Release Date
10/03/2022
ความยาวหนัง
123 นาที
ผู้กำกับ
สุรศักดิ์ ป้องศร
นักแสดง
ฟิฟิม สิริอมร อ่อนคูณ ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร อภิวัฒน์ บุญอเนก ชาติชาย ชินศรี
Our score
5.3[รีวิว] หมอปลาวาฬ – รักช้ำ ๆ ขำเรื่อย ๆ จุกตอนจบ
จุดเด่น
- ฟิฟิม สิริอมร คือความสว่างสไวเดียวของเรื่องจริง ๆ
จุดสังเกต
- งานโปรดักชันมีแผลขนาดใหญ่ชนิดไม่น่าให้อภัยได้เลย
-
บทหนังวนเวียนกับเรื่องหัวใจของหมอปลาวาฬกับจ่าลอด ขาดความวาไรตีแบบหนังไทบ้าน เดอะซีรีส์ ไปหน่อย
6.0
-
งานโปรดักชันมาตรฐานตกมาก มีจุดผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยเยอะมาก
4.9
-
ฟิฟิม สิริอมร อ่อนคูณคือทุกอย่างของเรื่องจริง ๆ ส่วนนักแสดงสมบทคนอื่นก็ทำหน้าที่ได้ดี
6.0
-
เทียบกับจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ด้วยกัน อาจยังเทียบชั้นกันไม่ติดสักเท่าไหร่
5.0
-
ด้วยเรื่องโปรดักชันที่ยังไม่สมบูรณ์เราเลยไม่กล้าแนะนำให้ดูในโรงหนังเท่าไหร่
4.5
ยังคงมีผลงานออกมาให้ชมเรื่อย ๆ สำหรับหนังในจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ แต่หากไม่นับ ‘รักหนูมั้ย’ ที่เหมือนเป็นแค่การใช้นักแสดงชุดเดียวกันมาเล่าเรื่องใหม่ ‘หมอปลาวาฬ’ จะนับเป็นงานหนังสปินออฟลำดับที่ 2 ต่อจาก ‘ไทบ้านXBNK 48’ โดยแน่นอนว่าการที่หนังใช้ชื่อตัวละครอย่างหมอปลาวาฬมาเป็นจุดขายย่อมหมายถึงการที่เราจะได้เห็นเรื่องราวมุมมองความสัมพันธ์จากฝั่งผู้หญิงอย่างหมอปลาวาฬว่าทำไมในหนัง ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์’ เธอถึงยังตัดใจจากจ่าลอดไม่ได้เสียที
หนังเริ่มมาด้วยภาพอดีตตอนที่หมอปลาวาฬไม่อาจช่วยชีวิตคนตกน้ำได้และเป็นจ่าลอดนี่เองที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว และโดยที่ไม่ต้องเดาให้เสียเวลาภาพก็ตัดมายุคปัจจุบันที่จะเล่าเรื่องหมอปลาวาฬที่ยังไม่อาจตัดใจจากจ่าลอดให้ขาดได้แม้จะมีหมอเต้ยสุดหล่อตามจีบอยู่ก็ตาม แต่แล้วก็เป็นจ่าลอดเองที่อาศัยช่วงเวลาที่ครูแก้วแฟนสาวตัวจริงพานักเรียนไปแข่งฟุตบอลต่างจังหวัดหาช่องทางกลับไปตีสนิทหมอปลาวาฬจนเกิดเป็นความผูกพันครั้งใหม่ที่ต้องเลือกระหว่างความต้องการกับความถูกต้อง
เอาจริง ๆ พลอตเรื่องของ ‘หมอปลาวาฬ’ นี่แทบไม่มีอะไรเหลือให้เล่าอีกแล้ว แต่หากจะให้เปรียบเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีีโรก็คงทับรอยเดียวกับ ‘Black Widow’ ของมาร์เวลนั่นแหละครับคือเอาตัวละครที่คนดูรักแม้ว่าจะไม่ค่อยมีบทบาทเป็นชิ้นเป็นอันในหนังภาคต่อของ ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์’ เท่าไหร่ และยังแนะนำตัวละครใหม่ (หรือเปล่า?) อย่างหมอเต้ยที่ได้อดีตครูเต้ย – อภิวัฒน์ บุญอเนกมาโชว์หน้าหล่อ ๆ อยู่ 1 ซีนถ้วนซึ่งเราก็คงเดาตอนจบได้ไม่ยากว่าหนังจะต้องเล่นงานกับชะตากรรมของหมอปลาวาฬอย่างหนักหน่วงก่อนเธอจะก้าวข้ามมะเร็งหัวใจอย่างจ่าลอดไปได้
กระนั้นในความไม่มีอะไรของพล็อตเรื่องมันก็ยังแอบมีจุดน่าสนใจหลายอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า สุรศักดิ์ ป้องศร มีความเข้าใจในเนื้อหาที่ตัวเองกำลังจะเล่าโดยเฉพาะการดึงให้อนามัยกลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งบทหนังก็ใช้ประโยชน์จากการที่แพทย์อาสาสมัครต้องติดตามคนไข้ผู้เฒ่าผู้แก่ให้มาคอยรับยารักษาโรคเป็นประจำสร้างภาพลักษณ์ของแพทย์ประจำท้องถิ่นที่ต้องต่อสู่กับความเชื่อของชาวบ้านเรื่องสุขภาพ
มาเปรียบเทียบกับเรื่องหัวใจของหมอปลาวาฬที่แม้จะมีความรู้รักษาคนไข้ได้มากแค่ไหน แต่เรื่องหัวใจก็ยังเห็นเธอปรึกษาเพื่อนร่วมสถานีอนามัยหรือกระทั่งเลือก “ยาผิด” ให้ตัวเองจนกว่าจะบรรเทาอาการ เธอก็กลายเป็นผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องแลกหัวใจของเธอกับความโลเลและหลายใจของจ่าลอด
และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเสน่ห์เฉพาะตัวของ ฟิฟิน สิริอมร อ่อนคูณ คือหัวใจของเรื่องราวจริง ๆ แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกของหมอปลาวาฬที่จับเธอใส่แว่นแต่งหน้าอ่อน ๆ แต่แอบแซ่บด้วยรอยสักจะทำให้หนุ่ม ๆ แทบคลั่งทุกครั้งที่เธอปรากฎตัวแต่เป็นฝีมือการแสดงของเธอต่างหากที่ทำให้เรื่องราวที่หวุดหวิดจะน้ำเน่ากลับมีมิติและมีหัวจิตหัวใจมากพอให้คนดูติดตาม ร่วมลุ้นและอดเห็นใจกับชะตากรรมของเธอไม่ได้
กระนั้นความดีของนักแสดงหรือตัวบทที่ยังทำงานกับคนดูก็กลับมามัวหมองด้วยข้อผิดพลาดด้านโปรดักชันที่พบเจอได้รายทางตั้งแต่ซีนบทสนทนาที่คนดูได้ยินเสียงไมค์ไวร์เลสขูดกับเสื้อได้ชัดเจน เสียงพูดที่หลายครั้งก็ให้ความรู้สึกเหมือนบันทึกมาด้วยเกนเสียงที่พีคจนฟังแทบไม่รู้เรื่องจนถึงเสียงบางช่วงที่ติดไวร์เลสไม่ได้ก็เหมือนได้ยินจากไมค์กล้องจนคุณภาพเสียงกลายเป็นปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพของงานไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ด้านงานภาพแม้ว่าสไตล์นำเสนอที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของหนังชุดนี้ทั้งการแทร็กกิ้งตามตัวละครเดินข้ามถนนไปมาหรือการถ่ายรับหน้าเพื่อสื่ออารมณ์โดยไม่ต้องมีคำพูดจะยังคงมีให้เห็นทั่วไปและทำงานได้ดีอยู่ แต่พอมีบางช็อตที่เห็นเลยว่าแก้ปัญหาแสงเปลี่ยนด้วยการใส่ฟิลเตอร์แสงส้มปลอม ๆ เข้ามาก็กลายเป็นรอยด่างพร้อยอันน่าเสียดาย
และคงไม่เป็นการสปอยล์ถ้าจะบอกว่าตอนท้ายเรื่องแอบมีหยอดฉากที่บักเซียงอีกหนึ่งตัวละครที่คนดูรักและเห็นใจกำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ ‘จักรวาลไทบ้าน สัปเหร่อ’ ที่คราวนี้จักรวาลไทบ้านจะมาในรูปแบบหนังโรแมนติกสยองขวัญเมื่อบักเซียง (ชาติชาย ชินศรี) ยังคงตัดใจจากคนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไม่ได้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่หลายคนได้ดูต้องตั้งตารออย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส