Release Date
02/09/2021
ความยาว
115 นาที
Our score
7.5Space Jam: A New Legacy
จุดเด่น
- พลอตที่เข้าใจง่ายเหมาะกับเด็กและครอบครัว เสริมเติมมุกในยุคปัจจุบันอย่างเกมคอมพิวเตอร์ เอไอ ต่าง ๆ ได้ดี กราฟิกแอนิเมชันทั้ง 2 มิติ 3 มิติ เนียนตาดีมาก อีสเตอร์เอ้กเยอะมากแทบยกมาทั้งค่ายหนัง ดูในโรงหนังจะเพลินตาในการมองหามาก
จุดสังเกต
- สีสันกับเอฟเฟกต์จะเน้นฉูดฉาดและไวพอสมควรใครดูไม่ทันอาจปวดตาหน่อย ๆ การแสดงของเลอบรอน เจมส์พอได้เพราะไม่ใช่นักแสดงจริงจัง แต่ก็อยากให้ดีกว่านี้อีก อีสเตอร์เอ้กตัวละครจากหนังเรื่องต่าง ๆ อยากให้มาเป็นกราฟิกที่สมจริงมากกว่าเอาคนแต่งคอสเพลย์มายืน ๆ เท่านั้น
-
บท
8.0
-
โปรดักชัน
9.0
-
การแสดง
7.0
-
ความสนุกตามแนวหนัง
10.0
-
ความคุ้มค่าการรับชม
8.0
เรื่องย่อ: ทูนส์ ปะทะ กูนส์! พบกับ เลอบรอน เจมส์ และ บั๊กส์ บันนี่ เมื่อนักบาสคนดังที่กำลังไม่เข้าใจในตัวลูกชาย ต้องได้รับบทพิสูจน์ความเป็นพ่อจากปัญญาประดิษฐ์ที่ท้าเขาแข่งบาสเก็ตบอลหลุดโลกในจักรวาลเซิร์ฟเวอร์เวิร์ส งานนี้เจมส์ต้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าลูนี่ทูนส์เพื่อทวงลูกชายของเขากลับมาแล้วล่ะ
หนังเป็นงานที่เรียกว่า ‘รีบูต’ จะดีกว่าเรียกว่า ‘ภาคต่อ’ เพราะหนังภาคแรกอย่าง ‘Space Jam’ (1996) ก็ผ่านมาตั้งเกือบ 25 ปีเข้าไปแล้ว แถมเนื้อหาก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าทางค่ายหนังเองก็เลี่ยงจะใช้คำว่า ‘Space Jam 2’ เหมือนกัน เพราะในแง่การตลาดความนิยมในหนังภาคแรกไม่ได้ช่วยอะไรกับหนังในปัจจุบันได้แล้ว เพราะเอาจริง ๆ ความทรงจำในหนังภาคแรกถ้าใครเคยดูก็น่าจะเหลือแค่ ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan) เล่นบาสกับเหล่าตัวการ์ตูนจากลูนี่ ทูนส์เท่านั้นเอง
ใน ‘Space Jam: A New Legacy’ ก็เลยใช้สูตรความสำเร็จแบบเดียวกัน เอาสตาร์วงการกีฬาอเมริกันในยุคนี้มาเล่นบาสกับพวกลูนี่ ทูนส์ จบปิ๊ง และสตาร์ที่ว่าก็มาลงตัวที่ เลอบรอน เจมส์ (LeBron James) แห่งลอส แอนเจลิส เลเกอส์นี่เอง ถามความดังในอเมริกาคงลงตัวสุด แต่ถามแบบคนทั่วไปบ้านเราที่ดูหนังไม่ได้ตาม NBA นัก ว่าตามตรงจอร์แดนคือระดับโลกที่ใครก็ต้องเคยได้ยินชื่อในยุคนั้น ถามว่าเจมส์ได้ขนาดนั้นไหม ก็คงไม่ นี่จึงเป็นองค์ประกอบที่ผิดที่ผิดทางอันแรกของหนัง กับการทำการตลาดของหนังทั่วโลก
และด้วยจุดขายของแฟรนไชส์นี้อย่างไรเสียก็ต้องเป็น เหล่าตัวการ์ตูนที่จะมาเล่นแบบไลฟ์แอ็กชันกับนักแสดงจริง และตัวการ์ตูนที่ว่าก็ต้องเป็น ลูนี่ ทูนส์ เท่านั้น ซึ่งก็พูดกันแบบไม่อ้อมค้อมถึงจะมีผลงานของช่อง การ์ตูน เน็ตเวิร์ก ให้เห็นบ้างเรื่อย ๆ แต่มันก็ไม่ได้มีต่อเนื่องหรือได้รับความนิยมเท่าเมื่อก่อนแล้ว ถามว่ารายการล่าสุดของลูนี่ ทูนส์ ไม่ว่าจะทางการ์ตูน เน็ตเวิร์ก หรือทาง เอชบีโอ แม็กซ์ มีใครได้ดูบ้าง ผลงานแอนิเมชันของวอร์เนอร์ บรอส. ที่เรายังผ่านตายุคนี้เอาจริง ๆ ก็เหลือแค่ พวกแฟรนไชส์เลโก้ และแอนิเมชันจากคอมิกค่ายดีซีเป็นหลักมากกว่าแล้ว หน้าหนังมันเลยอาจจูงใจคนดูหนังรุ่นใหม่ ๆ ยากสักหน่อย กลายเป็นองค์ประกอบที่ผิดยุคผิดสมัยไปแทน
ที่ว่ามาทั้งหมดคือหน้าหนังที่ดูไม่ค่อยลงตัว แต่หากดูที่เนื้อใน นิยามง่าย ๆ ได้ว่านี่คือสูตรการสร้างแบบรวมทรัพย์สินทางปัญญามาแทบยกค่ายวอร์เนอร์ ไม่ต่างอะไรจากหนังอย่าง ‘Ready Player One’ (2018) เลยทีเดียว เราจะได้เจออีสเตอร์เอ้กและกิมมิกมากมายทั้ง ‘Harry Potter’ ซูเปอร์ฮีโรค่ายดีซี ‘Game of Thrones’ ‘Mad Max’ ‘The Matrix’ และอื่น ๆ อีกมากมาย ใครที่ชอบมองหารายละเอียดในจอจะสนุกมาก ยิ่งฉากไคลแม็กซ์ที่รวมตัวละครมาดูการแข่งขันนัดชิงชัยนี่คือ โหดสุด ๆ ทีเดียว
แต่สิ่งที่หนังเรีื่องนี้ไปได้ไม่ค่อยสวยแบบ ‘Ready Player One’ คือเส้นเรื่องมันเรียบง่าย เป็นหนังเด็กหนังครอบครัวโดยสมบูรณ์แบบ โครงเรื่องคือพ่ออยากช่วยลูกที่ถูกปัญญาประดิษฐ์ลักพาตัวไป และต้องเอาชนะการแข่งขันบาสเก็ตบอลที่กติกาเป็นแบบเกมคอมพิวเตอร์ ที่มีไอเทมและสกิลลับเสริมมากมาย และหาทางกลับคืนโลกปกติให้ได้
ทั้งนี้หนังได้เพิ่มมิติเรื่องราวไปด้วยปมปัญหาระหว่างตัวละครคือ พ่ออย่างเจมส์อยากให้ลูกตั้งใจฝึกซ้อมบาสเก็ตบอลจะได้เล่นเก่ง ๆ แบบตัวเอง เหมือนตอนเด็กที่ถูกโค้ชห้ามเล่นเกมบอย แต่ตัวลูกชายอย่าง ดอม กับมีความสนใจในการสร้างเกมคอมพิวเตอร์มากกว่า ทำให้ทั้งคู่ผิดใจกัน ซึ่งที่ว่ามาก็ถือว่าดีพอในฐานะหนังดูเอาสนุกเอามัน แล้วไปลงทุนพวกมุก พวกอีสเตอร์เอ้ก พวกดารารับเชิญ ให้เซอร์ไพรส์คนดูได้เรื่อย ๆ พอแล้ว คือเอาแค่นี้ถือว่าหนังทำได้ดีเลยนะ โดยเฉพาะส่วนตัวฉากการมาของ จอร์แดน นี่คือฮาจริงจัง
แต่อันนี้ก็ต้องยอมรับว่ามันจะอิ่มกับหนังจริง ๆ จัง ๆ ได้ คุณต้องเป็นคนที่ผูกพันกับลูนี่ ทูนส์ ระดับหนึ่ง ชอบดูรู้จักหนังของวอร์เนอร์สักหน่อย วงการบาสฯ รู้ก็ดีไม่รู้ก็ไม่ต้องไปว้าวกับมันก็ได้ และควรเก็ตพวกมุกแนวฝรั่งหรือมุกแนวลูนี่ ทูนส์ ที่จะเป็นมุกโบราณเฉพาะตัวอย่างวาดฉากให้วิ่งไล่แล้วชนอะไรแบบนั้นสักหน่อย ซึ่งมันก็ลักลั่นหน่อย ๆ เหมือนกันว่า สรุปคุณต้องรู้จักทั้งของเก่าโบราณจนกระทั่งของใหม่ ๆ อย่าง ‘Rick and Morty’ เลยทีเดียว มันเรียกหาคุณสมบัติคนดูที่จะเก็ตทั้งหมดได้สูงไปนิดหนึ่ง ทำให้คนส่วนมากอาจไม่อินเท่าที่ควร
แต่ถามว่าหนังเพลิดเพลินไหม บอกเลยว่าขนาดไม่อินอะไรกับองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง แต่หนังก็สนุกและเซอร์ไพรส์เราได้ตลอดจนจบเรื่องเลยทีเดียว แถมนอกจากความฮาหนังยังให้อารมณ์ซึ้ง ๆ ติดท้ายมาอีกด้วย ครอบครัวควรดูเลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส