Release Date
01/10/2021
Runtime
132 Minutes
Director
James Gunn
Cast
Margot Robbie Idris Elba Viola Davis John Cena
Our score
9.5[รีวิว] The Suicide Squad – หนังคอมิกสุดโหด โคตรดิบแต่ได้ใจ
จุดเด่น
- หนังเต็มไปด้วยตัวละครที่น่าสนใจและมีมุกตลกโหด ๆ พร้อมภาพแบบหนังเรต R ที่จัดเต็มสะใจคอหนังแอ็กชันแน่นอน
- หนังนำเสนอตัวละครประหลาด ๆ ได้อย่างน่ารักแม้จะมีความโหดความแหวะอยู่แต่ได้ใจคนดูทุกตัวละครเลย
- หนังมีงานภาพที่น่าสนใจมาก ๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจได้ตลอดทั้งเรื่อง
จุดสังเกต
- หนังโหดมาก ไม่เหมาะกับเด็กด้วยประการทั้งปวง
-
ความลงตัวของบทภาพยนตร์
9.5
-
คุณภาพงานสร้าง
9.5
-
คุณภาพนักแสดง
9.5
-
ความสนุกตามแนวหนัง
9.5
-
ความคุ้มค่าตั๋ว
9.5
นั่งนับวันรอจนแทบท้อใจสำหรับ ‘The Suicide Squad’ หนังรวมดาวอาชญากรที่ต้องมาปฏิบัติการพลีชีพเพื่อช่วยโลก จากเดิมจะเข้าฉายตอนต้นปีเลื่อนมาสิงหาคมแต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ทำให้หนังต้องเลื่อนฉายเพื่อรอวันเปิดของโรงภาพยนตร์จนได้ฤกษ์วันที่ 1 ตุลาคมตามหลังวันเข้าฉายที่อเมริกาประมาณ 2 เดือนซึ่งแม้จะมีช่องทางผิดกฎหมายและช่องทางมุดเพื่อให้ดูผ่านสตรีมมิงได้แต่ผมยังยืนยันที่จะรอชมมันในโรงภาพยนตร์และผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ผิดหวังเลย
โดยเรื่องราวในภาคนี้จะเดินเรื่องเสมือนคนดูได้ข้อมูลจาก ‘Suicide Squad’ หนังภาคก่อนที่โดนสาปส่งมาแล้ว และให้ อเแมนดา วอลเลอร์ (วิโอลา เดวิส Viola Davis) เป็นไกด์พาผู้ชมไปรู้จักกับสมาชิกทีมใหม่อย่างรวดเร็วแต่ครบถ้วนทั้งวีรกรรมความโฉดและสกิลสุดโหดที่เราจะได้เห็นในหนัง โดยภารกิจหลักของทีมพลีชีพคราวนี้คือการตามหาโปรเจกต์สตาร์ฟิช (Project Starfish) ในหมู่เกาะคอร์โต มัลทีส (Corto Maltese) เกาะในอเมริกาใต้ที่กำลังตกอยู่ภายใต้การรัฐประหารของนายพลสุดโฉดก่อนที่อาวุธร้ายแรงจะออกมาเพ่นพ่านทำลายโลก
จุดที่น่าสนใจอย่างแรกที่เห็นได้เลยจากหนังภาคนี้คือความเป็น เจมส์ กันน์ (James Gunn) ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ หรือเราขอเรียกว่า “ความกันน์” โดยอย่างแรกเลยคือการหยิบเลือกตัวละครมารวมตัวในหนังภาคนี้ที่มีภาพของคนนอกอย่างชัดเจนทั้งแรทแคชเชอร์ 2 (รับบทโดย แดเนียลา เมลคิออร์ Daniela Melchior) เด็กสาวหัวขโมยข้างถนนที่เรียกหนูมาเป็นอาวุธได้ หรือจะเป็น โพลกา-ดอต แมน (รับบทโดยเดวิด ดาสต์มาลเชียน David Dastmalchian) ชายหนุ่มที่ถูกแม่แพร่เชื้อจากต่างดาวจนมีผื่นเป็นจุดสี ๆ ขึ้นตามตัวหากไม่ได้ปล่อยจุดสีพิฆาตในแต่ละวัน
ซึ่งทำให้เห็นว่าแม้ในหนังภาคนี้จะยังคงมีตัวละครเท่ ๆ ทั้งนายพล ริก แฟล็ก (รับบทโดย โจเอล คินนาแมน Joel Kinnaman) บลัดสปอร์ต (รับบทโดย ไอดริส เอลบา Idris Elba) พีซเมคเกอร์ (รับบทโดยจอห์น ซีนา John Cena) หรือขวัญใจคนดูหน้าเก่าอย่าง ฮาร์ลีย์ ควินน์ (รับบทโดย มาร์โกต์ รอบบี Margot Robbie) แต่เจมส์ กันน์ก็ยังให้พื้นที่เราได้ทำความเข้าใจและหลงรักเหล่าตัวละครประหลาดแม้กระทั้งคิงชาร์คตัวละครฉลามกินคนที่ให้เสียงโดยป๋าซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) ก็ยังแอบขโมยหัวใจคนดูจากมุมน่ารัก ๆ เคล้าความเลือดสาดได้อย่างน่าประหลาดใจ
อีกเรื่องที่ทำให้เห็นว่าวิสัยทัศน์เจมส์ กันน์ไปไกลเหนือผู้กำกับหนังฮีโรดีซีเรื่องอื่นเห็นจะเป็นงานภาพที่แม้หนังจะเต็มไปด้วยความเลือดสาดแต่เขาก็ไม่ได้ยัดเยียดแค่ตัวละครต่อสู้กันในที่มืด ๆ แล้วเลือดกระเด็นเท่านั้นงานภาพของหนังเรื่องนี้นับว่าน่าศึกษาไม่น้อยทั้งการปล่อยฉากหลังให้เบิร์นเอาต์ (Burn Out) ขาวโพลนตัวละครเดินท่ามกลางสายฝนสุดเท่ไปจนถึงงานภาพผสมแอนิเมชันเพื่อนำเสนอมุมมองของฮาร์ลีย์ ควินน์จนแทบไม่อยากละสายตาจากจอเลยแม้แต่วินาทีเดียว
แต่กระนั้นอีกหนึ่ง “ความกันน์” ที่ต้องเตือนไว้คือนี่ไม่ใช่หนังฮีโรที่เหมาะกับเด็กเลยแม้แต่น้อยเพราะมันอุดมไปด้วยฉากยิงกันเลือดทะลัก ใส้กระเด็น คนขาดครึ่งท่อนอัดความรุนแรงแบบไม่บันยะบังยังและใช้คำหยาบคายเป็นว่าเล่นคลุกเคล้ากับมุกตลกโหด ๆ แต่ตบเข่าฉาดซึ่งถือเป็นการสานต่อการทำหนังฮีโรเรตอาร์ของดีซีต่อเนื่องจาก ‘Birds of Prey’ และเชื่อได้เลยว่าในอนาคตเราจะได้เห็นตัวละครที่น่าสนใจของดีซีออกมาโลดแล่นให้เราตื่นเต้นกันอีกแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส