[รีวิวซีรีส์] Light Shop: ดราม่าน้ำตาแตกเปิดจักรวาลคังพุลแบบตั้งตัวไม่ทัน

Release Date

04/12/2024

ความยาว

8 ตอน ตอนละประมาณ 40 นาที

Our score

8.0

Light Shop

จุดเด่น

วิธีการเล่าที่หลอกล่อผู้ชมด้วยแนวหนังหลายสไตล์ ทั้งสยองขวัญ ลึกลับ เขย่าขวัญ แอ็กชัน ก่อนจะมาเซอร์ไพรส์ด้วยดราม่าหนัก ๆ ทำได้น่าตื่นเต้น
นักแสดงตัวท็อปจัดเต็มทั้ง จูจีฮุน, พักโบยอง, อีจุงอึน, แบซองอู สมทบด้วยดาวรุ่งที่น่าติดตามอีกหลายคน
การกำกับซีรีส์ครั้งแรกของนักแสดงรุ่นเก๋า คิมฮีวอน ที่ทำได้เยี่ยม และบทต้นทางที่ดีจากคังพุล เป็นการขยายแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่เกาหลีที่น่าตื่นเต้นมาก ๆ

จุดสังเกต

เส้นเรื่องของนักสืบดูโดดออกจากคนอื่นมากเกินไป
บางเส้นเรื่งอต้องการคำอธิบายเชิงวัฒนธรรมความเชื่อเพิ่มเข้ามา ทำให้อาจไม่ค่อยอินด้วยมากนักโดยเฉพาะคู่ของหญิงลากกระเป๋ากับชายหนุ่มนั่งรถเมล์

บท

8.5
โปรดักชัน

8.0
การแสดง

7.5
ความสนุกตามแนวหนัง

8.5
ความคุ้มค่าการรับชม

8.4

เรื่องย่อ: เหล่าชายหญิงต่างเคยได้ยินเรื่องซอยเปลี่ยวแสนน่ากลัวที่มีเพียงร้านขายหลอดไฟลึกลับที่เจ้าของเป็นคุณลุงสวมแว่นตาดำเปิดร้านอยู่เพียงลำพัง ยิ่งเหล่าคนแปลกหน้าที่แวะเวียนมาในซอยนี้ก็ต่างดูไม่ปกติเลยสักคน

เว็บตูนของคังพุล (Kang Full) นั้นถูกจับตามองกันมานานแล้วว่ามีศักยภาพในการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ มีหนังและแอนิเมชันหลายเรื่องที่หยิบจับงานเหล่านั้นไปเล่า แต่ก็เป็นเพียงการนำไอเดียไปใช้เฉพาะเรื่องไป เช่น หนังยาว ‘Apt.’ (2006) และแอนิเมชันความยาว 100 นาที เรื่อง ‘Timing’ (2014) จนกระทั่งการปรากฏตัวของซีรีส์ออริจินัลคอนเทนต์จากเกาหลีทาง Disney+ เรื่อง ‘Moving’ (2023) ได้ถูกนำเสนอและกลายเป็นปรากฏการณ์แห่งปีก่อน

ก็ทำให้คนจับจ้องว่าในเมื่อเว็บตูนของคังพุลยังมีเชื่อมโยงตัวละครไปในอีกหลายเรื่องหลังจากนั้น อนาคตของแฟรนไชส์นี้จะออกมาเป็นอย่างไร ทั้งนี้ก็มีคนคาดว่าภาพของแฟรนไชส์อาจจะชัดจริง ๆ หากมีการสร้าง ‘Timing’ ฉบับคนแสดง เพราะเนื้อหาและตัวละครจะเชื่อมโยงกับ ‘Moving’ เช่นเดียวกับในเว็บตูนเรื่อง ‘Bridge’ ทว่าคำตอบของการต่อยอดในลักษณะจักรวาลขยายนั้นกลับกลายเป็นซีรีส์ที่ดูทีแรกเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องใด ๆ แต่ก็มาเปิดการมีอยู่ของจักรวาลคังพุลกันแบบไม่ทันรู้ตัวเลยทีเดียวอย่าง ‘Light Shop’

‘Light Shop’ สร้างจากเว็บตูนชื่อ ‘Lighting Store’ ในปี 2011 นับเป็นแนวเขย่าขวัญลึกลับเรื่องที่ 5 ของคังพุล ซึ่งคังพุลมักจะเขียนเว็บตูนหลายแนวจับได้เป็น 3 เส้นใหญ่ ๆ คือแนวโรแมนติกอย่าง ‘Fool’ ที่เคยไปสร้างเป็นหนังเรื่อง ‘BA:BO’ (2008) หรือแนวสยองขวัญปนลึกลับที่เริ่มต้นด้วย ‘Apartment’ และสุดท้ายคือแนวผู้มีพลังพิเศษที่เริ่มต้นด้วย ‘Timing’ ซึ่งมีกลิ่นแบบซูเปอร์ฮีโร่ผสมกับแนวเฮอร์เรอร์ลึกลับเขย่าขวัญด้วย ก่อนจะตามมาด้วยซูเปอร์ฮีโร่ที่ผสมแอ็กชันจริงจังอย่าง ‘Moving’

ดังนั้นหากจะว่าไป ‘Light Shop’ ฉบับเว็บตูนนั้นเดิมอยู่ในสถานะที่ไม่ได้เชื่อมโยงกับเรื่องอื่นสักเท่าไรนัก มีเพียงแค่ตอนสุดท้ายของเรื่องเท่านั้นที่ปรากฏตัวละครจากเรื่อง ‘Timing’ มารับเชิญและจุดนี้เองที่ ผู้สร้างอย่างคังพุลและผู้กำกับใหม่ถอดด้ามอย่าง คิมฮีวอน (Kim Hee-won) หรือนักแสดงรุ่นเก๋าที่รับบทครูประจำชั้นของพระเอกใน ‘Moving’ เลือกนำมาขยายความได้อย่างน่าสนใจ

‘Light Shop’ มีการนำเสนอที่ค่อนข้างจะเหมาะกับลักษณะการฉายบนสตรีมมิงแบบปล่อยเป็นลำดับทีละ 2 ตอน เพราะมันมีการหลอกมู้ดโทนของหนังอยู่ การปล่อย 4 ตอนแรกออกมาก่อนที่ยังไม่บอกอะไรมากเพียงแต่ปูความสยองของซอยลึกลับและเหล่าตัวละครที่ท่าทางแปลก ๆ ก็ทำให้เดาผิดจากโทนของเว็บตูนที่มาแนวดราม่าหนัก ๆ ไปเลย คือเข้าใจไปแล้วว่านี่คือซีรีส์สยองขวัญลึกลับที่ทำได้น่าสนใจเสียด้วย ฉากของนักเรียนสาวที่กางร่มให้สาวแปลกหน้าก่อนเธอจะรู้สึกตัวว่าทำพลาดครั้งใหญ่ที่ดันไปทักคนที่ไม่ควรทักเข้าเสียแล้ว หญิงสาวผมยาวที่สะกดรอยตามชายแปลกหน้าที่บังเอิญมาทักเธอก่อนจะหอบร่างของผู้ชายคนนั้นที่หลุดเป็นชิ้น ๆ ใส่กระเป๋าเดินทางเดินวนหาเหยื่อรายใหม่ไปในซอยมืด หรือการทำงานของพยาบาลในวอร์ดผู้ป่วยวิกฤตที่มักพบเจอวิญญาณที่กำลังสับสนเดินวนไปเวียนมา ล้วนสร้างบรรยากาศเฮอร์เรอร์ได้อย่างถูกจริตคนชอบหนังสยองขวัญทีเดียว

ก่อนที่อีก 2 ตอนในสัปดาห์ถัดมา ถึงค่อยมาเฉลยสิ่งที่ปูไว้ว่าความจริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ คนเหล่านี้ที่เดินในซอยเปลี่ยวคือใคร สัมพันธ์กับซอยนี้อย่างไร และมีที่มาที่ไปแต่ละคนอย่างไร ซึ่งก็สลับมู้ดแบบหักมุมมาเป็นแนวดราม่าที่ทำให้เราเข้าใจว่าที่เห็นมา 4 ตอนก่อนนั้นเราเข้าใจผิดไปหมดเลย ความโดดเด่นนอกจากการดึงมาดราม่าแบบที่ผู้ชมตั้งตัวไม่ทันจนเกิดแรงสะเทือนความรู้สึก ซีรีส์ยังผสานความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายแบบเกาหลีไว้อย่างแนบเนียนกับตัวเรื่อง เช่น วิญญาณมีเวลา 3 วันในการสะสางปมของตนเองก่อนจะเข้าสู่พิธีทำศพ ทำให้ตัวละครหนึ่งจงใจไม่ให้คนเปิดฝาตู้เก็บศพของตนเองมาทำพิธี หรือจะปริศนาที่ทำให้วิญญาณคู่หนึ่งไม่สามารถจดจำกันได้ที่สะท้อนไปกับเรื่องการตัดด้ายแดงแห่งความสัมพันธ์ระหว่างกัน จึงทำให้มันมีเรื่องราวใหม่ ๆ ให้เราได้เรียนรู้และตื่นตาตื่นใจไปพร้อมกันด้วย

และเมื่อ 2 ตอนในสัปดาห์สุดท้ายมาถึง ซีรีส์ก็เฉลยปมของตัวละครที่ลึกลับที่สุดคู่หนึ่งอย่าง ลุงเจ้าของร้านขายหลอดไฟ ซึ่งก็ไม่ได้โดดลอยมาเฉย ๆ แต่ยังเชื่อมโยงกลับไปยังตัวละครอื่นได้อีกเป็นเซอร์ไพรส์ใหญ่ที่ทั้งเศร้าและทำให้รู้สึกดีได้พร้อมกัน และคงพลาดจะพูดถึงไม่ได้ว่านี่ยังเป็น 2 ตอนที่ขยี้ดราม่าน้ำตาแตกได้กับเส้นเรื่องของอีกหลาย ๆ คู่ และบางฉากก็เรียกน้ำตาเราได้แบบไม่ยั้งเลยทีเดียว คือใครรอดปมครอบครัว รอดปมคู่รัก หรือรอดจากปมชดใช้ความรู้สึกผิด ก็ต้องโดนเข้ากับปมน้องสุนัขเข้าจนได้ คือมันล้อมเราไว้ทุกทางจริง ๆ

อย่างไรก็ดีซีรีส์นี้นอกจากบทบาทในการนำเสนอฉากหลังของโลกที่ตั้งอยู่ตรงเส้นแบ่งคนเป็นคนตายแล้ว มันยังมีอีกบทบาทที่สอดแทรกอยู่คือสร้างตัวละครที่จะเอาไปใช้งานต่อในแฟรนไชส์เรื่องถัด ๆ ไป ในจังหวะเส้นเรื่องที่เล่าเกี่ยวกับนักสืบนั้น ตอนแรกเหมือนจะเป็นเส้นที่ดูเป็นปริศนาให้เรื่องซับซ้อนสับสนมากขึ้น แต่ยิ่งเรื่องดำเนินไปเราจะเห็นว่าเส้นเรื่องนี้ของนายตำรวจนั้นเป็นเอกเทศจากตัวละครอื่นพอสมควร ถ้าจะต้องตัดคะแนนกันก็ตรงจุดนี้ที่ซีรีส์ไม่สามารถผสานเส้นเรื่องนี้ให้เกี่ยวเนื่องกลมกลืนไปกับเส้นเรื่องอื่น ๆ ได้ เหมือนเป็นสปินออฟที่สอดแทรกอยู่ในเรื่องราวหลักทั้งที่สามารถแต่งเนื้อหาใหม่ให้มันเนียนกว่านี้ได้

โดยรวมแล้วนี่เป็นซีรีส์ที่ดูได้สนุกไม่ยาวหรือสั้นเกินไป จำนวน 8 ตอนนี้กำลังอิ่มและลงตัวพอดี หลอกล่อผู้ชมอย่างพองามไม่เอารัดเอาเปรียบในเชิงความคาดหวังมากเกินไป ซ้ำยังมีเซอร์ไพรส์เป็นรางวัลได้น่าจดจำมาก ๆ และต้องบอกว่าเหล่านักแสดงนั้นถูกคัดสรรมาอย่างดี เรียกว่ามีของให้โชว์ในจุดที่ตัวเองรับผิดชอบ อาจจะไม่ได้เอ่ยชื่อถึงในรีวิวนี้มากนักเพราะแฟน ๆ ซีรีส์เกาหลีน่าจะรู้จักกันดีแล้วแทบทุกคน ส่วนที่เป็นดาราน้องใหม่หน่อยก็ทำได้ดีตามระดับประสบการณ์อาจยังไม่ได้ฉายแววโดดเด่นกันมากนัก

และที่สำคัญที่สุดสำหรับแฟน ๆ ‘Moving’ และผลงานของคังพุลในอนาคต เหล่าอีสเตอร์เอ้กที่ตอนสุดท้ายประเคนเข้ามามากมายที่เชื่อมไปยังเรื่องนั้นเรื่องนี้ของผลงานอื่น ๆ ก็นับเป็นการเปิดการมีอยู่ของจักรวาลคังพุลบน Disney+ กันไปอีกยาว ๆ เลยทีเดียว ทั้งดวงตายมทูตที่เคยปรากฏมาแล้วว่าเป็นพลังของอาจารย์ใหญ่โจเช่นกันในซีรีส์ ‘Moving’ การปรากฏตัวแบบเห็นหน้าจริง ๆ เสียทีของ คิมยองทักตัวเอกที่ดีดนิ้วหยุดเวลาได้จาก ‘Timing’ แถมยังมาโผล่หน้าอพาร์ตเมนต์ลึกลับจากเรื่อง ‘Apartment’ อีก ใครเบื่อซูเปอร์ฮีโร่ฝั่งตะวันตกอยากดูอะไรที่มันทัชใจแบบฝั่งเอเชียก็น่าจะได้ฟินกันยาว ๆ แล้วล่ะงานนี้

ส่วนใครอยากอ่านแนะนำความเชื่อมโยงต่าง ๆ ในจักรวาลคังพุล เราเคยมีเขียนไว้ที่นี่แล้ว Moving: คำใบ้ที่ทิ้งไว้ เพื่อเดาทางไปในภาคต่อ (มีสปอยล์เนื้อหาของซีรีส์และเว็บตูนที่เกี่ยวข้อง)