[รีวิวซีรีส์] อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม – ผีหลอน ยังไม่โหดเท่าคนหลอน บางตอนนี่อย่างแหล่ม

Release Date

20/08/2024

ผู้กำกับ

พฤกษ์ เอมะรุจิ, สุรพงษ์ เพลินแสง, ชยันต์ เล้ายอดตระกูล, อภิโชค จันทรเสน, ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, ปริญญ์ กีรติรัตนลักษณ์, เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์, เอลิซ่า เปียง

ความยาว

8 ตอน ตอนละ 35-45 นาที

[รีวิวซีรีส์] อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม – ผีหลอน ยังไม่โหดเท่าคนหลอน บางตอนนี่อย่างแหล่ม
Our score
7.0

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

จุดเด่น

  1. บางตอนทำได้ดี หลายตอนดัดแปลงจากเรื่องเล่าได้สร้างสรรค์และเพิ่มความน่ากลัวขึ้นไปอีก นักแสดงหลักหลายคนแสดงได้น่าประทับใจ โปรดักชันดีสมกับขายนานาชาติ

จุดสังเกต

  1. หลากสไตล์มาก บางตอนก็ล้นบางตอนก็ขาดแล้วแต่ความแม่นยำของผู้กำกับ นักแสดงบางคนก็ถ่วงเรื่องให้คนดูอินน้อยลงเหมือนกัน ความพยายามหักมุมบางตอนก็สร้างบาดแผลในการเล่าเรื่องไว้เช่นกัน มีจุดให้ปรับปรุงได้อีก
  • บท

    7.0

  • โปรดักชัน

    8.0

  • การแสดง

    6.5

  • ความสนุกตามแนวหนัง

    7.0

  • ความคุ้มค่าการรับชม

    7.0

เรื่องย่อ: 8 เรื่องเล่าขนหัวลุกจากรายการอังคารคลุมโปง ถูกถ่ายทอดผ่านความคิดสร้างสรรค์ของ 8 ผู้กำกับให้เป็นซีรีส์ที่มีความหลอนหลากสไตล์

จากรายการอังคารคลุมโปง ทางวิทยุคลื่น EFM ของเอไทม์อันเป็นหมุดหมายยอดนิยมอีกแห่งของผู้ชื่นชอบเรื่องสยองขวัญ ทำให้มีเรื่องราวมากมายเป็นคลังเรื่องสยองขวัญจากทั้งแขกรับเชิญและจากทางบ้าน ให้ผู้กำกับหลากสไตล์ได้เลือกสรรมาทำเป็นหนังสั้นในแบบของตนเอง ทั้งนี้ก็ได้แบรนด์ธิงค์ซีเนม่าบริษัทผู้สร้างหน้าใหม่จากเครือดังที่ได้ฝากผลงานไทยที่ตั้งใจยกระดับสู่สากลมาหลายเรื่อง อาทิ หนังสะท้อนสังคมคนจนเมือง ‘RedLife เรดไลฟ์’ หรือซีรีส์สยองชวนคิดอย่าง ‘อาทิตย์อัสดง After Dark The Series’ ให้คอหนังไทยได้ตื่นเต้นมาแล้ว

ครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่ได้ส่งคอนเทนต์สยองขวัญสไตล์ไทยลงเล่นในเวทีใหญ่อย่างเน็ตฟลิกซ์ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้หนังผีไทยกลับมาอยู่หัวแถวความสนใจในระดับโลกอีกครั้งหนึ่ง โดยผ่านเรื่องราวที่คัดสรรอย่างดีจากรายการวิทยุดังมา 8 เรื่อง ส่งต่อให้ผู้กำกับ 8 คนที่ต่างสไตล์กัน

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

น้องสาวที่หายไป

โดย พฤกษ์ เอมะรุจิ (ผู้กำกับ ‘ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก’, ‘อีเรียมซิ่ง’และ ‘บัวผันฟันยับ’)

เล่าเรื่องราวของ อาย (เฌอปราง อารีย์กุล) ผู้ป่วยโรคเครียดภายหลังเผชิญเหตุการณ์สะทือนขวัญ (PTSD) เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมแม่และน้องสาวอย่าง แอล (แพรวา สุธรรมพงษ์) และอายก็เห็นน้องตายต่อหน้าต่อตา ทว่าไม่ใช่แค่เธอที่ต้องบำบัดอาการทางจิต แม่เธอเองอาการยิ่งหนักกว่าเมื่อพยายามทำเหมือนว่าแอลยังมีชีวิตอยู่ในบ้านและเมินเฉยต่ออายไปโดยสิ้นเชิง และที่อายรับไม่ได้ยิ่งกว่าคือเมื่อแม่ไปพึ่งหมอผีทำตุ๊กตาลงอาคมให้เป็นตัวแทนแอลมาอยู่ในบ้าน ก่อนจะกลายเป็นความหลอนที่อายเองก็คาดไม่ถึง

ตอนนี้ดูน่าสนใจด้วยการเชื่อมโยงตุ๊กตาลูกเทพที่ฮิตกันอยู่ช่วงหนึ่งในบ้านเราเข้ากับเหตุการณ์ความสูญเสียที่ส่งผลต่อจิตใจ ซึ่งตัวตุ๊กตาลูกเทพเองหากมองทางจิตวิทยาก็ทำหน้าที่เสริมความมั่นใจให้กับคนที่จิตใจอ่อนแอเช่นกัน ผู้กำกับพฤกษ์ถือว่าทำช่วงของการปูเรื่องราวได้น่าสนใจ มีการใช้กฎต้องปฏิบัติ (Rule of Horror) มาเสริมเงื่อนไขความหลอนได้เหมาะสม ทว่าการแสดงของแม่ในเรื่องนั้นผู้กำกับดูจะตั้งใจให้โดดออกจากความสมจริงและแตกต่างจาก 2 นักแสดงสาวอดีต BNK48 ที่เล่นกันเป็นธรรมชาติกว่ามากไปหน่อย จนทำให้คนดูอาจไม่อินกับช่วงไคลแม็กซ์ของเรื่องเท่าที่ควร และจุดที่น่ากังวลใหญ่ก็คงเป็นการนำเสนอเจ้าวิญญาณร้ายที่เหมือนคนสวมชุดยางมากไปหน่อย แต่โดยรวมก็เป็นตัวเปิดที่ดีด้วยการใช้แม่เหล็กอย่างเฌอปรางและแพรวามาโชว์ทักษะการแสดงในเรื่องนี้

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

ชุดวิวาห์อาถรรพ์

โดย สุรพงษ์ เพลินแสง (ผู้กำกับ ‘CRACKED ภาพหวาด’ และ ‘Coin Digger เกม สูญ เหรียญ’)

มิลค์ (ปาณิสรา ริกุลสุรกาน) ช่างตัดเย็บชุดแต่งงานได้รับการเสนองานเงินเดือนสูงจากร้านใหม่ที่กำลังขาดช่างตัดเย็บ ทว่าช่วงทดลองงานนั้นเธอต้องอยู่เฝ้าร้านที่ดูน่าขนลุกเพียงลำพัง โดยที่เธอต้องรับมือกับแรงกดดันจากแม่ที่เร่งเร้าให้แต่งงาน แต่แฟนหนุ่มของเธออย่าง แบงค์ (อรรถพล เทศทะวงศ์) ก็พยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องจัดงานมาตลอด แต่แล้วบางอย่างที่อยู่ในร้านก็ทำให้เธอเริ่มเปลี่ยนไป

เป็นตอนที่ใช้เซตติงของร้านชุดแต่งงานที่เป็นอาคารหลายชั้น มีมุมมืดอับทึบ บันไดแคบที่ดูไร้ทางหนีได้ดีมาก ทั้งยังชวนหลอนด้วยราวแขวนชุดเจ้าสาวมากมาย และหุ่นลองชุดที่วางเรียงรายอีกด้วย ฉากหลังยังลงตัวกับปมในเรื่องที่ตัวละครอยากแต่งงานเพื่อลดแรงกดดันจากทางบ้าน นอกจากนี้จุดหักเหและเผยความจริงของเรื่องที่ว่าด้วยปมความคลั่งผอมก็ดูชวนตกใจได้มากพอควร ทั้งยังหยิบยกประเด็นเรื่องยาลดความอ้วนที่เป็นอันตรายได้อย่างน่าสนใจ และมีฉากเปิดเรื่องอย่างเข็มเย็บผ้าทะลุนิ้วก็น่าจะซี้ดปากไปตาม ๆ กันซึ่งเรียกร้องความสนใจผู้ชมได้ทันที คือเห็นเลยว่าวิสัยทัศน์ด้านภาพบางอย่างของผู้กำกับนั้นน่าสนใจ ทว่าเส้นเรื่องระหว่างปมแต่งงานกับปมความผอมมันกลับเป็นสองเส้นที่แข่งกันเองและทำให้ตัวเนื้อหาหลักที่ปูความขัดแย้งประเด็นความสำคัญของการจัดงานแต่งที่มาแต่ต้นมันดูจางไปอย่างน่าเสียดาย

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

ครอบครัววิปลาส

โดย ชยันต์ เล้ายอดตระกูล (ผู้กำกับ ‘อาทิตย์อัสดง’)

เพราะการกระทำผิดในหน้าที่เรื่องรับส่วย นายตำรวจใหญ่ (วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์) จึงต้องพาภรรยา (ลภัสรดา ช่วยเกื้อ) และลูก ๆ (ปูน มิตรภักดี และนฤภรกมล ฉายแสง) ที่ความสัมพันธ์ง่อนแง่นเป็นทุนเดิมจึงต้องย้ายมาหลบสื่อมวลชนในเซฟเฮาส์ของตำรวจชั่วคราว ซึ่งทำให้เพิ่มความเครียดสะสมระหว่างกันเข้าไปอีก จนกระทั่งลูกชายของบ้านได้พบห้องปิดตายที่มียันต์ผนึกประตูไว้ จึงทำให้ความระอุของสมาชิกในครอบครัวที่มีอยู่แล้วกลายเป็นระเบิด

ถ้าว่ากันตามความรู้สึก นี่เป็นตอนแรกที่ให้ความรู้สึกยกระดับเป็นสากลจริง ๆ ไม่ใช่แค่ด้านโปรดักชันที่ 2 ตอนก่อนหน้าก็ทำได้ดี ทว่าเป็นวิธีการเล่าเรื่องและความซับซ้อนในการพัฒนาไปของเรื่องราว รวมถึงสัญญะทางสังคมที่สอดแทรกพอประมาณจนเป็น ‘สืบสันดาน’ แบบบาง ๆ และมุกในการหลอกหลอนที่ทำได้น่าสนใจ ถ้าจะมีจุดที่ต้องระวังก็คงเป็นการใส่ปมของครอบครัวแต่ละคนที่มากไปจนอาจเก็บจบได้ไม่ดีนัก และช่วงการจบเรื่องราวและการเฉลยที่อาจจะคลุมเครือปลายเปิดชวนให้ถกกัน ซึ่งขัดกับสามัญสำนึกของคอหนังไทยมากไปสักนิด ถ้าให้ดีอาจจะต้องเพิ่มฉากขยายอีกสักหน่อย

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

คำสาบาน

โดย อภิโชค จันทรเสน (เขียนบท ‘Homestay โฮมสเตย์’)

ความสัมพันธ์ 8 ปีของสองคู่รัก นัท (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) กับดาว (ภาลฎา ฐิตะวชิระ) กำลังถูกทดสอบ ภายใต้การสาบานต่อเจ้าแม่เขาเชิงดำที่ขึ้นชื่อเรื่องพรความรัก แต่แท้จริงยังซ่อนตำนานคำสาปของการลงโทษคู่รักที่โป้ปดปกปิดความจริงระหว่างกัน โดยที่นัทและดาวต่างไม่รู้ตำนานนี้มาก่อน

เป็นตอนที่อาจพูดว่าเป็นหนังดราม่าความสัมพันธ์มากเสียกว่าเป็นหนังสยองขวัญ เพียงแต่เอาผีเจ้าแม่มาเป็นตัวผลักให้ต่างฝ่ายต่างต้องสารภาพความรู้สึกในใจออกมา ซึ่งค่อย ๆ เพิ่มจากเรื่องปกปิดทั่วไปแบบคู่รักไปจนถึงที่เข้มข้นและพร้อมหักความสัมพันธ์ ทว่ามันก็ยังเป็นหนังรักมากกว่าหนังแค้นใส่กันเพราะต่างมีเหตุผลในการปกปิดคนรักทั้งนั้น มันจึงทำให้ภาพความแค้นน่ากลัวของเจ้าแม่ดูขัดกับมู้ดของเรื่องไปพอควร แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้กำกับพยายามหาสีสันให้การเดินเรื่องที่ดูไม่มีอะไรมากนักให้มีฉากนั้นฉากนี้ต่อเรื่องไปได้ดีสมกับที่มาจากสายคนเขียนบท แต่อย่างไรก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นตอนที่เบาต่อความรู้สึกและการจดจำที่สุดสำหรับคอหนังสยองขวัญในซีรีส์นี้

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

ครูเวร

โดย ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล (ผู้กำกับ ‘คน ผี ปีศาจ’ และ ’13 เกมสยอง’)

ออย (ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช) ครูสาวใหม่ที่รอบรรจุรับราชการ ต้องตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกระหว่างแรงกดดันจากแม่ที่อยากให้เธอเป็นข้าราชการเพื่อทางบ้าน ในขณะที่เธอก็ยังอยากมีชีวิตแบบหนุ่มสาวสมัยใหม่ และต้องถูกเพ่งเล็งกดดันจากครูสูงวัยที่มองว่าเธอเป็นแม่พิมพ์ที่ดีไม่ได้ แล้วบททดสอบสำคัญก็มาถึงออยเมื่อเธอไปเกี่ยวข้องกับครอบครัวประหลาด (วาสนา ชลากร) ของเด็กในชั้นที่ไม่ยอมมาเรียนจนลือว่าตายไปแล้ว จนค่ำคืนที่เธอต้องอยู่เวรดึก เด็กที่คิดว่าตายไปแล้วก็มาปรากฏตัวในห้องเรียน

ต้องยอมรับว่าตัวหนังมีสไตล์ที่โดดเด่นจากเรื่องอื่นอย่างชัดเจน การใช้แสงนีออนสีสันแบบไฟงานวัดจนเหนือจริงแบบไทย ๆ รวมไปถึงบางมุมที่ชวนนึกถึงความคลั่งของคนทรงใน ‘คน ผี ปีศาจ’ ผลงานเก่าของผู้กำกับด้วย อย่างไรก็ดีในความหวือหวาอันไม่กลมกลืนจนแสบความรู้สึก เราจะได้เห็นประเด็นความเชื่องมงายของสังคมไทยที่ความศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นเรื่องห้ามแตะต้อง กับเรื่องปัญหายาเสพติดที่มอมเมาและทำลายสมองผู้คนในไทยได้ไม่ต่างกันได้อย่างน่าสนใจ และอาจรวมถึงประเด็นข่าวครูเวรสาวที่ถูกบุกทำร้ายเพราะรัฐไม่มีงบจ้างคนเฝ้าโรงเรียนก็ถูกโยงมาพูดถึงได้ดี แต่อย่างไรก็ตามในแง่หนังบันเทิงนั้น ผู้กำกับเล่นเอามันมือมากเกินกรอบหนังสยองขวัญไปหน่อย มีทั้งจุดที่ล้นและจุดที่พร่องในเวลาเดียวกันอย่างน่าเสียดาย จนกลายเป็นความไม่สมเหตุสมผลและยากที่จะอินไป

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

สาวข้างห้อง

โดย ปริญญ์ กีรติรัตนลักษณ์ (ผู้กำกับ ‘I See You พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง’)

หลังจากลาออกจากงานย้ายมาอยู่อะพาร์ตเมนต์เพื่อเทรดหุ้นเต็มตัว เบิร์ด (ณัฏฐ์ กิจจริต) ก็พบว่าสาวเจ้าของห้องข้าง ๆ (ชาราฎา อิมราพร) มีแต่เรื่องราวแปลก ๆ แถมเธอยังส่งกระดาษเขียนเตือนถึงกฎแปลก ๆ ให้เบิร์ดต้องทำตามเพื่อผ่านประสบการณ์สยองที่ยากจะเข้าใจหลังเที่ยงคืนในทุกคืนไปให้ได้

นับว่าเป็นอีกตอนที่มีความอินเตอร์และให้รสสยองขวัญแบบน่าสนใจ ยิ่งแปลกใจว่าผลงานก่อนหน้าของผู้กำกับจะเด่นไปทางซิตคอมมากกว่า แต่กับเรื่องนี้ได้นำกฎต้องห้าม (Rules of Horror) มาใช้เดินเรื่องได้อย่างคมคาย มีความซับซ้อนและซ่อนจุดหักเหได้ทำถึง ยิ่งนำเรื่องความเชื่อแบบไทย ๆ มาใช้ได้เข้ากับรสชาติสากลด้วยยิ่งเพิ่มจุดเด่นให้เรื่องนี้ไปอีก และประเด็นเรื่องความสุขฉาบฉวยของคนยุคปัจจุบันที่ลามไปทั้งเรื่องความสัมพันธ์ การวางแผนอนาคต ความอดทนต่องาน ก็เป็นอะไรที่เคลือบอยู่ตลอดอย่างน่าสนใจ

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

ยายไม่ใช่ยาย

โดย เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ (ผู้กำกับ ‘The Collector คนประกอบผี’ และเขียนบท ‘บอดี้ ศพ 19’)

ยาย (นีรนุช ปัมทสูต) แม่ของมณฑาเป็นโรคหลง ๆ ลืม ๆ และเกิดหายตัวไประหว่างไปปล่อยปลาที่ริมแม่น้ำ แม้มณฑา (น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์) เองก็อยู่ตรงนั้น ทำให้เธอโทษตัวเองที่เป็นลูกที่ไม่ดี ซ้ำเมื่อกลับมาบ้านยังถูกลูกแท้ ๆ ของเธออย่าง หนูเล็ก (สุพิชชา สังขจินดา) ด่าทอว่าเธอเป็นแม่ที่แย่ด้วยที่ทิ้งลูกให้โตมากับยายแล้วยังทำยายหายไป มณฑาหมดหนทางในการตามหายายจนต้องพึ่งคนทรงทำพิธีผูกรองเท้าเรียกแม่ตัวเองกลับบ้าน ทว่ามีกฎสำคัญคือ ต้องนึกถึงใบหน้าแม่เท่านั้น ห้ามนึกถึงคนอื่น การกระทำแปลกประหลาดของมณฑาถูกจับตาดูโดยหนูเล็กที่ยิ่งเกลียดแม่ของตัวเองมากขึ้นทุกที

ผู้กำกับมีไอเดียสร้างสรรค์ที่ไม่ธรรมดามาเสมอ และเรื่องนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ผูกโยงเรื่องสังคมผู้สูงอายุและอาการอัลไซเมอร์ กับความสัมพันธ์ของครอบครัวที่มีแต่ผู้หญิงในเรื่อง จนนำมาสู่เรื่องราวน่าขนลุกได้ดี วิสัยทัศน์ด้านภาพอย่างฉากปลาไหลนั้นทำได้เหนือคาดมาก ขณะที่ความเป็นผีบ้าผีบอไล่ฆ่าแบบ ‘Evil Dead’ เองก็ทำได้อยู่ในระดับดีพอประมาณ และที่สำคัญการเฉลยจุดหักเหของเรื่องราวนั้นซ่อนไว้ก่อนหน้าได้เนียน อย่างไรก็ดีซับซ้อนมากก็มีแผลมากตาม ซึ่งเรื่องนี้มีฉากที่ไม่สมเหตุสมผลเมื่อเฉลยอยู่เช่นกัน

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม

คำสาปส่งต่อ

โดย เอลิซ่า เปียง (ผู้กำกับหนังสั้น ‘The More (เดิร์น) Mom’)

เปิ้ล (ญารินดา บุนนาค) เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เปิดร้านซักรีดเพื่อหาเงินส่ง แก้ว (มาลาริน ฉัตรวัฒนาศิลป์) ลูกสาวตัวน้อยให้ได้เข้าโรงเรียนดี ๆ แม้จะต้องจ่ายค่าบำรุงการศึกษาแพงหูฉี่จนเป็นหนี้ชาวบ้านไปทั่วก็ตาม แต่แล้ววันหนึ่งที่เธอดูรายการอังคารคลุมโปงเธอได้เห็นวิญญาณโผล่ที่ขอบจอของรายการ ซึ่งหลังจากนั้นเหมือนผีร้ายจะทะลุจอเข้ามาสิงสู่ในบ้านของเธอเหมือนคำสาปที่ติดต่อเป็นเชื้อโรค

ทั้งชื่อเรื่องและวิธีการของการหลอกหลอน ย่อมชวนให้นึกถึงหนังวิดีโอต้องสาปจากญี่ปุ่นอย่าง ‘The Ring’ อยู่ในที แต่อย่างไรก็ดีจุดแข็งของเรื่องนี้อยู่ที่ผู้กำกับสามารถดึงการแสดงสะท้อนความตึงเครียดของแม่เลี้ยงเดี่ยวในสังคม ที่ต้องปากกัดตีนถีบเพื่ออนาคตลูกสาวได้อย่างน่าสนใจพร้อมกับการจิกกัดสังคมเบา ๆ นอกจากนั้นยังนำเสนอผีและการหลอกของมันได้อย่างน่าสนใจ แม้จะได้กลิ่นอายของหนังอื่นหลายเรื่อง โดยเฉพาะฟากเอเชียเป็นแกนก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นตอนที่ลงตัวทีเดียว เสียดายเพียงว่าถ้าจะเล่นความขนลุกแบบทลายกำแพงโลกความจริงแบบใน ‘สี่แพร่ง ตอน ยันต์สั่งตาย’ ก็น่าจะเป็นการจบที่ถูกพูดถึงได้มากเช่นกัน

โดยสรุป ‘อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม’ นับเป็นซีรีส์เรื่องสั้นสยองขวัญที่ทำได้ค่อนข้างดี ไม่ถึงกับปล่อยสไตล์ผู้กำกับละเลงจนผิดตระกูลสยองขวัญ ทว่าก็มีกรอบแบบไม่แคบเกินไปให้ได้แสดงฝีไม้ลายมือสร้างความแตกต่างในแต่ละตอน บางตอนทำได้ดีในแบบที่การพูดว่าอยากยกระดับสู่สากลนั้นไม่เกินจริง ในขณะที่บางตอนก็ยังมีพลาดนั่นนี่เป็นรอยแผลอยู่บ้างตามความแม่นยำของผู้เล่าเรื่อง แต่สิ่งหนึ่งที่ซีรีส์นำเสนอใกล้เคียงกันหลายตอนและน่าสนใจคือ ความบิดเบี้ยวและความเจ็บป่วยของสังคมหรือผู้คนนั้น เป็นต้นเหตุของความหลอนชวนขนลุกจนถึงหวาดผวาได้มากกว่าเรื่องผี ๆ สาง ๆ ใดเสียอีก ดูจบก็น่ามาถกกันต่อว่าเราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร หรือจะให้เป็นเพียงภาพสะท้อนในละครผีหนังผีกันไปแบบนี้ก็พอ เพราะผู้กำกับแต่ละคนเขาก็สะท้อนปัญหาสังคมออกมาเด่นชัดเสียขนาดนี้แล้ว

อังคารคลุมโปง: เอ็กซ์ตรีม