[รีวิวซีรีส์] Forecasting Love and Weather เมื่อความรักเปรียบดั่งสภาพอากาศ

Our score

8.5

[รีวิวซีรีส์] Forecasting Love and Weather เมื่อความรักเปรียบดั่งสภาพอากาศ

จุดเด่น

1. การนำเสนออาชีพที่แปลกใหม่ ต่างจากซีรีส์เรื่องอื่น ๆ
2. ตัวละครแต่ละตัวมีเอกลักษณ์และปมปัญหาชัดเจน น่าติดตาม
3. ความรักความสัมพันธ์ในเรื่องเป็นสิ่งใกล้ตัว จับต้องได้ ดูแล้วอินตามไม่ยาก
4. ภาพสวย เพลงประกอบเพราะ คอสตูมดีงาม

จุดสังเกต

1. การกระทำของตัวละครบางตัวอาจชวนหงุดหงิดไปบ้าง แต่ก็สามารถมองข้ามได้

• ความสมบูรณ์ของเนื้อหา

  8.0

• คุณภาพงานสร้างและการถ่ายทำ

  8.5

• คุณภาพของนักแสดง

  8.5

• คุณภาพการเล่าเรื่อง

  8.5

• ความคุ้มค่าในการรับชม

  9.0

เกาหลีเป็นชาติที่หยิบยกเรื่องราวของอาชีพต่าง ๆ มาบอกเล่าผ่านซีรีส์ได้อย่างน่าสนใจและละเอียดในเกือบทุกแง่มุม แต่สำหรับ ‘Forecasting Love and Weather’ หรือ ‘พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง’ นั้นเรียกได้ว่ายกระดับความแปลกใหม่ขึ้นไปอีก เนื่องจากนำชีวิตการทำงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานกรมอุตุนิยมวิทยามานำเสนอได้อย่างเข้มข้น แต่ก็ไม่ทิ้งปมดราม่าที่หนักหน่วง รวมถึงแง่มุมเรื่องความรักความสัมพันธ์ที่หลากหลายและน่าสนใจ

‘Forecasting Love and Weather’ นำแสดงโดย พัคมินยอง (Park Min-young) และซงคัง (Song Kang) กำกับโดย ชายองฮุน (Cha Young-hoon) โดยได้ ซอนยอง (Seon Yeong) รับหน้าที่เขียนบทให้กับซีรีส์ บอกเล่าเรื่องราวความรักในที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ในกรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลี (Korea Meteorological Administration)

จินฮากยอง (พัคมินยอง) ผู้ชำนาญการสาวสวย เก่ง เคร่งระเบียบ ที่เตรียมตัวแต่งงานกับ ฮันกีจุน ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานเดียวกัน ทั้งคู่คบกันมานานกว่า 10 ปี แต่แล้วความรักกลับต้องพลิกผันโดยไม่คาดคิดเมื่อฮากยองพบว่าว่าที่เจ้าบ่าวของเธอนอกใจ เขาแอบคบกับนักข่าวพยากรณ์อากาศสาวและยอมยกเลิกงานแต่งแบบไม่ลังเลเลยสักนิดเมื่อฮากยองจับได้

ขณะที่ อีชีอู (ซงคัง) นักพยากรณ์อากาศไฟแรงที่ใสซื่อ ร่าเริง และมองโลกในแง่ดี แต่ถ้าเป็นเรื่องการพยากรณ์อากาศล่ะก็จะทุ่มเทและเอาจริงเอาจังสุด ๆ เขาก็คือแฟนหนุ่มของนักข่าวสาวที่แอบคบกับฮันกีจุน และสุดท้ายก็ทิ้งเขาไปแต่งงานกับฮันกีจุนในที่สุด

เรื่องราวความรักที่ชวนวุ่นวายดำเนินต่อไป เมื่อแต่ละคนยังต้องร่วมงานกัน ทำงานในที่เดียวกัน ต้องเจอหน้ากันในหลาย ๆ โอกาส แถมยังต้องรับมือกับสภาพอากาศที่ไม่รู้ว่าวันนี้ ชั่วโมงนี้ หรือแม้แต่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ที่สำคัญงานของพวกเขายังเกี่ยวพันกับงบประมาณประเทศและชีวิตคนอีกมากมายด้วย

เข้มข้น ชวนติดตาม ทั้งปมของตัวละครและการทำงานในกรมอุตุฯ

ถ้าเป็นซีรีส์เกี่ยวกับหมอหรือตำรวจคงไม่แปลกใจที่เรื่องราวจะออกมาลุ้นระทึก ตื่นเต้น แต่ ‘Forecasting Love and Weather’ กลับทำให้อาชีพอย่างนักพยากรณ์อากาศหรือนักอุตุนิยมวิทยาน่าสนใจกว่าที่คิด หากไม่นับเรื่องความแปลกใหม่ การเล่าเรื่องของซีรีส์ทำให้เรารู้สึกดูไปลุ้นไปกับทุกตัวละครว่าการพยากรณ์จะออกมาตรงหรือคลาดเคลื่อน เพราะหากพยากรณ์แล้วตัดสินใจรายงานข่าวหรือออกประกาศเตือนพิเศษไป หากการพยากรณ์ผิดพลาดก็จะสิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาล รวมถึงส่งผลกระทบกับผู้คนอีกมากมาย

นอกจากนี้ตัวละครแต่ละตัวยังมีมิติน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นจินฮากยองที่ภายนอกดูเจ้าระเบียบ มั่นใจ เป็น ‘สาวเก่ง’ แต่จริง ๆ แล้วมีมุมอ่อนไหวและเอาใจใส่คนรอบข้าง ขณะที่ฮันกีจุนที่ดูภายนอกหล่อเหลา น่าเชื่อถือ สุขุมและภูมิฐาน กลับมีนิสัยไม่เอาไหนกว่าที่คิด หรือตัวละครสมทบอย่าง ออมดงฮัน (รับบทโดยอีซองอุค – Lee Sung Wook) ผู้ชำนาญการพยากรณ์อากาศที่ขอย้ายกลับมาทำงานส่วนกลางเพราะอยากกลับมาอยู่กับครอบครัว แต่สำหรับภรรยาและลูกสาวเขาก็ไม่ต่างอะไรจากคนแปลกหน้าเพราะการทำงานหนักแถมยังอยู่ห่างบ้านไปนาน ส่วนพระเอกของเราอย่างอีชีอูตอนนี้ยังสัมผัสได้แต่แง่มุมสดใสและมองโลกในแง่ดีแถมมูฟออนไว มิติด้านอื่น ๆ ของเขาอาจแสดงออกมาให้เราเห็นกันมากขึ้นหลังจากนี้

นอกจากนี้ซีรีส์ยังแสดงให้เห็นภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ในกรมอุตุฯ ได้อย่างละเอียด ทั้งการเก็บข้อมูล การประชุมเพื่อหาข้อสรุปจากทีมงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ก่อนจะตัดสินใจว่าจะเลือกนำเสนอข่าวอย่างไรให้กับประชาชนเพื่อเตรียมรับมืออากาศในแต่ละวัน การทำงานของกรมอุตุนิยมวิทยาจึงไม่ใช่แค่การพยากรณ์อากาศเท่านั้น แต่ยังมีกระบวนการที่เข้มข้น กดดัน และต้องการความเด็ดขาดในการตัดสินใจก่อนประกาศข่าวออกไป ที่สำคัญบุคคลากรระดับสูงยังต้องพร้อมรับมือกับแรงกระแทกทั้งจากสื่อและประชาชนหากข่าวที่ตัดสินใจประกาศเกิดความผิดพลาดด้วย

เรื่องราวของความรักที่คาดเดาไม่ได้ ไม่ต่างจากสภาพอากาศในแต่ละวัน

นอกจาก ‘Forecasting Love and Weather’ จะมีตัวละครที่น่าสนใจและบอกเล่าเรื่องราวอาชีพที่เราไม่ค่อยได้เห็นในซีรีส์เท่าไรนักอย่างนักอุตุนิยมวิทยาแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือการนำเสนอผลกระทบจากการมีความรักในที่ทำงาน ที่หากความรักนั้นล้มเหลวแถมยังจบไม่สวย ก็ต้องมีฝ่ายที่ต้องเจ็บปวดและทนกับการถูกนินทา อย่างจินฮากยองที่หลายคนคิดว่าเธอจะเลือกเดินออกจากความอึดอัดนี้ไปเอง แต่แล้วสุดท้ายหญิงสาวก็เลือกจะยืนหยัดเผชิญกับอดีตคนรักต่อไปเพราะเธอรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะตั้งใจว่าจะไม่มีความรักในที่ทำงานอีก สถานการณ์กลับพาเธอให้ไปกุ๊กกิ๊กกับอีชีอูผู้สดใสและเต็มไปด้วยพลังบวกจนได้ แถมยังต้องปิดบังความสัมพันธ์ครั้งนี้เอาไว้จนถึงที่สุดด้วย

สิ่งที่เราได้เห็นทำให้รู้ว่าบางครั้งชีวิต (และความรัก) ก็ไม่มีอะไรคาดการณ์ได้แบบ 100% เราไม่อาจรู้ได้เลยว่าวันพรุ่งนี้ที่จะมาถึง ชีวิตจะพาเราไปพบเจอใคร มีความสัมพันธ์กับใคร ความรักนับ 10 ปีอาจต้องพังทลาย หรือได้พบรักครั้งใหม่ อย่างที่แม่หมอที่จินฮากยองได้พบตอนเริ่มเรื่องได้บอกเธอเอาไว้ว่า “โชคชะตาไม่ใช่สิ่งที่จะระวังและหลีกเลี่ยงได้” เช่นเดียวกับสภาพอากาศที่เราต้องเจอในแต่ละวัน บางครั้งอาจพยากรณ์ผิดพลาด บางครั้งอาจต้องเจอฝนหลงฤดู บางครั้งก็ต้องเจอลมหนาวหรืออากาศร้อนจัด สุดท้ายแล้วนี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ความรัก และความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว

สรุป

‘Forecasting Love and Weather’ นำเสนอเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ที่สับสนวุ่นวาย คาดเดาไม่ได้ราวกับสภาพอากาศ แต่ก็เป็นความรักในรูปแบบที่ใกล้ตัว จับต้องได้ ทำให้รู้สึกอินตามได้ง่าย ๆ นอกจากนี้เคมีของพระนางยังดูน่ารักกรุบกริบ ชวนฟินจิกหมอนดูไปยิ้มตามไปได้ไม่ยาก ที่สำคัญเนื่องจากเป็นซีรีส์ที่มีกรมอุตุนิยมวิทยาและการพยากรณ์อากาศเป็นฉากหลัง จึงทำให้เราได้เห็นการนำเสนอภาพท้องทะเล ป่าเขา ท้องฟ้า เมฆฝน ไปจนถึงธรรมชาติที่งดงามในมุมมองแปลกตาต่างจากซีรีส์เรื่องอื่น ใครกำลังมองหาซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติก ภาพสวย เพลงประกอบฟังเพราะ หยิบ ‘Forecasting Love and Weather’ มาดูแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

สามารถติดตาม ‘Forecasting Love and Weather – พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง’ ได้ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ ทาง Netflix

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส