเท่าไหร่ หรือที่น่าสังเวชสุดคือ แซม เวอร์ธิงตัน ที่เคยรุ่งสุด ๆ หลัง ‘Avatar’ ออกฉายก็กลายเป็นตัวละครที่หาความจำเป็นแทบไม่เจอ แถมเสน่ห์แบบตอนหนุ่ม ๆ นี่แทบไม่เหลือแล้วจนเราน่าจะได้เห็นผลงานของเขาผ่านซีจีชาวนาวีสีฟ้าต่อไปสำหรับหนังฟอร์มดี ๆ หน่อย
ส่วนเรื่องฉากแอ็กชัน ไม่ปฏิเสธว่ามันทำให้หนังบันเทิงนะครับ แต่พอเราไม่ได้รู้จักตัวละครดีพอ เราก็ไม่รู้ว่าจะลุ้นอะไรดี (แถมซีจียังอยู่ในระดับเอาเท้าก่ายหน้าผากอีก) เลยกลายเป็นว่าเราดูภารกิจของทีมไซรัสแบบไม่มีอารมณ์ร่วมเลย ผิดกับตอน ‘The Italian Job’ ผลงานโบว์แดงของเกรย์ที่เรายังได้ลุ้นหรือหมั่นไส้ตัวละครวายร้ายที่ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน (Edward Norton) แสดง จะมีที่ถือว่าหนังทำให้เด็ก 90’s กรี๊ดได้จริง ๆ ก็คงเป็นการปรากฎตัวของ ฌอง เรโน หรือ ลีออง (Leon The Professional) หนังในดวงใจใครหลายคนนั่นแหละ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส