ภาคแรกที่เป็นฝีมือการกำกับของอาตี๋ จัสติน ลิน ผู้ปลุกผีแฟรนไชส์ Fast And Furious จากยุคตกต่ำให้กลายเป็นหนังภาคต่อที่ฮิตกระหึ่ม แล้วก็ขอเปลี่ยนแนวมาทำอย่างอื่นบ้าง ประเดิมด้วยโปรเจ็คท์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ จัสติน รับช่วงต่อจากผู้กำกับ เจ.เจ. อบรามส์ ที่วางมือไปทำหนังอวกาศที่ฟอร์มใหญ่กว่าอย่าง Star Wars แล้วจัสติน ก็พิสูจน์ให้เห็นได้ว่า Star Trek หนังสงครามอวกาศเรื่องแรกของเขาไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่า 2 ภาคก่อนหน้าของ เจ.เจ. เลย
ภาคนี้กัปตันเจมส์ ที เคิร์ก และลูกเรือเอนเตอร์ไพรส์ต้องเจอกับศัตรูต่างดาวที่ร้ายกาจมีพิษสงมากที่สุด จนถึงขั้นลูกเรือเสียชีวิต และต่างดาวเผ่านี้ยังหมายทำลายล้างยอร์คทาวน์นิคมอวกาศขนาดใหญ่ที่มีผู้อยู่อาศัยนับล้าน กัปตันเจมส์ และลูกเรือที่รอดชีวิตจะต้องหาทางเอาชีวิตรอดจากการตามล่าและยังต้องหยุดยั้งแผนการร้ายให้ทันเวลา นับเป็นอีกภาคที่เนื้อหาเข้มข้นครับ ได้ดูฉากแอ็คชั่นใหญ่ ๆ ตั้งแต่ต้นเรื่องเลย โดยเฉพาะฉากเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างเอนเตอร์ไพรส์และเหล่าฝูงบินผึ้งนี่ลากยาวและมันส์ถล่มทลายมาก บทกระจายความสำคัญได้ดี กัปตันเจมส์ไม่ได้นำโดดจนเกินไปนัก สป๊อคก็ได้โชว์เท่ และหมอโบนส์ก็กลายเป็นตัวชงมุกในภาคนี้ รวมถึงซูลู,อูฮูร่า,สก๊อตต์ ทุกคนได้มีฉากเด่นของตัวเอง และแอนตัน เยลซิน ผู้ล่วงลับกับบทเชคอฟ ในภาคนี้ก็มีบทบาทมากขึ้นได้ลุยเคียงข้างกับกัปตันเจมส์เลย และตัวละครใหม่อย่างเจย์ลา มนุษย์ต่างดาวนักสู้หน้าขาวที่เห็นกันในตัวอย่างหนังก็เป็นตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาได้อย่างมีสีสัน โดยเฉพาะอาวุธไฮเทคของเธอ ถือว่าเป็นไม้เด็ดที่เหล่าลูกเรือเอนเตอร์ไพรซ์เอามาต่อสู้กับเหล่าร้ายได้อย่างสนุกสนาน
หลายเรื่องก่อนหน้านี้ผมบอกว่านี่คือหนังที่มีฉากซีจีอลังการมาก เรื่องนี้ก็ต้องกล่าวอีกครั้งกับการเปิดตัวยอร์คทาวน์ นิคมอวกาศทรงกลมที่ออกแบบมาได้ล้ำมาก มองเห็นจินตนาการบรรเจิดของทีมงานที่เสกสรรค์ออกมาเป็นภาพได้เสมือนจริง และสมควรที่จะเป็นผลงานภูมิใจของทีมงานเพราะฉากแนะนำยอร์คทาวน์ กล้องพาเราทะลุทะลวงไปดูทัศนียภาพหลากหลายมุมให้ดูกันยาว ๆ หลายนาทีเลย ได้เห็นความมโหฬารขนาดว่ายานเอนเตอร์ไพรซ์ว่าใหญ่แล้วพอเข้าไปอยู่ในยอร์คทาวน์ยังเหลือลำนิดเดียว ขนาดน่าจะใหญ่พอ ๆ กับเดธสตาร์แหละครับ งานโปรดัคชั่นอื่น ๆ ก็ดูเนี้ยบมาก ทั้งการออกแบบระบบภายในยานเอนเตอร์ไพรส์ต่างรุ่น บรรดาชุดฟอร์มที่ลูกเรือใส่ในแต่วาระก็ดูเท่ทุกชุด เสียหน่อยก็ภาพรังของพวกเหล่าร้ายที่ดูล้าหลังและเล็กมาก ไม่สมกับที่มีเผ่าพันธุ์นับล้านตัว
ไซม่อน เพ็กก์ดาราตลกผู้รับบทสก๊อตตี้ผู้ดูแลเครื่องยนต์ เขาเป็นมือเขียนบทภาพยนตร์ฝีมือดีคนหนึ่งของวงการ เคยเขียนบทหนังโรงหนังทีวีมากว่า 20 เรื่อง และ Star Trek Beyond ก็เป็นฝีมือการเขียนบทหนังอวกาศเรื่องแรกของเขา ไซมอน ใส่สถานการณ์เรื่องราวได้อย่างสนุกน่าติดตาม โยนชะตากรรมของลูกเรือให้อยู่ในภยันตราย ใส่เซอร์ไพรซ์เข้ามาในเส้นเรื่อง มีฉากแอ็คชั่นที่ทั้งต่อสู้ด้วยอาวุธไฮเทคและทั้งมือเปล่า ให้บรรดาตัวประกอบทั้งหลายได้โชว์กึ๋น และที่สำคัญมุกตลกที่หยอดมาได้เรื่อย ๆ ทำให้หนังเดินหน้าไปได้แบบหัวเราะไปลุ้นไปสมกับที่นักวิจารณ์ต่างเทคะแนนให้ หนังใช้ทุนสร้างไป 150 ล้านเหรียญ น้อยกว่าภาคก่อนที่ 190 ล้านเหรียญ แต่ก็เป็นภาคที่ใช้เงินทุนได้คุ้มค่า และสานต่อชีวิตแฟรนไชส์ไปได้อีกยาว ๆ ตอนนี้ก็ประกาศสร้างภาค 4 กันไปแล้วด้วย