จากต้นฉบับหนังแอ็คชั่นปี 1972 ที่ได้ชาร์ล บรอนสันเจ้าพ่อหนังแอ็คชั่นยุคนั้นรับบทนำ ถูกนำมารีเมคให้ เจสัน สตาแธม รับบทนำในปี 2011 ไม่ได้เข้าฉายโรงในบ้านเรา แต่ได้เสียงบอกต่อดีถึงความมันส์ของตัว หนัง รวมถึงหนังก็ทำกำไรไปได้พอกรุบกริบ จากทุน 40 ล้าน ทำเงินทั่วโลกไป 62 ล้าน ก็เงียบไปถึง 5 ปี ไม่นึกว่าอยู่ดี ๆ ค่ายมิลเลนเนียม จะขุด Mechanic มาทำภาคต่ออีก หนังใช้ทุนสร้างเท่าเดิมแต่หน้าหนังดูฟอร์มใหญ่ขึ้น ทั้งดาราเสริมทัพที่มีทั้ง เจสซิกา อัลบา,มิเชล โหยว และทอมมี่ ลี โจนส์ บวกกับการที่หนังมาถ่ายทำในภูเก็ตและมีญาญ่า หญิง ไปรับบทสมทบในหนังด้วย และตัวอย่างหนังที่น่าสนใจก็ล้วนเป็น องค์ประกอบที่เพียงพอให้เหล่าแฟน ๆ หนังแอ็คชั่นของพี่เจสันซื้อตั๋วเข้าไปชมได้ง่าย
ด้วยความที่ภาคแรกจัดได้ว่าเป็นหนังแอ็คชั่นที่สนุกเรื่องหนึ่ง เพราะได้ทีมงานที่แน่นทั้งผู้กำกับ ไซมอน เวสต์ ที่เคยกำกับ Conair (1997) หนังแอ็คชั่นในดวงใจหลายคน และได้ ริชาร์ด เวงค์ ที่เคยเขียนบท The Equalizer (2012) มารับหน้าที่ดัดแปลงบทภาพยนตร์จากหนังต้นฉบับปี 1972 แต่พอมากภาค 2 CBS Films บริษัทร่วมสร้างถอนตัวออกไป คงเหลือเพียง มิลเลเนียม ฟิล์ม บริษัทที่ก่อร่างสร้างตัวมาจากหนังสร้างลงแผ่นดีวีดี แล้วก็เลือกใช้ทีมงานโนเนมล้วน ทั้งผู้กำกับและมือเขียนบท แต่ใช้งบไปกับดาราสมทบและโปรดัคชั่นที่ตระเวนถ่ายทำในหลายประเทศ ไทย ,บัลแกเรียออสเตรเลีย,บราซิล ผลที่ได้คือหนังที่มีบทอ่อนปวกเปียกมาก ขาดน้ำหนักความน่าเชื่อถือในการกระทำของตัวละคร
ภาคนี้บิชอป นักฆ่าระดับพระกาฬที่ใคร ๆ ก็ต้องการใช้บริการ เขาหนีมากบดานในบราซิล แต่ก็ยังถูกบรรดาเจ้าพ่อตามหาตัวจนเจอและบีบบังคับให้บิชอปทำงานให้ บิชอปก็เลยหนีมาหาเพื่อนเก่าที่เกาะหลีเป๊ะ ถือว่าเป็นส่วนดีของหนังที่ถ่ายทอดทิวทัศน์บ้านเราออกมาสวยงาม เชื่อว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวมาได้อีกเยอะ ที่นี่บิชอป ได้รู้จักกับ จีน่า สาวนักบริการสังคม ที่ถูก เครน คู่อริเก่าของบิชอปบีบบังคับให้เธอมาเป็นเหยื่อล่อบิชอป ถึงบิชอปจะรู้ทันแต่ก็หลงรักจีน่า แล้วจีน่าก็ถูกเครนลากตัวกลับไป ยื่นข้อเสนอให้ บิชอป ลอบสังหารอาชญากรอันดับโลก 3 คนเพื่อแลกกับชีวิตจีน่า หนังหยิบพลอตของ Killer Elite (2011) หนังแอ็คชั่นอีกเรื่องที่เจสัน สตาแธม รับบทนำเช่นกัน แต่ก็ไม่ให้เครดิตผู้เขียนต้นฉบับ บทหนังฉบับนี้ถูกเขียนเรื่องราวมาแบบบางเบามากเพียงเพื่อให้เชื่อมโยงฉากแอ็คชั่นลอบสังหารทั้ง 3 ฉากเท่านั้น ยิ่งการต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชีวิตหญิงที่ไม่รู้จักมาก่อนยิ่งสร้างความตะขิดตะขวงใจมาก แทนที่จะไปทำงานลอบฆ่ายาก ๆ ทำไมไม่ไปสังหารเครนเสียแทน
หนังเดินหน้าไปแบบสร้างคำถามในใจตลอดเวลา ทำไม ทำได้ไง เพราะอะไร นี่คือดูแบบเปิดโหมดรับความโม้ของหนังแอ็คชั่นฮอลลีวู้ดแล้วก็ตาม ปริมาณความรั่วไหลไร้เหตุผลของบทก็อยู่ในระดับที่มากเกิน ฉากแอ็คชั่นทั้งฉากยิง และต่อสู้ด้วยมือเปล่า ก็ไม่ได้มีความแปลกใหม่ ได้เห็นเจ้าพ่อนั่งเต๊ะ แล้วมีเหล่าบอดี้การ์ดถือปืนกลเรียงแถว 2 หน้ากระดาน โอ้ว!! นี่มันฉากในละครหัวค่ำบ้านเราเลยนะ เหล่าลูกกระจ๊อกก็ทำตัวเป็นผักเป็นปลาวิ่งมาโล่ง ๆ ให้ยิงเล่น จุดเด่นที่เป็นความสามารถของบิชอป ในการดัดแปลงค้นคิดอุปกรณ์เครื่องกลมาใช้ในการลอบสังหารก็ถูกเล่าแบบผ่าน ไม่ได้อธิบายเจาะลึกให้คนดูเข้าใจ และแต่ละปฎิบัติการก็ดูสำเร็จลุล่วงแบบโคตรง่ายไร้ความรู้สึกร่วมลุ้น ฉากดีที่สุดก็คือฉากเจาะสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่เห็นในตัวอย่างนั่นละครับ คุณภาพหนังถอยกลับไปเป็นมาตรฐานแบบหนังของมิลเลเนียมยุคที่สร้างหนังลงแผ่นเลย รู้สึกเปลืองตัวเสียดายชื่อเสียงของดาราแต่ละคนที่มีเครดิตในหนังเรื่องนี้มาก ถือว่าเป็นจุดด่างพร้อยในประวัติการทำงานเลย
หนังจบแบบมีหักมุมเล็กน้อยในฉากไคลแมกซ์แต่ก็ไม่ได้สร้างความประหลาดใจอะไร เป็นหนังที่สร้างมาเอาใจคอหนังแอ็คชั่นโดยเฉพาะ แล้วต้องดูแบบตั้งอกตั้งใจเสพฉากแอ็คชั่นกับหุ่นสวย ๆ หน้าสวย ๆ ของเจสซิกา อัลบา ห้ามคิดตาม ห้ามหาเหตุผลต่าง ๆ นานาทั้งสิ้น ทำใจก่อนดูครับ แต่ถ้าใครยังไม่เคยดูภาคแรก แนะนำให้ไปหาภาคแรกมาดู สนุกกว่ามากครับ