Release Date
27/01/2022
Runtime
124 Minutes
Director
Feng Yang
Cast
Hanyu Zhang Vision Wei Wei Fan Ye Zhou
Our score
6.1[รีวิว] Railway Heroes รถด่วนขบวนนรก – หนังจีนรักชาติที่ฮาร์ดเซลไปหน่อย
จุดเด่น
- โปรดักชันของหนังไม่ขี้เหร่เลย ดูสมราคาหนังทุนสูงอยู่
- มีฉากแอ็กชันที่ดีไซน์ได้น่าสนใจ
จุดสังเกต
- บทหนังเขียนตัวละครออกมาแบนเกินไปเลยทำให้เราไม่ค่อยอินกับชะตากรรมตัวละครเท่าไหร่
- พลังของหลาย ๆ ซีนตกไปจนมีช่วงที่ชวนง่วงอยู่เหมือนกัน
- ฉากปฏิญาณตนเข้าพรรคคอมมิวนิสต์คือจุดด่างพร้อยที่สุดที่ฉุดหนังให้กลายเป็นหนังล้างสมองรักชาติของจีนดาด ๆ เรื่องหนึ่งไปเลย
-
เรื่องราวน่าสนใจแต่ตัวละครดูแบน ไร้มิติ
5.5
-
งานสร้างระดับหนังบล็อกบัสเตอร์ มีฉากแอ็กชันน่าตื่นตาตื่นใจ
7.0
-
มีนักแสดงหลายคนที่มีเสน่ห์ แต่บางตัวละครก็ถูกเขียนออกมาให้ดูแบนไร้มิติ
6.0
-
เรื่องราวหลายส่วนชวนสะเทือนอารมณ์แต่บางช่วงก็เนือยเกินไป
6.0
-
หากจะไปดูฉากแอ็กชันบนจอใหญ่ก็พอได้อยู่
6.0
ช่วงหลังมานี้วงการบันเทิงจีนดูจะคึกคักเป็นพิเศษเลยเป็นสาเหตุให้เราได้ดูหนังจากจีนแผ่นดินใหญ่กันบ่อยขึ้น และหลังจากสร้างความประทับใจจากหนังสงครามอย่าง ‘800’ หรือ ‘นักรบ 800’ เมื่อ 2 ปีก่อนมาคราวนี้พี่จีนของเราได้ส่งหนังสงครามอย่าง ‘Railway Heroes’ อีกหนึ่งวีรกรรมของขบวนการทำลายรถไฟขนสรรพวุธของทหารญี่ปุ่นที่มีส่วนทำให้กองทัพพรรคคอมมิวนิสต์สามารถเอาชนะข้าศึกและปลดปล่อยชาวจีนให้เป็นเอกราชได้สำเร็จ มาพิสูจน์ฝีมือของคนทำหนังสัญชาติจีนกันในสัปดาห์นี้
ด้วยความเหลืออดจากการถูกกดขี่โดยกองทัพญี่ปุ่น หงเจิ้นไห่ (จาง ฮั่นหยู) นายช่างรถไฟแห่งสถานีหลิงเฉิงซึ่งมักเป็นต้นทางที่พวกญี่ปุ่นใช้ส่งเสบียงจึงจัดตั้งกลุ่มกองโจรพยัคฆ์เหินเวหาเพื่อปล้นสะดมข้าศึกจนกระทั่งทางพรรคคอมมิวนิสต์ได้ขอให้หงเจิ้นไห่และพวกดักทำลายขบวนรถไฟที่ขนอาวุธไปเข่นฆ่าพี่น้องชาวจีน งานนี้เหล่าพยัคฆ์เหินเวหาต้องเดิมพันภารกิจนี้ด้วยชีวิตของพวกเขาเองเพื่อเอกราชของมาตุภูมิ
ผู้กำกับและเขียนบท ‘Railway Heroes’ อย่างหยาง เฟ็งได้หยิบเอาวีรกรรมของกองกำลังที่ 115 แห่งกองทัพเส้นทางที่ 8 ซึ่งรวบรวมเหล่าคนธรรมดาที่มีใจต่อต้านชาวญี่ปุ่นที่มายึดครองมณฑลชานตงซึ่งมีทางรถไฟจิ้นผู่ซึ่งตัดพาดผ่านจากเหนือจรดใต้ของประเทศจีนจึงกลายเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญที่ญี่ปุ่นใช้ขนส่งเสบียงและอาวุธให้กองทัพของตน และก็เป็นเหล่ากองทัพคนธรรมดานี่เองที่ได้สร้างวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ขึ้นมา ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าลำพังแค่เรื่องราวในประวัติศาสตร์ของมันก็ชวนบีบหัวใจมากมายอยู่แล้ว
แต่พอมาเป็นบทภาพยนตร์หยาง เฟ็งกลับหลงลืมองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้เรื่องราวเดินไปสู่จุดสะเทือนใจในตอนท้ายนั่นคือการปูพื้นประวัติตัวละครหรือทำให้คนดูรู้จักและเห็นใจพวกเขาจนลุ้นตามตรงกันข้ามบทหนังกลับสร้างตัวละครแบน ๆ ขาวจัด ดำจัด โดยเฉพาะกรณีทหารญี่ปุ่นที่หนังประโคมฉากทารุณกรรมและเข่นฆ่าชาวจีน ส่วนบรรดาคนจีนในเรื่องก็จะถูกนำเสนอในฐานะคนรักชาติ เป็นคนดีแบบชัดเจน ยกเว้นคนจีนที่เอาใจญี่ปุ่นก็จะถูกนำเสนอให้ดูชั่วสุดขีดและต้องได้รับผลกรรมอย่างสาสมในตอนท้าย
ซึ่งพอตัวละครไม่น่าสนใจเพราะขาดมิติมันเลยทำให้พลังของซีนต่าง ๆ ดรอปตามไปหมดทั้งซีนที่ต้องการให้ระทึกเราก็ดันสังเกตได้ว่าตัวละครทหารญี่ปุ่นที่ดูน่าจะฉลาดสุดเพราะร้ายสุดอย่าง ฮิโรคาสุ ฟุจิวาระเองก็ดันไม่ค่อยทันคนอย่างที่เราคิด มีแต่เห่าให้พวกพระเอกของเรากลัวแค่นั้นเองทั้งที่การแสดงของเบน โบจิเองก็ไม่ขี้เหร่เลยแต่ตัวละครของเขากลับถูกนำเสนอแบบขอไปทีเป็นแค่ผู้ร้ายในหนังเท่านั้นเอง
ส่วนบรรดาตัวละครชาวจีนในเรื่องก็ดูจืดชืดเกินกว่าที่เราอยากเอาใจช่วยแม้จาง ฮั่นหยูที่มารับบทนำอย่างหงเจิ้นไห่ จะมีรูปลักษณ์ที่ดูเป็นผู้นำและมีความเท่สมศักดิ์ศรีฮีโรในอุดมคติแต่ในเมื่อหนังแทบไม่ให้เรารู้จักตัวละครของเขาในมุมอื่นนอกจากการเป็นผู้นำหน่วยรบกองโจรอย่างเดียว มีเพียง ฟ่านเหว่ย ในบทเล่าหวังนายสถานีที่แอบส่งข้อมูลให้พวกของหงเจิ้นไห่เท่านั้นที่ดูมีมิติและพอจะสร้างความสะเทือนใจให้คนดูได้บ้าง
กระนั้นแม้ว่าตัวบทหนังจะไม่สมบูรณ์แต่หากพูดถึงโปรดักชันนี่ต้องบอกว่า ‘Railway Heroes’ ถูกสร้างด้วยทุนสร้างระดับหนังบล็อกบัสเตอร์จริง ๆ หนังมีฉากแอ็กชันผาดโผนที่ดูน่าตื่นตาไม่น้อยแม้ว่าจะถูกนำเสนอในช่วงเวลากลางคืนทำให้ภาพดูมืดไปบ้างแต่ก็เห็นถึงงานดีไซน์ซีนต่อสู้ที่น่าสนใจในหลายซีน มีเพียงซีนปฏิญาณตัวเข้าพรรคคอมมิวนิสต์นี่แหละที่ดูประดักประเดิดและผิดที่ผิดเวลาจนอดขำไม่ได้ และมันก็ทำให้ภาพของการเป็นหนังล้างสมองรักชาติของมันชัดเสียจนหน้าหนังฟอร์มยักษ์ปิดไม่อยู่เสียแล้ว