Release Date
30/12/2021
Runtime
93 Minutes
Directors
Greg Tiernan Conrad Vernon and Laura Brousseau
Cast (voice)
Chloë Grace Moretz Oscar Isaac Charlize Theron and Bill Hader
Our score
7.0[รีวิว] The Addams Family 2 – จากตลกหน้าตายสู่งานขายฮาเอาหน้ารอด
จุดเด่น
- มีฉากเต้นเพลง I will survive ที่น่าจดจำมาก ๆ
- ตัวละครเวนส์เดย์มีเสน่ห์มากด้วยเสียงพากย์ของโคลอี เกรซ มอเรตซ์
- หนังมีมุกฮารายทาง ทั้งขำแรง ๆ และขำกร่อย ๆ
จุดสังเกต
- หนังยังกระจายความเด่นให้ตัวละครได้ไม่ดีเท่าภาคแรกเพราะไปเน้นที่ปมของเวนส์เดย์เป็นสำคัญ
- หลายตัวละครถูกผลักให้เป็นตัวประกอบทั้งที่มีปมน่าสนใจทั้งมอร์ติเชียและลุงเฟสเตอร์
- มุกฝรั่งส่วนใหญ่ในหนังคนไทยอาจไม่ค่อยเก็ตเเท่าไหร่เลยอาจมีผลกับความสนุกได้
-
ปมเรื่องไม่หนังแน่นและน่าลุ้นเท่าภาคแรก กระจายบทไม่ทั่วถึงแต่พอมีความสนุกอยู่บ้าง
6.0
-
ลายเส้นที่ต่อยอดจากคอมิกต้นฉบับยังมีเสน่ห์อยู่และฉากต่าง ๆ ก็ดูใหญ่โต มีสีสันสวยงามมากขึ้น
7.5
-
เสียงพากย์มีเสน่ห์มาก แต่ที่ขโมยซีนสุดคือเพลงประกอบ
7.5
-
เทียบกับแอนิเมชันในปีนี้ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่น่าพอใจแม้จะยังไม่ยอดเยี่ยมก็ตาม
7.0
-
หนังมีงานภาพที่สวยงามอลังการและงานมิกซ์เสียงที่ควรดูในโรงหนัง
7.0
ย้อนไปปี 2019 เอ็มจีเอ็ม (MGM) ได้ฤกษ์ปัดฝุ่นนำแอนิเมชันจากสินทรัพย์ของตัวเองอย่าง ‘The Addams Family’ ออกฉายและกวาดเงินไปกว่า 203 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกจากทุนสร้างเพียง 24 ล้านเหรียญ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าตัวแอนิเมชันเองก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงปร้างมากมายแต่การฉายช่วงก่อนการระบาดของโควิด 19 คือตัวชี้วัดว่าวงการภาพยนตร์เคยรุ่งเรืองแค่ไหน ซึ่งถือเป็นความท้าทายไม่น้อยสำหรับการเข็นภาคต่ออย่าง ‘The Addams Family 2’ ออกฉายในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานที่โควิดสายพันธุ์ใหม่กำลังมาเยือนรับปีใหม่แบบนี้
สำหรับเรื่องราวในภาคนี้เริ่มต้นเมื่อเวนส์เดย์ (ให้เสียงพากย์โดย โคลอี เกรซ มอเรตซ์ Chloë Grace Moretz) ลูกสาวคนเล็กของบ้านแอดดัมส์เกิดรู้สึกว่าตัวเองคือแกะดำของครอบครัวประกอบกับงานแสดงผลงานทางวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านี้ก็ดันไปโดนใจ ดร.ไซรัส สเตรนจ์ (ให้เสียงพากย์โดย บิล เฮเดอร์ Bill Hader) นักวิทยาศาสตร์ที่พยายามอ้างตัวว่าเป็นพ่อแท้ ๆ ของเวนส์เดย์จนถึงขั้นจ้างทนายให้มาปั่นป่วนครอบครัวแอดดัมส์จนโกเมซ (ให้เสียงพากย์โดยออสการ์ ไอแซค Oscar Isaac) หัวหน้าครอบครัวเกิดไอเดียเด็ด จัดโรดทริปยกบ้านไปทัวร์สถานที่สุดหลอนรอบอเมริกาแต่แผนการของเขาจะทำให้ใจของเวนส์เดย์อยู่กับครอบครัวแอดดัมส์ได้จริงหรือ ?
หากเราเทียบอุปสรรคในหนังภาคที่แล้วที่ว่าด้วยครอบครัวแปลกปลอมที่มาอยู่ในพื้นที่ชุมชนที่ไม่ยอมรับคนนอก ก็ต้องยอมรับว่าเงื่อนไขที่ทำให้เราเอาใจช่วยครอบครัวแอดดัมส์มันดูหนักแน่นกว่าหนังภาคนี้เยอะ เพราะพอตัวละครเวนส์เดย์มีเสน่ห์ถูกใจคนดู ผู้สร้างเลยไปให้ความสำคัญกับนิสัย ‘เบี้ยว ๆ’ ของเวนส์เดย์แทน ดังนั้นเราเลยสังเกตได้ชัด ๆ ว่าตัวละครอื่น ๆ ดูเป็นตัวประกอบให้เวนส์เดย์ไปเสียหมดซึ่งน่าเสียดายในหลายจุด
ทั้งปมลุงเฟสเตอร์ (ให้เสียงพากย์โดย นิก ครอลล์ Nick Kroll) ที่ยอมหลานทุกอย่างกระทั่งถูกจับมาแปลงพันธุกรรมเป็นปลาหมึก หรือมอร์ติเซีย (ให้เสียงพากย์โดย ชาร์ลิซ เธรอน Charlie Theron) แม่ที่ต้องเห็นลูกสาวอยากตีตัวออกห่างที่สามารถพัฒนาไปเป็นดราม่าซึ้ง ๆ ได้มากมายแต่ผู้สร้างก็เลือกที่จะไปเน้นกับมุก 5 บาท 10 บาทมากกว่า แต่กระนั้นการที่หนังเลือกให้มีมุกตลกฮาก๊าก ๆ อย่างฉากเต้นเพลง ‘I Will Survive’ ของเหล่าสิงห์มอเตอร์ไซค์หรือฉากที่คู่รักที่กำลังขอแต่งงานถูกครอบครัวแอดดัมส์ทำพังแทบทั้งเรื่องก็ช่วยให้บรรดามุกกร่อย ๆ ไม่ทรมานคนดูมากเกินไป
ซึ่งสำหรับเพลง ‘I Will Survive’ ที่หนังเลือกมาใช้เป็นฉบับคัฟเวอร์โดย โดมินิก ลิวอิส (Dominic Lewis) ที่มาให้เสียงร้องสุดเซอร์ไพร์สให้ตัวละครหนึ่งในเรื่อง (ขอปิดเป็นความลับนะครับว่าเป็นตัวละครไหน) ซึ่งถือเป็นฉบับที่ตีความ (rendition) เนื้อหาและดนตรีใหม่ได้น่าสนใจมาก และงานภาพก็ยากที่ใครจะอดกลั้นหัวเราะไม่ให้ปล่อยก๊ากออกมาได้จริง ๆ ถือเป็นฉากหนึ่งในหนังที่น่าประทับใจมากของปีนี้เลย
แม้ว่าโดยภาพรวม ‘The Addams Family 2’ จะยังไม่ลงตัวเท่าไหร่แต่เราก็ต้องยอมรับล่ะว่าหนังพยายามมอบความบันเทิงให้เราได้เต็มที่จริง ๆ และการเข้าฉายช่วงปลายปีก็เหมาะสมแล้วที่มันจะมามอบความบันเทิงส่งท้ายปี 2021 ที่แสนจะทารุณกรรมเพื่อให้เราเริ่มต้นปีใหม่ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส