Our score
9.0[รีวิว] Our Beloved Summer : รอมคอมตัวจี๊ด เอาใจสายสุขนิยม
จุดเด่น
- ซีรีส์สุขนิยมที่ให้ความรู้สึกร่วมในการก้าวผ่านวัยของคนดูได้จริง ๆ
- การดำเนินเรื่องชาญฉลาดและมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ เป็นไทม์ไลน์ย้อนไปย้อนมาที่ไม่เฝือ ไม่งง แต่ดีเแฮะ
- มีความจริงหลายข้อในชีวิตที่ซีรีส์บอกกับเราว่า ชีวิตมันมักจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ นะ โดยเฉพาะการที่คนเราจะประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเป็นคนเรียนเก่งเสมอไป แค่หาตัวเองให้เจอและทำมันอย่างจริงจังเท่านั้นเอง
- คู่รักควรดู เพราะคุณอาจจะเห็นจุดเล็ก ๆ ที่ไม่เคยคิดถึงมันเลยก็ได้
จุดสังเกต
- ดูแล้วควรอินไปกับมันค่ะ แล้วจะได้อะไรจากซีรีส์เรื่องนี้อย่างที่คิดไม่ถึง
-
ความสมบูรณ์ของบท
9.0
-
คุณภาพนักแสดง
9.0
-
คุณภาพการเล่าเรื่อง
9.0
-
คุณภาพงานสร้าง
9.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
9.0
คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน น่าจะเป็นนิยามของพระนางในเรื่องนี้ได้แบบชัด ๆ ‘Our Beloved Summer ร้อนนั้นเรารักกัน’ ซีรีส์ที่สร้างมาจากเว็บตูนในชื่อเรื่องเดียวกัน เป็นรอมคอมจากค่าย SBS ที่จับเอา ‘ชเวอูชิก’ (จากชนชั้นปรสิต Parasite) มาประกบคู่กับ ‘คิมดามี’ (จาก Itaewon Class) ที่ถึงทั้งคู่จะเคยร่วมงานกันมาแล้วใน The Witch: Part 1. The Subversion แต่บอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นรสชาติใหม่ที่เข้ามือกันปั๊วะ ๆ เลยทีเดียวจ้ะ
แต่สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดูกับเขาเลยสักตอนเดียว แล้วจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์วัยใส ฟิน ยิ้ม กันเพียว ๆ ก็ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ เพราะซีรีส์เรื่องนี้ครบรสมากกว่านั้น สิ่งที่คุณจะได้รับคือความฟินและอารมณ์ขัน อันนี้เป็นของแท้แน่นอน แต่จะได้ของแถมที่ขาดไม่ได้คือดราม่าประเด็นครอบครัว เพื่อน ที่ซีรีส์นำเสนอได้อย่างเข้าถึงเอามาก ๆ
เรื่องมันก็เริ่มต้นขึ้นมาจาก ‘กุกยอนซู’ (คิมดามี) นักเรียนอันดับ 1 ของโรงเรียนต้องมารับหน้าที่เป็นตัวแสดงในสารคดีคู่กับ ‘ชเวอุง’ (ชเวอูชิก) นักเรียนอันดับ 267 ของโรงเรียน ก็เรียกว่าเป็นแคมเปญของรายการที่จับเด็กท็อปหัวกะทิกับว่าเด็กบ๊วยสุดทึ่มมาทำคอนเทนต์นั่นแหละค่ะ ทั้งคู่ต้องนั่งเรียนข้างกันเป็นเวลา 1 เดือน เป็นคู่หูที่ไม่ค่อยอยากจะคู่กันสักเท่าไหร่ รายการก็จะถ่ายทำเป็นสารคดีตามติดชีวิตนักเรียน ม.ปลาย ที่ต่างกันสุดขั้วมาอยู่ด้วยกันจะเป็นยังไงนะ แล้วด้วยความต่างของทั้งคู่ก็ทำให้กัดกันอยู่เป็นประจำ แต่ยิ่งกัดก็เหมือนยิ่งใกล้ชิด จนทั้งคู่รักกันซะงั้นน่ะ แถมยังคบกันนานถึง 5 ปี
แต่อยู่ ๆ กุกยอนซูก็ขอเลิกโดยที่ชเวอุงพระเอกแสนบื้อของเราไม่เข้าใจเอาซะเลย ขอเลิกกับฉันเพราะอะไรเนี่ย ก็ทั้งโกรธทั้งเสียใจจนกลายเป็นแค้นฝังหุ่น “อย่ามาเจอหน้ากันอีกนะ ถ้าเจออีกละก็จะฉีดน้ำโรยเกลือใส่เลย คอยดู” ฝ่ายพระเอกของเราฮีก็แค้นประมาณนี้ ด้วยความที่ฮีไม่รู้เหตุผลของฝ่ายหญิง คือทึ่มจนไม่รู้ว่าแฟนต้องการอะไรอ่ะแหละ เรื่องราวจบไม่สวยก็ผ่านไปจนสองคนโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงานแล้วต้องวนกลับมาเจอกันอีกเพราะเรื่องงานล้วน ๆ
กุกยอนซูจำเป็นต้องใช้ชเวอุงในโปรเจกต์โฆษณาชิ้นใหญ่ที่เธอดูแลอยู่ เพราะเชวอุงเป็นนักวาดภาพที่กำลังมีชื่อเสียงแต่ไม่ชอบออกสื่อ ไม่อยากเจอกันแต่เมื่อเป็นงานมันก็ต้องเจอ กุกยอนซูก็ต้องกัดฟันแบกหน้าหมวยมั่นไปขอความร่วมมือกับเขาให้ได้ “เรามาทำงานศิลปะกันเถอะ” ซึ่งเชวอุงก็ทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้คือ ปฏิเสธอย่างดื้อดึงและโรยเกลือไล่เธอจริง ๆ อะไรจะแค้นขนาดนี้พ่อคุณเอ้ย เล่นตัวหนักมากค่ะพระเอกเรื่องนี้ แล้วเรื่องมันก็ผูกให้ทั้งสองคนต้องติดกันแน่นมากไปกว่านั้นอีกเมื่อ สารคดีที่เคยถ่ายไว้สมัยก่อนกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง จนเป็นเหตุทำให้ทั้งคู่ต้องหวนกลับมาถ่ายสารคดีภาคต่อในช่วงเวลาที่ทั้งคู่เหม็นขี้หน้ากันไปแล้ว แต่คนดูเขาอยากรู้นี่สิ ทำไงได้
16 ตอนคุ้ม ๆ กับพล็อตธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
ซีรีส์จบไปแล้วด้วยความรู้สึกที่ดีเลิศของคนดู จนต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องดีเหลือเกินถ้าจะรอให้จบไปก่อนแล้วค่อยมาเสพความสนุกสนานจากซีรีส์เรื่องนี้ เพราะคุณจะไม่ต้องผจญกับการรอคอยทุกสัปดาห์ให้ค้างเติ่งกันเล่น ๆ ซึ่งแฟนซีรีส์แนวนี้รับรองว่าอารมณ์นั้นเกิดขึ้นแน่ ๆ แต่ตอนนี้ก็รอตอนพิเศษ Our Beloved Summer the movie อยู่นะ เกาหลีฉายไปแล้ว แต่ของเรายังไม่เห็นมาสักทีเลยเนี่ย
พล็อตเรื่องนี้ถูกวางเอาไว้แบบธรรมดาเอามาก ๆ พระเอกนางเอกเป็นคู่กัดที่เดี๋ยวก็รักกันแหละ ซึ่งมีเยอะแยะมากมาย แน่นอนว่าความฮาความสนุกสนานจั๊กจี้จั๊กเดียมมาเต็ม แต่ที่ทำให้พล็อตธรรมดาของเรื่องนี้มันกลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดานั่นก็คือ การนำเสนอที่ชูรสชาติให้น่าติดตามมากขึ้นไปอีก การวางบทเอาไว้ด้วยเรื่องเล่าของทั้งคู่ ผ่านสารคดีในวัยเรียนที่มีการเผยแพร่ในโลกอินเทอร์เน็ต เป็นเหมือนกล่องเก็บความทรงจำที่เมื่อไหร่ก็ตามเมื่อมันถูกเปิดออกมาซ้ำ ๆ จะกลายเป็นไวรัลที่ฉุดไม่อยู่ จนกลายเป็นชนวนชั้นดีที่ทำให้เรื่องราวสามารถสานต่อออกมาได้อย่างลงตัว และกลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่าความรัก ในเวลาต่อมา
ความฉลาดในการนำเสนอของเรื่องนี้ก็คือ การเล่าจากปัจจุบันย้อนกลับไปในอดีต ทำให้เห็นจุดเปลี่ยนของทั้งคู่ การตกลงปลงใจ การแยกทาง สลับกันไปมาจากอดีตมาปัจจุบัน จากปัจจุบันไปอดีต ไม่ได้มีการเรียงไทม์ไลน์กันแบบดื้อ ๆ แล้วก็ไม่ได้ทำให้เรางงจนตามเรื่องราวไม่ได้ แต่เป็นการแฟลชแบ็กที่ไหลไปได้ตลอดทั้งเรื่องให้เห็นแง่มุมของแต่ละตัวละครในความรู้สึก ความคิดที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกอยู่คนเดียว แต่ก็เป็นการเฉลยความลับและเหตุผลของตัวละครให้คนดูได้รับทราบ ซึ่งไทม์ไลน์ที่เล่นกับความรู้สึกลักษณะนี้นี่แหละ ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าติดตาม ก็ถือว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่เก่งพอดู
ชีวิตตี้หนีกันไม่พ้น
คนเรายิ่งเกลียดอะไรมันจะยิ่งเจอ ว่างั้นมะ ซีรีส์เรื่องนี้ก็เหมือนกันค่ะ ซีรีส์จับจุดนี้เอามาสานต่อด้วยการใช้ตัวสารคดีปัจจุบัน เล่าเรื่องย้อนกลับไปยังจุดเกิดเหตุที่เกิดขึ้นจากการถ่ายทำสารคดีในอดีต เป็นสารคดีซ้อนสารคดีที่เป็นจุดเด่นของเรื่องนี้เลยทีเดียวค่ะ ด้วยการเล่าที่แตกต่างในด้านมุมมองของคนสองวัย เมื่อครั้งที่เราเป็นเด็กเราอาจมีมุมมองอีกแบบ แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ วัยวุฒิและประสบการณ์ที่พบเจอจะทำให้เราเปลี่ยนไปขนาดไหน ซึ่งซีรีส์ก็เผยให้เห็นในมุมมองสองมุมแบบนั้น
แต่หนทางของเรื่องราวไม่มีทางราบรื่น เมื่อพระนางของเรามีทิฐิต่อกันอย่างเหลือร้าย ทั้ง ๆ ที่ยังมีใจให้กันแต่ความรู้สึกในอดีตที่เคยเสียไปมันดันย้อนกลับมา เรียกว่าต่างคนก็ต่างไม่เคยลืมมัน ก็ถ้าโปรดิวเซอร์งานนี้ ซึ่งก็คือ ‘คิมเจอุง’ (คิมซังซอล) เพื่อนสมัยเรียนของทั้งคู่ ที่มีใจให้นางเอกมาตลอด ไม่เป็นคนชี้ช่องขุดมันขึ้นมา สารคดีชุดนี้ก็คงราบรื่นเป็นไปตามเป้า แต่เราก็คงไม่ได้ดูอะไรสนุก ๆ แบบนี้แน่
แล้วก็เพิ่มความซับซ้อนให้พระนางมากขึ้นไปอีก จากที่ซับซ้อนอยู่แล้วอ่ะนะ ลำพังความรู้สึก ความต้องการของตัวเองก็อมพะนำอยู่แล้ว แต่ต้องมาเจอ NJ (โนจองอี) ไอดอลสาวชื่อดังที่ชื่นชอบผลงานของพระเอก แถมยังมาชอบพระเอกอีกด้วย แม่สาวผมทองก็ลุยมาโดด ๆ อ่อยสุดฤทธิ์เพื่อหวังจะพิชิตใจชาย ด้วยนิสัยของเธอเองที่ทำอะไรตรงไปตรงมาอย่างที่เธอบอกไว้ว่า “ต่อไปนี้ฉันจะใช้ชีวิตในแบบที่ฉันต้องการ” แต่พระเอกก็ยังบื้ออยู่นั่นแหละจ้ะ เป็นผู้ชายชนิดที่ว่า ผู้หญิงเขาต้องการอะไรพ่อเป็นไม่รู้เรื่องเลยสักอย่าง หรือความจริงแล้วฮีอาจไม่เคยสนใจใครเลยก็ได้ เพราะใจลึก ๆ มีเจ้าของตัวจริงอยู่คนเดียวมาตลอด ว้าย … คิดเองก็เขินเองอ่ะเนอะ
เหนืออื่นใดคือ Coming of age และความรักของเขาทั้งคู่
ตัวแสดงนี่ไม่ต้องเอ่ยปากชมกันแล้ว เพราะการเข้าคู่ของ ชเวชูอิกและคิมดามี เป็นคู่ที่ลงตัว แคสติ้งมาดีจนนึกถึงตัวแสดงอื่นไม่ได้เลย นี่อาจจะเป็นเพราะว่าฝีมือการแสดงของทั้งคู่ถึงขั้นและเข้าถึงบทบาทได้อย่างจั๋งหนับ ปรบมือให้เลย เหมาะกันมาก ๆ แถมในบทที่เป็นภาคอดีตก็ไม่รู้ว่าสองคนนี้กินกลูต้ากันไปกี่ลังนะคะ เพราะความใสและความเด็ก ทำให้เราเชื่อเลยว่านี่คือนักเรียนมัธยมปลายจริง ๆ เรียกว่าปลอมเป็นเด็กได้เนียนกันมาก ๆ โดยเฉพาะ ชเวชูอิกที่อายุจริงนั้น 31 ขวบแล้วจ้ะ
แต่ความดีงามของเคมีพระนางก็ยังไม่เท่า Coming of age ที่ทำให้เราได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ไปโดยปริยาย สารภาพว่าชีวิตวัยเรียนนี่หวนกลับมาเป็นฉาก ๆ และทุกอย่างที่ซีรีส์นำเสนอมันคือเรื่องจริงที่บอกกับเราว่า การก้าวผ่านวัย มันมีอะไรลึก ๆ ซ่อนอยู่ ตัวเอกสองตัวไม่ได้โตขึ้นเหมือนเรานี่แหละ ถึงแม้ว่าเราต่างมีอายุมากขึ้น มีวัยวุฒิและคุณวุฒิที่จะเลี้ยงตัวเอง ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเรายังคงเป็นเด็กคนนั้นอยู่ เรายังเก็บเด็กคนนั้นไว้ในกล่องความทรงจำอยู่เสมอ ความคิด ความรู้สึกที่เราเคยมีมันยังคงอยู่ไม่ไปไหน และจุดบอดบางอย่างที่เป็นแผลในใจมันจะไม่มีวันหายไปเองได้เลย หากไม่ถูกชะล้าง
แล้วซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังจะตามมาขยี้ความรู้สึกเราได้อีก เมื่อพระนางสองคนได้เปลี่ยนจากคู่กัดพริกขี้หนูกับหมูแฮม กลายเป็นคนคลั่งรัก แต่กว่าจะถึงเวลานั้นชีวิตของเขาและผองเพื่อนที่มีประเด็นความหลังกันอยู่ อาจทำให้เราย้อนกลับไปนึกถึงวันวาน หากว่าเราเคยเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในสถานการณ์คล้ายคลึงกัน มีแน่ ๆ มันต้องโดนกันสักคนละน่า เพราะซีรีส์เก่งกาจในเรื่องการขุดความทรงจำซะเหลือเกิน แนะนำให้ดูแล้วอินไปกับมันค่ะ รับรองว่าได้มีปวดหัวใจกันบ้างละ แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ คุณจะได้พบกับความสุขและยิ้มให้กับเรื่องราวของพวกเขาด้วยความยินดี
ได้พบตอนจบแบบสุขนิยมของแท้ และเกิดประสบการณ์ที่บางคนโดยเฉพาะผู้ชายสายพันธ์ซื่อ ๆ อาจจะคิดไม่ถึงว่า เรื่องแค่นี้เองเหรอที่เธอต้องการ เรื่องแค่นี้เองเหรอที่มันสำคัญมากมาย จนเกิดเรื่องราวที่ทั้งดราม่า ฟินและขบขันได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นเรื่องแค่นี้ รู้งี้ทำให้ตั้งนานแล้ว…ใครดูจบแล้ว หันไปบอกรักคนข้าง ๆ ด้วยนะคะ เพราะเรื่องแค่นี้นี่แหละ มันสำคัญกับความรู้สึกจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตได้เลยละ .. ซีรีส์เขาบอกเราแบบนั้น
Our Beloved Summer
- แนว : คอมเมดี้ | โรแมนติก | ดราม่า
- กำกับ : คิมยุนจิน
- ขียนบท : อีนาอึน
- จำนวนตอน : 16 ตอน
- ช่องทางรับชม : NETFLIX
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส