Release Date
28/04/2022
แนว
ซูเปอร์ฮีโร, แอนิเมชัน, โทคุซัทสึ
เรตผู้ชม
ทั่วไป
ความยาว
98 นาที
Our score
7.2[รีวิว] Kamen Rider Beyond Generations – หนัง ‘ค ร อ บ ค รั ว’ ตัวโต ๆ
จุดเด่น
- นักแสดงที่สุดยอดจ้างร้อยเล่นล้าน
- ไวซ์คือ MVP ของเรื่อง ทำฮาได้แทบทุกฉาก
- คิวบู๊จัดเต็ม ลีลาท่าทางยังพริ้วเหมือนเดิม
- ฟูจิโอกะ มาอิโตะ ในบท Kamen Rider 1 เท่มาก จนอยากให้เป็นพระเอกไรเดอร์ซักเรื่องจริง ๆ
จุดสังเกต
- CG ยังมีปัญหาเหมือนเดิม บางซีนนั้นยังคีย์กรีนสกรีนไม่หมด
- ตัวละครเยอะเกินไป กระจายบทยังไม่ดีเท่าไหร่
- ชุดไรเดอร์ตัวก่อน ๆ เก่าลงอย่างเห็นได้ชัด
-
ความสมบูรณ์ของบท
6.8
-
คุณภาพนักแสดง
7.2
-
การเล่าเรื่อง
7.0
-
โปรดักชัน-การถ่ายทำ
7.5
-
ความคุ้มค่าในการรับชมตามแนวหนัง
7.3
กลับมาอีกครั้งสำหรับหนังโรงรวมญาติไรเดอร์ ประจำปี 2021 (อนึ่งเรื่องนี้ฉายที่ญี่ปุ่นสิ้นปี 2021 นะเออ) หลังจากที่ โตเอะ (TOEI ) พักการสร้างหนังรวมญาติไปหนึ่งปีเพราะโควิด ในที่สุดพวกเขาก็พร้อมนำหนังโรงไรเดอร์มาเสิร์ฟแฟน ๆ อีกครั้ง
Kamen Rider Beyond Generations เล่าเรื่องถึงอนาคตอันไกลโพ้นในปี 2071 ที่โลกถูกปกครองด้วยปิศาจนาม ‘เดียโบล’ มันถูกปลดปล่อยออกมาจากผนึกใน เดียโบลสแตมป์ จนทำให้มนุษยชาติในโลกอนาคตได้ตกเป็นทาสของมัน โมโมเสะ ริวโนะสุเกะ (แสดงโดย อากิโยชิ นากาโอะ Akiyoshi Nakao) ชายผู้ครอบครองพลังของ ‘Kamen Rider Century’ จึงต้องย้อนเวลากลับมาในปี 2021 เพื่อกำจัดเดียโบลก่อนที่มันจะถูกปลุกพลังจนครองโลกได้เร็จ
ริวโนะสุเกะ ได้พบกับ อิการาชิ อิคคิ (แสดงโดย มาเอดะ เคนทาโร Maeda Kentaro) ผู้แปลงร่างเป็น ‘Kamen Rider Revice’ และ คามิยามิ โทมะ (แสดงโดย Naito Shuichiro) นักเขียนนิยายผู้แปลงร่างเป็น ‘Kamen Rider Saber’ ทำให้เขาก็ต้องพัวพันไปกับเหล่าไรเดอร์ในยุคนี้โดยไม่รู้ตัว แต่ในขณะนั้นเองเขาก็พบกับลูกชายของตนในวัยชราผู้สั่นคลอนความลับที่เขาเก็บไว้มาตลอด ความจริงแล้วริวโนะสุเกะเป็นใคร และความลับอันดำมืดของเขานั้นคืออะไรกันแน่ ร่วมหาคำตอบได้ใน Kamen Rider Beyond Generations
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า Beyond Generations เป็นหนังฮีโรประเภทแฟนเซอร์วิส นั่นคือหนังจะไม่มีการปูพื้นตัวละครจากทั้งฝั่งของไรเดอร์ในซีรีส์ Revice และเหล่าไรเดอร์ของซีรีส์ Saber ให้คุณเลย ถ้าคุณไม่เคยดูไรเดอร์เหล่านี้มาก่อน ก็อาจจะมีอาการงงเล็กน้อยว่า อีพวกนี้มันเป็นใคร พื้นเพแต่ละตัวละครเป็นยังไงกัน ซึ่งหนังก็เข้าใจว่า ด้วยเหตุนี้อาจทำให้คนดูเกิดอาการจูนไม่ติดได้ พวกเขาจึงใส่ตัวละครอย่าง ริวโนะสุเกะ มาเป็นตัวกลางเพื่อทำหน้าที่เป็นเชื่อมเนื่อเรื่องให้เดินไปข้างหน้า
แต่เมื่อหนังให้มิติกับตัวละครอย่าง ริวโนะสุเกะ มันก็ทำให้ละครอื่น ๆ ในเรื่องแทบจะกลายเป็น ‘ตัวละครที่แบนราบ (Flat character)’ เลยล่ะ โดยความโชคดีของเรื่องคือการที่เรื่องนี้มันเป็นหนังญี่ปุ่น จึงทำให้นักแสดงคนอื่นสามารถดึงแอกติงล้น ๆ ออกมาแย่งซีนกันได้
ในฝั่งของกลุ่ม Sword of Logos ของเซเบอร์นั้น นักแสดงแต่ละคนก็ยังเล่นได้ดีตามมาตรฐาน เท่กันอย่างไรก็เท่อย่างนั้น แต่ถ้าจะหวังโชว์ซีนอารมณ์ที่เด่นชัดล่ะก็ อาจต้องไปดูใน Kamen Rider Saber หรือภาคแยกอย่าง V-Cinext แทน เพราะด้วยการที่หนังรวมญาติมันให้แอร์ไทม์น้อยอยู่แล้ว แถมตัวละครนักดาบนี่ก็เยอะเหลือเกิน ทำให้บทแต่ละคนแทบจะไม่มีมิติเท่าที่ควร
ในฝั่งของเหล่าไรเดอร์จากซีรีส์ Kamen Rider Revice ที่แม้จะมาน้อยแต่ก็ได้แอร์ไทม์กันอยู่พอสมควร อาจเพราะเป็นซีรีส์ใหม่ ผู้สร้างจึงต้องแบ่งแอร์ไทม์ให้พวกเขาไป บทสำคัญจึงตกไปอยู่ที่ฝั่งของกลุ่มอิคคิซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ทว่าด้วยนิสัยของตัวละครอย่างอิคคิหรือการแอ็กติงของนักแสดงก็ไม่ทราบ ทำให้ส่วนตัวเรา(ผู้เขียน) รู้สึกว่าการแสดงของอิคคิยังธรรมดาไปหน่อย ไม่พอจะแบกเรื่องราวได้เลย ยิ่งพอแยกจากเจ้าปีศาจคู่หูอย่าง ‘ไวซ์’ ละก็เห็นชัดเลยว่าค่อนข้างธรรมดาจริง ๆ
ซึ่งเจ้าไวซ์นี่ก็ยังเป็นจุดเด่นในหนัง เพราะตัวมันทำหน้าซักถามเรื่องน่าสงสัยแทนคนดูได้ แม้ว่าจะน่ารำคาญในบางซีน แต่ก็เป็นตัวละครที่นิสัยตลกอย่างเห็นได้ชัด ช่วยลดทอนความเครียดของเนื้อหาให้เบาลง
อีกสิ่งที่เซอร์ไพรส์หนักคือ การที่เอาน้องฟูจิโอกะ มาอิโตะ (Maito Fujioka) มาแสดงเป็น Kamen Rider 1 วัยหนุ่ม ถือว่าค่อนข้างสนองแฟนเดนตายพอสมควร เพราะน้องมาอิโตะนั่นก็คือลูกชายของ ฟูจิโอกะ ฮิโรชิ (Fujioka HiroshI) ผู้แสดงเป็น Kamen Rider 1 นั่นแหละ เรียกได้ว่าถอดแบบจิตวิญญาณพ่อมาเป๊ะ ๆ เลย
เมื่อมองทางด้านเนื้อเรื่องแล้ว ก็ตามธรรมเนียมหนังรวมญาติไรเดอร์เลยครับ ซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาสลับซับซ้อนมากมายนัก เพราะแต่ละภาคก็มีประเด็นแค่เรื่องราวของคนนอกกับ ตอนที่ไรเดอร์ตัวใหม่กำลังจะเพลี่ยงพล้ำ แล้วก็มีไรเดอร์รุ่นพี่มาช่วยในนาทีสุดท้าย ฟิน ๆ ไปแบบซีนกัปตันอเมริกาใน Avengers: Endgame นั่นแหละ เรียกได้ว่าเป็นหนังขยันแฟนเซอร์วิสที่ผสมเนื้อหาสอนใจเด็ก ซึ่งภาคนี้ก็เน้นย้ำเรื่องครอบครัวได้ดี จนบางทีเราก็แอบมีน้ำตาซึมเหมือนกัน
นั่นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในจอหรือเรื่องราวนอกจอ หนังเรื่องนี้คือหนังครอบครัวอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหนึ่งในธีมหลักที่ซีรีส์ Kamen Rider Revice พยายามเน้นย้ำอยู่เสมอ ถ้าหวังเข้าไปดูเนื้อเรื่องหนัก ๆ ล่ะก็ หนังเรื่องนี้ก็อาจไม่ตอบโจทย์มากนัก แต่ถ้าดูเอาสนุก เหมือนได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กนั้น Beyond Generations ตอบโจทย์มาก ๆ เลยล่ะ
Kamen Rider Beyond Generations เป็นหนังรวมญาติที่เหมาะให้คุณผู้ปกครองพาบุตรหลานไปดูในวันหยุด ยิ่งใครที่โตมากับไรเดอร์ก็อาจจะชอบ เพราะมีซีนที่ชวนให้ระลึกถึงวัยเด็กในหลาย ๆ ฉาก แม้ในมุมของเรา (ผู้เขียน) จะรู้สึกว่าภาคนี้ดรอปกว่าหนังไรเดอร์รวมพล Generation ภาคอื่น ๆ แต่ก็ถือว่าเป็นรสชาติใหม่ที่คุ้มค่าแก่การลองดูครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส