นับถึงวันนี้ Forrest Gump (1994) หนังดีกรี 6 รางวัลออสการ์ก็ผ่านมา 28 ปี แล้ว แต่คุณงามความดีของหนังก็ยังอยู่ในใจผู้ชมเสมอมา หนังยังคงได้รับเสียงกล่าวถึงในเชิงบวกอยู่เรื่อย ๆ ด้วยเหตุที่ว่าเนื้อหาตลอด 2 ชั่วโมง 22 นาทีของหนังเป็นเหตุการณ์ที่คาบเกี่ยวช่วงเวลาในยุค 60s – 70s และมีการเอ่ยถึงเหตุการณ์จริงในประวัติศาสตร์อยู่หลายจุด จึงเลี่ยงไม่ได้ที่ผู้ชมและนักวิจารณ์จะวิพากษ์ว่าเนื้อหาของหนังหลาย ๆ จุดไม่ตรงตามประวัติศาสตร์จริงบ้าง บิดเบือนไปบ้าง แต่ก็มีฉากหนึ่งที่หลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า หนังเล่าได้ตรงตามเหตุการณ์จริง และถ่ายทอดภาพ อารมณ์ออกมาได้สมจริงมาก ฉากนั้นก็คือ “ฉากรบในสงครามเวียดนาม”
แม้ว่า Forrest Gump จะให้งบในการสร้างไปถึง 55 ล้านเหรียญ ก็นับว่าสูงพอดูในยุคนั้น เทียบเป็นค่าเงินในวันนี้ก็ประมาณ 107 ล้านเหรียญ แต่รู้ไหมครับว่าฉากรบที่เราเห็นนั้น ไม่ได้ยกกองไปถ่ายทำกันในเวียดนาม แต่ที่จริงแล้วถ่ายบนเกาะ ฟริปป์ และเกาะฮันติง ในรัฐเซาธ์แคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกานี่แหละ ก็กลายมาเป็นงานหนักของทีมงานที่ต้องเนรมิตภูมิประเทศของเซาธ์แคโรไลนาให้ดูเหมือนป่าในเวียดนาม รวมไปถึงการใช้ CGI ช่วยเพิ่มภูเขาในฉากหลังจำลองจากทิวทัศน์จริงของเวียดนาม
ไม่เพียงแค่ภาพ แต่ทีมงานก็ยังทำการบ้านศึกษาค้นคว้าเรื่องหน่วยและกองทหารจริง ๆ ที่ออกรบในสงครามเวียดนามจริง ในหนังนั้นกล่าวถึงว่า ฟอเรสต์ กัมป์ ถูกส่งไปประจำการในเวียดนามเมื่อปี 1967 เขาประจำอยู่ในกรมทหารราบที่ 47 กองพลทหารราบที่ 9 ซึ่งกรมทหารราบที่ 47 นี้มีอยู่จริงและประจำการอยู่ในเวียดนามช่วงปี 1966 – 1971 นอกจากนั้นกรมทหารราบที่ 47 ยัง และบทบาทในหลาย ๆ สงคราม รวมไปถึงมีส่วนเกี่ยวข้องในช่วงเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วย แต่ทุกวันนี้ กรมทหารราบที่ 47 ก็มีบทบาทหน้าที่ในการฝึกทหารใหม่เท่านั้น
มีทหารผ่านศึกอเมริกันหลายคน ที่ได้ดูหนัง Forrest Gump ซึ่งแน่นอนว่าต้องได้เห็นฉากสงครามเวียดนามที่เป็นฉากสำคัญของหนัง เพราะเป็นฉากสะเทือนใจผู้ชมที่กัมป์ต้องเสียเพื่อนรักอย่าง บั๊บบา ไปในสงครามนี้ ซึ่งบรรดาทหารผ่านศึกหลายท่านได้กล่าวถึงฉากที่ทหารอเมริกันโดนซุ่มโจมตีว่าฉากนี้นั้น หนังถ่ายทอดได้สมจริงมาก รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจจะขาดตกบกพร่องไปบ้าง แต่ความรุนแรงและความชุลมุนโกลาหลนั้น สามารดึงอารมณ์ความรู้สึก ความทรงจำเก่า ๆ ของเหล่าอดีตทหารผ่านศึกสงครามเวียดนามกลับมาได้อย่างชะงัดมาก
ในหนังนั้นเราได้เห็นกันว่าทหารเวียดกงระดมยิงปืนครกเข้าใส่กลุ่มทหารอเมริกันอย่างหนักหน่วง แม้ว่าในความเป็นจริงนั้น เหล่าทหารเวียดกงไม่ได้ใช้ปืนครกในการสู้รบมากนัก แต่นิยมใช้ปืนขนาดเล็กในการซุ่มโจมตีเสียมากกว่า แต่ผู้กำกับ โรเบิร์ต เซเมกคิส เลือกที่จะถ่ายทอดความดุเดือดเข้มข้นจากการถูกซุ่มโจมตีในฉากนี้ จึงเลือกที่จะถ่ายทอดภาพให้เห็นว่าทหารอเมริกันโดนโจมตีด้วยปืนครกอย่างหนักหน่วง แต่จุดที่เหล่าทหารผ่านศึกเห็นพ้องต้องกันว่าสมจริงที่สุด ก็คือการที่เราไม่ได้เห็นร่างของทหารเวียดกงเลยในฉากนี้ เพราะจากประสบการณ์จริงของทหารผ่านศึกเวียดนาม พวกเขาก็แทบไม่ได้เห็นตัวของทหารเวียดกงเลยเวลาที่ถูกซุ่มโจมตี และทุกอย่างก็เกิดขึ้นแบบรวดเร็วอย่างมาก ฉากนี้จึงถูกยกย่องจากเหล่าทหารผ่านศึกว่าเป็นฉากสู้รบในสงครามที่ถ่ายทอดได้สมจริงที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์อเมริกัน
ใครอ่านแล้วคิดถึงฉากนี้ ย้อนชมฉากนี้ได้อีกครั้งครับ