Release Date
25/08/2022
Runtime
93 Minutes
Genre
Thriller
Director
Baltasar Kormákur
Cast
Idris Elba Sharlto Copley
Our score
7.0[รีวิว] Beast สัตว์-ร้าย – ระทึก…สัตว์ (ป่า)
จุดเด่น
- หนังไม่บกพร่องเรื่องความตื่นเต้นเลย เป็น 90 กว่านาทีที่กดดันและลุ้นระทึก
- บทหนังเล่าเรื่องได้น่าสนใจ
- อิดริส เอลบา แบกหนังทั้งเรื่องอยู่หมัด
- ซีจีสิงโต ทำได้เนียนตา แม้จะยังดูออกว่าเป็นคอมพิวเตอร์ ก็ตาม
จุดสังเกต
- บทหนังยังมีช่องโหว่อยู่บ้าง
- ตัวละครลูกสาวอาจทำให้ผู้ชมบางส่วนรำคาญ
-
การแสดง
7.0
-
โปรดักชัน
7.0
-
บทหนัง
6.9
-
ความบันเทิง
7.0
-
ความคุ้มค่าในการชม
7.0
ในบรรดาหนังระทึกขวัญเกี่ยวกับสัตว์ร้ายที่จ้องเอาชีวิตมนุษย์ พวกฉลาม หรือ จระเข้ ดูจะได้เป็นดาวเด่นของหนังแนวนี้ ด้วยการใช้ประโยชน์ของพื้นที่เป็นแม่น้ำ มหาสมุทร หรือทะเลซึ่งไม่ใช่ที่อยู่ของมนุษย์มาสร้างความลึกลับซับซ้อนและอันตรายตรงข้ามกับพื้นที่บนบกอย่างป่าที่แทบจะไม่ค่อยเป็นโลเคชันหลักของหนังแนวนี้เท่าไหร่ เมื่อลองหาข้อมูลก็พบว่ามีหนังที่เอาสัตว์ป่าอย่างสิงโตมาเป็น มอนสเตอร์หลักของเรื่องเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นเองนับเฉพาะในฮอลลีวูดก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ ดังนั้นการเข้าฉายของ ‘Beast’ เลยเหมือนงานที่ยังไม่ถูกเล่นจน ‘ช้ำ’ มากนักเมื่อเทียบกับหนังทริลเลอร์ในแนว ๆ นี้ และการได้ผู้กำกับอย่าง บัลทาซาร์ คอร์มาเกอร์ (Baltasar Kormákur) ผู้กำกับชาวไอซ์แลนด์ที่มักวนเวียนกับการทำหนังที่มนุษย์ต้องต่อกรกับธรรมชาติมากุมบังเหียนโปรเจกต์นี้
หลังสูญเสียภรรยาไปโดยโรคร้าย ดร.เนท ตัดสินใจพา เมอร์ และ นอร่า ลูกสาวของเขาไปเยี่ยมเยือน มาร์ติน เพื่อนรักถึงแอฟริกา และในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวรับประสบการณ์ในป่าสวันนา พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสิงโตนักล่าที่หมายปลิดชีวิตมนุษย์ที่ย่างกรายเข้ามายังถิ่นของพวกมัน งานนี้เนทต้องพาลูกสาวและเพื่อนรักของเขาเอาตัวรอดจากสัตว์ร้ายให้จงได้
การที่ ‘Beast’ เลือกเล่าเรื่องราวภายใน 93 นาทีสะท้อนถึงความแม่นยำในงานกำกับของคอร์มาเกอร์อยู่ไม่น้อย ทั้งการเลือกเข้าเรื่องเร็วพุ่งสู่จุดขัดแย้งเดินเข้าบทสรุปได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการเล่นกับความลุ้นระทึกในฉากที่เนทต้องเผชิญหน้ากับสิงโตก็ทำได้ดีมาก ไม่ขัดเขินเลย ยิ่งได้ อิดริส เอลบา มารับบทเนทในฐานะพ่อที่มีความผิดบาปและหวังใช้โอกาสนี้ไถ่โทษตัวเองกับลูกก็ทำให้เราอดสงสารและเอาใจช่วยเขาไม่ได้และมันก็สะท้อนแนวคิดหลักของหนังที่มุ่งเปรียบเปรยความเป็น “พ่อ” ระหว่างมนุษย์และสัตว์ป่าได้อย่างเฉียบคม
และนอกจากงานเบื้องหน้าที่เราได้ดูหนังสุดระทึกแล้วงานบทโดย ไรอัน เองเกิล (Ryan Engle) และ แฌร์เม พริเมก ซัลลิแวน (Jaime Primak Sullivan) ก็นับเป็นเรื่องที่ต้องชื่นชมอยู่ไม่น้อย เพราะตัวเรื่องเองก็ไม่ได้พูดถึงแค่เรื่องพ่อกับลูกสาวที่กำลังจะเป็นอาหารของสิงโตเท่านั้น เราเลยเห็นความละเอียดอ่อนทั้งการพูดเรื่องปัญหาพรานเถื่อนล่าสิงโต ที่เป็นที่มาทำให้เกิดสิงโตสัตว์ประหลาดตัวสำคัญของหนัง หรือการสอดแทรกเรื่องราวดราม่าในครอบครัวที่ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่กระนั้นสิ่งที่เลี่ยงได้ยากสำหรับบทภาพยนตร์ที่มีประเด็นเยอะแยะขนาดนี้ก็หนีไม่พ้นการที่มันจะแอบโกงคนดูบ้าง ทั้งการให้ตัวละครพ่อรอดจากสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานได้อย่างบังเอิญเหลือเกิน หรือการที่มันไม่ได้สานต่อเรื่องราวของปัญหาพรานเถื่อนกับการลดลงของจำนวนสิงโตที่อยู่ในแอฟริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะครับ เพราะในกรอบเวลา 90 กว่านาทีของหนัง (ตัดเอนด์เครดิตน่าจะเหลือไม่ถึงด้วย) การที่หนังไปโฟกัสประเด็นครอบครัวก็นับว่าเหมาะสมแล้ว
ส่วนที่น่าจะเป็นอุปสรรคที่สุดในการชมคงหนีไม่พ้นตัวละครลูกสาวของ ดร.เนท นี่แหละครับ ด้วยความที่หนังไปเน้นที่ตัวละครพ่อของ อิดริส เอลบา และสีสันของตัวละครมาร์ตินโดย ชาร์ลโต คอปลีย์ (Sharlto Copley) เลยน่าจะยากเหมือนกันที่เราจะอินไปกับตัวละครลูกสาวทั้ง 2 ดังนั้นสิ่งที่ตามมาเลยกลายเป็นพฤติกรรมที่สร้างความรำคาญให้คนดูโดยเฉพาะตัวละคร เมอร์ ของ อิยานา ฮาลลีย์ (Iyana Halley) ที่คนดูน่าจะตั้งป้อมกับเธอที่สุดโดยเฉพาะพฤติกรรมที่เหมือนไบโพลาร์เดี๋ยวก็แขวะพ่อเดี๋ยวก็เป็นห่วงจนหลายคนอดด่าในใจไม่ได้เลย (ฮ่าาาา)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส