[รีวิว] A Quiet Place: Day One: ลุ้นคุ้นรสในฟอร์มใหญ่ ทรงพลังด้วยเรื่องราวที่มีหัวใจ
Our score
8.1

Release Date

27/06/2024

แนว

ดราม่า/ไซไฟ/สยองขวัญ/ระทึกขวัญ

ความยาว

1.40 ช.ม. (100 นาที)

เรตผู้ชม

PG-13

ผู้กำกับ

ไมเคิล ซาร์โนสกี (Michael Sarnoski)

[รีวิว] A Quiet Place: Day One: ลุ้นคุ้นรสในฟอร์มใหญ่ ทรงพลังด้วยเรื่องราวที่มีหัวใจ
Our score
8.1

A Quiet Place: Day One | ดินแดนไร้เสียง วันที่หนึ่ง

จุดเด่น

  1. เน้นพาร์ตความดราม่าเกี่ยวกับชีวิต ความตาย และมิตรภาพในโลกที่ล่มสลายได้ทรงพลัง
  2. การแสดงของคู่นักแสดงทำได้อย่างทรงพลัง น้อยแต่มาก
  3. น้องแมววัวมีบทบาทเป็นของตัวเอง โดดเด่น น่ารัก และดูเป็นแมวจริงไม่ใช้ CGI
  4. เซ็ตติงฉากสมจริง ทรงพลัง งานละเอียด
  5. เสียงยังคงเป็นพระเอกที่ทรงพลัง ถ่ายทอดความเงียบและเสียงดังได้โดดเด่นและรุนแรง

จุดสังเกต

  1. รูปแบบการเขย่าขวัญไม่ได้มีรูปแบบที่ต่างไปจาก 2 ภาคแรก
  2. อารมณ์ความสยองขวัญโหด ๆ อาจสู้ 2 ภาคแรกไม่ได้
  3. ไม่ได้ตอบโจทย์ในแง่ของความเป็น Prequel คิดเสียว่าเป็นหนังภาคแยกอีกภาคที่รอขยายจักรวาลได้อีกเยอะดีกว่า
  • คุณภาพด้านการแสดง

    8.4

  • คุณภาพโปรดักชัน

    7.9

  • คุณภาพของบทภาพยนตร์

    7.6

  • ความบันเทิง

    8.1

  • ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

    8.4


Major Cineplex logo
สนับสนุนโดย Major Cineplex

เมื่อ 7 ปีที่แล้ว นักแสดงหนุ่ม จอห์น คราซินสกี (John Krasinski) กลายเป็นคนทำหนังที่น่าจับตามองอีกคน จากผลงานหนังระทึกขวัญ ‘A Quiet Place’ (2018) ที่เจ้าตัวทั้งเขียนบท กำกับ และแสดงร่วมกับภรรยา เอมิลี บลันต์ (Emily Blunt) ที่สร้างปรากฏการณ์คนดูไม่กล้าเคี้ยวป็อปคอร์น ก่อนจะกลับมาสานต่อเรื่องราวใน ‘A Quiet Place Part II’ (2020) ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน และในปีนี้กลับมาอีกครั้งใน ‘A Quiet Place: Day One’ หนัง Prequel ของแฟรนไชส์ เพียงแต่ว่าคราวนี้ เขาขึ้นไปนั่งตำแหน่งโปรดิวเซอร์ร่วมกับป๋า ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) และให้ไมเคิล ซาร์โนสกี (Michael Sarnoski) ผู้กำกับหนังตามล่าหาหมู ‘Pig’ (2021) มานั่งแท่นกำกับแทน

‘A Quiet Place: Day One’ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกลางนิวยอร์ก ในเหตุการณ์วันที่ 1 แห่งภัยพิบัติ แซม (ลูพิตา นียองโก – Lupita Nyong’o) หญิงสาวรักสันโดษที่อาศัยอยู่ในสถานบริบาลผู้ป่วย รอบกายเธอมีเพียงโฟรโด (ชนิทเซิล – Schnitzel/นิโค – Nico) แมวบำบัดที่อยู่เคียงข้าง และรูเบน (อเล็กซ์ วูลฟ์ – Alex Wolff) พยาบาลผู้พาเธอเดินทางเข้าเมือง แต่แล้วเธอกลับต้องเผชิญกับเหล่าเดธแองเจิล (Death Angel) สิ่งมีชีวิตปริศนาหน้าตาประหลาดที่ตกลงมาจากฟากฟ้า

A Quiet Place Day One 2024 Paramount Pictures

พวกมันมองไม่เห็น แต่มีความไวต่อเสียงอย่างมาก พร้อมพุ่งตัวเข้าสังหารเจ้าของเสียงนั้นทันทีด้วยความว่องไว โหดเหี้ยม และไร้ปรานี แซม โฟรโด เอริก (โจเซฟ ควินน์ – Joseph Quinn) ชายหนุ่มที่เธอพบเจอยามคับขัน รวมทั้งเฮนรี (ไจมอน ฮอนซู – Djimon Hounsou) จึงต้องเงียบที่สุด เพื่อเอาตัวรอดจากภยันตรายสุดโหดนี้ไปให้ได้

ใครที่คุ้นกับ 2 ภาคแรกมาก่อน แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้มันขยายสเกลจากความเป็นหนังเล็ก ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากความรกร้างว่างเปล่า และสนุกกับสถานการณ์คับขันของคนไม่กี่คน กลายเป็นหนังหายนะฟอร์มยักษ์ จนแอบระแวงนิด ๆ ว่ามันจะเสียอรรถรสแบบ 2 ภาคแรกไปไหมนะ แต่สิ่งที่หนังยังคงรักษาไว้ได้ดีก็คือการขยับขยายเอกลักษณ์ต่าง ๆ ของแฟรนไชส์ไปใช้กับสเกลหนังฟอร์มยักษ์ได้น่าสนใจ

A Quiet Place Day One 2024 Paramount Pictures

ทั้งการออกแบบเสียง ที่สามารถเล่นกับความใหญ่ของเมือง ทั้งความเงียบที่ดูผิดปกติ และความดังอึกทึกครึกโครมได้โดดเด่นและมีประสิทธิภาพมาก ๆ รู้ว่าซีนไหนที่ควรจะเงียบงันจนดูผิดปกติ ซีนไหนควรมีเสียงแค่พอแผ่วเบา หรือตรงไหนที่ควรระเบิดแผดเสียงรุนแรง จนชวนให้รู้สึกว่า ทีมงาน Sound Engineer ควรได้รางวัลอะไรสักอย่างบ้างเหมือนกัน ผู้เขียนแนะนำว่า ถ้าจะดูเอาอรรถรสด้านเสียง IMAX ก็ถือว่าดังลั่นสนั่นดี หรือไม่ก็หาโรงที่มีระบบเสียงดี ๆ เช่น Dolby Atmos ก็เพียงพอครับ

ถ้าในแง่ความระทึกแบบชนิดที่เรียกว่าใจเต้นตุบ ๆ เกือบทุกนาทีแบบ 2 ภาคแรก ภาคนี้อาจไม่ได้มีอะไรแบบนั้นครับ มันออกจะเป็น Jump Scare แบบโต้ง ๆ โฉ่งฉ่างด้วยซ้ำ แล้วก็อาจจะไม่ได้มีฉากโหดเสียวสันหลังมากเท่ากับภาคก่อนหน้าด้วย ในขณะที่ซีเควนซ์ต่าง ๆ ในเรื่องไม่ได้เน้นลูกเล่นของการใช้ทักษะ การตัดสินใจหนีหรือสู้ในสถานการณ์บีบบังคับแบบต่าง ๆ เพื่อเอาตัวรอด และพูดถึงการเสียสละ – เห็นแก่ตัวเพื่อเอาตัวรอดของคนไม่กี่คนเหมือนภาคก่อน ๆ แต่ตัวหนังมันมีขนบของความเป็นหนัง Survival ที่เน้นการเอาตัวรอดหนีตายของ 2 คน 1 แมว ท่ามกลางภัยพิบัติกลางเมืองที่ถูกล้อมปิดตาย แบบเดียวกับขนบหนังฟอร์มยักษ์แนว ๆ นี้ และการจัดการในยามที่ยังทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องหนีตาย

A Quiet Place Day One 2024 Paramount Pictures

อีกจุดที่ภาคนี้ยังคงทำได้ดีเช่นเดียวกับ 2 ภาคแรกก็คือการออกแบบ Pace ของตัวหนังที่เน้นความเหมาะเจาะพอดี เล่าเรื่องเป็นเส้นตรงง่าย ๆ กระชับ เล่าเรื่องราวเท่าที่ตาเนื้อมองเห็นบนจอ ไม่ต้องพยายามเล่าปูมหลังปูเรื่อง หรืออธิบายดราม่าสร้างมิติตัวละครให้ซับซ้อนเกินความจำเป็น ใครที่หวังว่าหนังเรื่องนี้มันจะเป็น Prequel ในเชิงการอธิบายคลายปมจาก 2 ภาคแรก (โดยเฉพาะความสงสัยว่า Death Angel มาจากไหน หรือตัวละครเฮนรี ที่เคยโผล่มาแล้วในภาค 2 จะมีบทบาทความสำคัญอะไรบ้าง) ก็อาจเคืองใจนิดหน่อย

เพราะตัวหนังหันไปเน้นการเล่าเรื่องราวการเอาตัวรอดของคน 2 คนด้วยจังหวะซีเควนซ์ต่อซีเควนซ์ ฉากต่อฉาก ตั้งแต่การปูเรื่อง ส่งเข้าเรื่อง ไคลแม็กซ์ จนจบเรื่องด้วยจังหวะที่กระชับกำลังดี แบบเดียวกับที่ภาคก่อน ๆ เป็น ในขณะที่ก็มีการพยายามหาโอกาสเติมปูมหลังและมิติให้คนดู​เข้าใจ​ในเจตนาของตัวละครได้ง่าย ๆ ด้วย เพราะสิ่งที่ใจกลางของตัวหนังเป็นไม่ใช่การพยายามหนีสับ ๆ หรือพยายามต่อสู้หาทางรอดให้ได้ แต่เป็นการเน้นเรื่องของพาร์ตดราม่าที่หนักแน่นและชูเด่นขึ้นมา ต่างจาก 2 ภาคแรกที่ถูกสอดไส้เอาไว้แบบบาง ๆ

A Quiet Place Day One 2024 Paramount Pictures

หาก 2 ภาคที่แล้วพูดถึงการเรียนรู้และเสียสละของตัวละครเพื่อเอาตัวรอด ภาคนี้ก็คือการเน้นพูดถึงเรื่องของมิตรภาพที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ โดยที่แทบจะไม่ได้พูดอะไรกัน รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ มิตรภาพของคน 2 คนที่ต่างมีจุดด่างพร้อยและต้องการพึ่งพาอาศัยกัน จนนำไปสู่การเสียสละที่ยิ่งใหญ่ รวมทั้งการพยายามทำสิ่งที่อยากจะทำในชีวิต แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ไร้ความหมายและดูไร้สาระที่สุดในสายตาใคร ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่มีความตายโอบล้อมและต้องคอยหุบปากสงวนท่าทีอยู่ตลอดเวลาแบบนี้

ปรัชญาของหนังอาจไม่ได้ถึงกับลึกล้ำเข้มข้นจนต้องกะเทาะเปลือกแบบ ‘Pig’ งานก่อนหน้าของผู้กำกับ แต่บทการถ่ายทอดดราม่าออกมาก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องที่นำพาตัวละครไปเจอสถานการณ์และถ่ายทอดความลึกของอารมณ์ออกมาได้อย่างน่าติดตาม อาจจะงง ๆ หน่อยที่ได้เห็นนางเอกทำหรือคิดอะไรที่ดูแปลก ๆ แต่ก็ต้องชื่นชมแหละว่ามันถ่ายทอดความเป็นมนุษย์ ความสุข ความทุกข์ ความเจ็บปวด ความตาย และความหมายของการมีชีวิตท่ามกลางหายนะได้แตกต่างจากภาคก่อน และทรงพลังมาก ๆ

A Quiet Place Day One 2024 Paramount Pictures

แล้วพอตัวหนังมันขยายพูดไปถึงเมือง โดยเฉพาะเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก สิ่งที่ผู้เขียนรู้สึกได้ก็คือ การสะท้อนภาพของเมืองที่เต็มไปด้วยเสียงและความเคลื่อนไหว กลับถูกโจมตีอย่างรุนแรงจากภัยพิบัติที่ไม่เคยมีใครพบเห็น มันไม่ได้แค่โจมตีคนและเมือง แต่มันยังยึดเอาเสียง ยึดเอาชีวิตของนิวยอร์กไปด้วย ซึ่งชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ 9/11 ที่มันเข้ามาปล้นทำลายชีวิตและเสียงของคนนิวยอร์กไปตลอดกาลแบบกลาย ๆ ในหนังยังสะท้อนไปถึงความย่ำแย่และความรู้ไม่เท่าทันของรัฐในการจัดการกับภัยพิบัติที่ไม่เคยมีแผนรับมือภัยประหลาด ๆ จนสุดท้ายมันก็เป็นจุดบอดที่ทำให้แม้แต่รัฐเองก็ยังต้องล่มสลาย จนนำไปสู่การจัดการและเอาตัวรอดกันเองของคนตัวเล็ก ๆ แบบที่ได้เห็นทั้งใน 2 ภาคก่อน และรวมไปถึงภาคนี้ด้วย

ส่วนในแง่การแสดง แม้ยอมรับว่าแต่แรกจะรู้สึกว่าจะดูไม่เข้ากัน หรือจะมีเสน่ห์พอสำหรับตัวหนังหรือเปล่า (คือก็ยอมรับแหละว่า บทบาทแม่ลูก 3 ของเอมิลี บลันต์ ใน 2 ภาคแรกเป็นอะไรที่ตรึงใจมาก) แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นส่วนผสมที่น่าสนใจ ลูพิตา นียองโก นักแสดงดีกรีออสการ์ ก็ยังคงถ่ายทอดงานแสดงในบทผู้หญิงสันโดษเบื่อโลกที่ต้องเผชิญกับภัยร้ายในแบบเล่นน้อยแต่ได้เยอะ ในขณะที่โจเซฟ ควินน์ ก็สามารถถ่ายทอดความเป็นไอ้หนุ่มมาดดีขี้แหย ที่ไม่ได้แหยเพราะกลัว แต่แหยเพราะจิตใจดีได้ออกมากำลังดี ไม่น้อยไม่มากจนเกินไป

A Quiet Place Day One 2024 Paramount Pictures

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือน้องโฟรโด ที่ต้องชื่นชมว่า หนังที่ไม่ได้มีทุนหนาระดับเมกะบล็อกบัสเตอร์ขนาดนี้ กลับใช้งานโปรดักชันในการทำให้แมวดูเป็นแมวจริง ๆ ถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติ ความเป็นตัวป่วนสถานการณ์ และความแสนรู้อะไรบางอย่างออกมาได้อย่างสมจริงจนทำให้ผู้เขียนลุ้นกับน้องซะยิ่งกว่าคนอีก หนังเรื่องนี้ใช้แมวอย่างคุ้มเลยครับ มีฉากที่น้องมีบทบาทและเสี่ยงตายเยอะอยู่ แต่กลับถ่ายทอดแมวออกมาได้เป็นธรรมชาติที่ดูไม่ออกว่าเป็น CGI หนังเรื่องนี้จึงถือว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่ใช้นักแสดงแมวหรือสัตว์เลี้ยงได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ ดูไปก็ต้องคอยลุ้นไปตลอดว่า สถานการณ์อันตรายแบบนี้ แกอย่าไปวิ่งซนเรื่อยเปื่อยสิว้อยยย… (555)

ในแง่ความระทึกขวัญ ภาคนี้อาจสู้ 2 ภาคแรกไม่ได้แน่นอน และใครที่หวังอยากได้จังหวะระทึกหายใจไม่ทั่วท้อง ลุ้นเกร็งไปกับความเงียบ ภาคนี้ก็อาจจะไม่ได้มีกิมมิกที่แตกต่างจากภาคก่อนหน้ามากนัก เป็นกิมมิกคุ้น ๆ ที่อยู่ในสเกลหนังฟอร์มยักษ์นั่นเอง และตัวหนังก็ไม่ได้พยายามจะให้เป็น Prequel ที่ชัดเจนขนาดนั้น แต่เป็นแนวทางใหม่ในการ Spin-Off ที่ไม่ได้เน้นการสอดแทรกสถานการณ์บีบหัวใจแต่อย่างเดียว แต่เป็นหนังอีกเรื่องที่ใช้ประโยชน์จากการเป็นหนังฟอร์มยักษ์ และรูปแบบของแฟรนไชส์มาเป็นตัวถ่ายทอดชีวิต มิตรภาพ ความตาย และเป้าหมายชีวิตได้อย่างทรงพลัง เอาแค่ว่าดูแมวก็คุ้มแล้ว ส่วนถ้าถามว่าแมวตายไหม ผู้เขียนอยากเข้าไปถามน้องเหมือนกันว่า ตอนนี้แกยังเหลืออีกกี่ชีวิตเนี่ย…


A Quiet Place Day One 2024 Paramount Pictures