[รีวิวซีรีส์] Monsters: The Lyle and Erik Menendez Story: เรื่องเล่าหลากมุมมองของคดีฆาตกรรมหัวเลี้ยวหัวต่อ
Our score
7.6

Release Date

19/09/2024

แนว

ระทึกขวัญ/อาชญากรรม

จำนวนตอน

9 ตอน

เรตผู้ชม

18+

ครีเอเตอร์

เอียน เบรนแนน (Ian Brennan), ไรอัน เมอร์ฟีย์ (Ryan Murphy)

[รีวิวซีรีส์] Monsters: The Lyle and Erik Menendez Story: เรื่องเล่าหลากมุมมองของคดีฆาตกรรมหัวเลี้ยวหัวต่อ
Our score
7.6

Monsters: The Lyle and Erik Menendez Story | ปีศาจ: เรื่องราวของไลล์และเอริค เมเนนเดซ

จุดเด่น

  1. โปรดักชันยุค 90s ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างประณีตสมจริง
  2. การแสดงของเหล่านักแสดงที่ทำได้ถึงในบทบาทของตัวเอง ถ่ายทอดบทบาทออกมาได้ใกล้เคียงกับตัวจริงมาก ๆ

จุดสังเกต

  1. มีเหตุการณ์ที่ถูกเล่าซ้ำ ๆ และยืดยาวเกินความจำเป็นอยู่พอสมควร
  2. ช่วงหลังจาก Ep.6 เป็นต้นไปดำเนินเรื่องค่อนข้างราบเรียบ
  • คุณภาพด้านการแสดง

    8.1

  • คุณภาพโปรดักชัน

    7.6

  • คุณภาพของบทภาพยนตร์

    7.2

  • ความบันเทิง

    7.8

  • ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

    7.5


เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ‘Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story’ (2022) ลิมิเต็ดซีรีส์อาชญากรรมของ Netflix ที่บอกเล่าเรื่องราวของ เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ (Jeffrey Dahmer) ผลงานของ 2 ครีเอเตอร์ ไรอัน เมอร์ฟีย์ (Ryan Murphy) จากซีรีส์ ‘American Horror Story’ และเอียน เบรนแนน (Ian Brennan) จากซีรีส์ ‘Glee’ (2009–2015) กลายเป็นซึรีส์แห่งปีที่คว้า 1 รางวัลจากเวที Primetime Emmy Awards และ 1 รางวัลลูกโลกทองคำ จากการแสดงของอีแวน ปีเตอร์ส (Evan Peters)

จนมาถึงปีนี้ ทีมงานชุดเดิมเลือกนำเอาเรื่องราวคดีฆาตกรรมของพี่น้องเมเนนเดซ ที่ประกอบไปด้วย ไลล์ เมเนนเดซ (Lyle Menendez) วัย 21 ปี และ เอริก เมเนนเดซ (Erik Menendez) น้องชายวัย 19 ปี ผู้ก่อเหตุใช้ปืนลูกซองสังหาร โฮเซ เมเนนเดซ (José Menendez) และคิตตี หรือ แมรี หลุยส์ เมเนนเดซ (Mary Louise Menendez) พ่อและแม่ของตนเองอย่างโหดเหี้ยม กลายเป็นข่าวใหญ่ของสหรัฐอเมริกาในยุค 90s มาตีแผ่ในซีรีส์ตีแผ่ฆาตกรปีศาจที่ใช้ชื่อไตเติลว่า ‘Monsters: The Lyle and Erik Menendez Story’ (อ่านรายละเอียดเรื่องจริงเกี่ยวกับคดีนี้)

Monsters The Lyle and Erik Menendez Story 2024 NetflixTH

โดยในซีซันนี้บอกเล่าเรื่องหลังเหตุการณ์การฆาตกรรม โฮเซ เมเนนเดซ (ฆาเวียร์ บาร์เดม – Javier Bardem) นักธุรกิจในอุตสาหกรรมเพลงและภาพยนตร์ และภรรยา แมรี หลุยส์ เมเนนเดซ (โคลอี เซเวอนี – Chloë Sevigny) หรือ คิตตี ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 20 สิงหาคม ปี 1989 ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุก็คือ ไลล์ เมเนนเดซ (นิโคลัส อเล็กซานเดอร์ ชาเวซ – Nicholas Alexander Chavez) และ เอริก เมเนนเดซ (คูเปอร์ โคช – Cooper Koch) ลูกชายทั้ง 2 คนของพวกเขา ไลล์และเอริกใช้ปืนลูกซองยาวลงมือสังหารพ่อและแม่ของตัวเองจนเสียชีวิตในห้องนั่งเล่นภายในคฤหาสน์หลังงามย่านเบเวอรีฮิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

แต่แล้วเรื่องกลับแดง เพราะจิตแพทย์ ดร. เจอโรม โอซีล (ดัลลัส โรเบิร์ตส์ – Dallas Roberts) ลักลอบบันทึกเสียงคำสารภาพของทั้งคู่เอาไว้ ทำให้ทั้งคู่โดนจับกุมและกลายเป็นข่าวโด่งดัง จนกระทั่งเลสลี แอบรัมสัน (อารี เกรย์เนอร์ – Ari Graynor) หัวหน้าทนายความของเอริกยื่นมือเข้ามาช่วย พวกเขากลับเปิดเผยแรงจูงใจในการก่อเหตุฆาตกรรมว่าเป็นเพราะพวกเขาเคยถูกพ่อล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่วัยเด็ก พวกเขาจึงต้องเผชิญกับการต่อสู้ในชั้นศาล และภาพลักษณ์ที่ขัดแย้งระหว่างเหยื่อผู้กลายเป็นฆาตกร และเด็กนรกผู้วางแผนสังหารพ่อแม่เพื่อชิงมรดก

Monsters The Lyle and Erik Menendez Story 2024 NetflixTH

หากมองโดยรวม ๆ ‘Monsters’ ก็ยังคงใช้โครงสร้างการเล่าเรื่องของฆาตกร และเหตุฆาตกรรม รวมทั้งเล่าเรื่องกระบวนการทางกฏหมาย และกระบวนการยุติธรรมด้วยโครงสร้างที่คล้ายกับ ‘Dahmer’ นะครับ ตัวหนังจะค่อย ๆ เริ่มจำลองคดีฆาตกรรมให้เราได้เห็นว่าในวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ฆาตกรจะถูกจับกุม และหลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของการสำรวจองคาพยพทุกด้านทุกมุมที่เกิดขึ้นของฆาตกร และเหตุฆาตกรรมนั้น ๆ ตั้งแต่เหตุจูงใจ การดำเนินการทางกฏหมาย การตัดเข้าซีน Courtroom Drama ปรากฏการณ์ทางสังคมที่มีต่อตัวฆาตกร และย้อนกลับไปสำรวจเบื้องลึกแห่งเหตุฆาตกรรม ตั้งแต่ปูมหลังชีวิต สิ่งแวดล้อม ค่านิยม และระบบสังคมที่จุดชนวนให้คนธรรมดา ๆ กลายเป็นปีศาจลุกขึ้นมาคร่าชีวิตคน

แต่สิ่งที่ในซีซันนี้ทำออกมาได้แตกต่างก็คือ การจับโฟกัสและขยายเรื่องราวของพี่น้องเมเนนเดซในฐานะที่พวกเขาไม่ได้มีท่าทีของการเป็นฆาตกรมาตั้งแต่แรก จริงอยู่ที่พวกเขาเป็นเด็กที่ถูกฐานะ ภาพลักษณ์ สภาพแวดล้อม และการเลี้ยงดูแบบกดดันคาดหวังจากพ่อเป็นตัวบ่มเพาะ แต่พวกเขาก็เป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยรุ่น แถมยังเป็นลูกคนรวยที่เกิดมาแล้วสบายเลย ไม่ต้องดิ้นรนเหมือนคนรุ่นพ่อที่เป็นผู้อพยพชาวคิวบา ในขณะที่ เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ คือคนที่เติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูที่บ่มเพาะให้เขากลายเป็นฆาตกรโดยธรรมชาติ พี่น้องเมเนนเดซเป็นเพียงวัยรุ่นที่ตัดสินใจลงมือทำทุกอย่างโดยขาดวิจารณญาณผิดชอบชั่วดี

Monsters The Lyle and Erik Menendez Story 2024 NetflixTH

อีกอย่างที่ค่อนข้างต่างออกไปค่อนข้างชัดเจนก็คือ ถ้าใครที่ชอบความเป็น True Crime ที่เน้นเรื่องราวดราม่า และพาไปสำรวจเรื่องราวรอบ ๆ ด้านของฆาตกรและคดีฆาตกรรมแบบเดียวกับที่ ‘Dahmer’ เป็น ก็อาจจะรู้สึกช็อกกับการนำเสนอในซีซันนี้นะครับ เพราะด้วยความที่เรื่องราวของคดีความนี้มีการนำเสนอผ่านคำให้การของทั้งคู่หลังจากที่ถูกจับกุม สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ตัวซีรีส์ไม่ได้แค่นำเสนอเรื่องราวจากมุมของไลล์และเอริกซึ่งไม่มีอะไรที่อ้างอิงได้ 100% ว่าทั้งคู่พูดจริงหรือไม่ สิ่งที่ซีรีส์นำเสนอจึงเป็นการนำเสนอรายละเอียดคดีจากมุมมองที่แตกต่างกัน ตั้งแต่มุมมองของคนในกระบวนการยุติธรรม มุมมองจากทนาย สื่อ รวมถึงคนที่ติดตามข่าว ที่มีทั้งรู้สึกเห็นใจ และเกลียดชัง ซึ่งตัวสารคดีพยายามฉายภาพและเรื่องราวซ้ำ ๆ จากหลาย ๆ มุมที่อาจทำให้รู้สึกเบื่อที่จะเห็นซีนแบบเดิมซ้ำ ๆ อยู่พอสมควร

รสชาติก็เป็นอีกอย่างที่ซีซันนี้ค่อนข้างต่างออกไปครับ เพราะในขณะที่ ‘Dahmer’ มีเนื้อหาที่มีความเป็นกึ่ง ๆ True Crime ที่ซีเรียสจริงจังประมาณหนึ่ง แต่การนำเสนอของ ‘Monsters’ กลับดูมีทีท่าที่เน้นความบันเทิงมากขึ้น ผ่อนความดาร์กลงประมาณหนึ่ง และหลายครั้งก็แอบเลยเส้นไปแตะความเป็นตลกร้าย Ironic ขำลึก ๆ ที่พยายามถ่ายทอดภาพความวิกลจริต ตั้งแต่ความกินหรูอยู่สบาย การพยายามแสร้งทำเป็นเศร้า ความจู้จี้จุกจิกสไตล์ลูกคนรวย หรือแม้แต่การถ่ายทอดความคิดและวิจารณญาณอันแสนจะบ้องตื้นของเด็กหนุ่ม เมื่อต้องเผชิญและตัดสินใจในการใช้ชีวิต และการเผชิญกับสถานการณ์กดดัน แต่พาร์ตตรงไหนที่ดราม่าก็ยังหนักหน่วงและโหดร้ายจนเล่นเอาตึงเครียดไม่น้อยเหมือนกัน

Monsters The Lyle and Erik Menendez Story 2024 NetflixTH

สำหรับผู้เขียน กราฟเส้นความสนุกจะค่อย ๆ เชิดหัวขึ้นสุดแถว ๆ ประมาณปลาย Ep. 3 เป็นต้นไปจนถึงประมาณ Ep. 6 ครับ เป็นช่วงที่ไลล์และเอริกถูกจับกุมแล้ว และมีความพยายามจะต่อสู้ทางกฏหมาย ใน Ep. 4 จะมีจุดไคลแม็กซ์ จนถึง Ep. 5 ที่เป็นการเล่าเรื่องการสนทนาของเอริกกับทนายเลสลีแบบลองเทกยาว ๆ 35 นาที ในขณะที่ Ep. 6 คือการนำเสนอภาพความล่มสลายของครอบครัวที่เริ่มต้นมาจากคนรุ่นพ่อแม่ที่พยายามจะทำตามความฝันตามวิถี American Dream และความเป็นปีศาจของพวกเขาที่ผ่องถ่ายสู่คนรุ่นลูก

และ 3 Ep. สุดท้ายเป็นการนำเสนอเรื่องราวขั้นตอนการพิจารณาคดีในชั้นศาลในแบบ Courtroom Drama คดีจากมุมมองของสื่อ แฟนคลับ คณะลูกขุน และผลพวงจากชื่อเสียงของเขาต่อผู้คนที่เห็นอกเห็นใจและก่นด่าประณามพวกเขา ที่เอาจริง ๆ กราฟความสนุกก็ค่อนข้างปักหัวลง เป็นพาร์ตที่มีความน่าเบื่อประมาณหนึ่งแหละ โดยเฉพาะการให้รายละเอียดที่พูดถึงไปแล้วซ้ำ ๆ แต่ในรายละเอียดก็ยังมีประเด็นเก็บตกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้พอจับและดึงความสนใจได้อยู่

Monsters The Lyle and Erik Menendez Story 2024 NetflixTH

สิ่งที่เป็นทีเด็ดทีขาดอีกอย่างของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือบรรดานักแสดงที่เรียกว่าทำได้ในระดับที่น่าชื่นชมทีเดียว ทั้งตัวของ 2 นักแสดงหนุ่มทั้งอเล็กซานเดอร์ ชาเวซ ผู้รับบทไลล์ ที่เต็มไปด้วยความฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดตามสไตล์พ่อ ในขณะที่โคช ผู้รับบทเป็นเอริก คือขั้วตรงข้ามที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหวราวกับแม่ แต่ทั้งคู่ก็แสดงได้ออกมาทั้งน่าสงสารและน่าหมั่นไส้เช่นเดียวกัน ในขณะที่บาร์เดม ผู้รับบทโฮเซ ก็เรียกได้ว่าไม่เสียราคานักแสดงออสการ์ เพราะสามารถถ่ายทอดมิติของความเป็นพ่อผู้เย็นชาและเข้มงวดกวดขันได้เข้มข้นมาก ในขณะที่เกรย์เนอร์ ก็สามารถรับบทเป็นทนายเลสลี ผู้หาช่องทางแก้ต่างให้กับคดีความของทั้งคู่ได้อย่างมีสีสันน่าติดตามไม่น้อย

แม้ตัวซีรีส์เองจะมีข้อสังเกตตรงการให้รายละเอียดจำนวนมากและซ้ำซ้อนมากพอสมควร รวมทั้งสไตล์ความตลกร้ายที่หลายคนอาจรู้สึกแปร่งรสไปจาก ‘Dahmer’ แต่สิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าสนใจไม่น้อยก็คือการนำพาคนดูเข้าไปเป็นเสมือนลูกขุนคนหนึ่งที่ต้องพิจารณาความถูกผิดจากบรรดาข้อมูลที่แผ่แบหรา ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากของพี่น้องเมเนนเดซเอง ข้อมูลจากทนาย ตำรวจ อัยการ พยาน หรือแม้แต่ข้อมูลจากกระแสสังคมรวมถึงสื่อ ซีรีส์เรื่องนี้แม้จะมีบทสรุปอย่างที่รู้ ๆ กัน แต่ด้วยข้อมูลที่มาจากหลายด้านก็ชวนให้คนดูชั่งน้ำหนักว่าอะไรที่จริงหรือโกหก น่าสงสารหรือน่าสมเพช เป็นเหยื่อ เป็นปีศาจ หรือเป็นทั้ง 2 อย่าง ซึ่งบางทีนั่นอาจเป็นหน้าที่ของผู้ชมที่จะเชื่อมโยงปะติดปะต่อ และเลือกที่จะเชื่อและไม่เชื่อได้ด้วยตนเอง


Monsters The Lyle and Erik Menendez Story 2024 NetflixTH