Ang Lee ผู้กำกับ 2 รางวัลออสการ์ ได้นำเสนอเทคนิคการสร้างภาพยนตร์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ซึ่งอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของการสร้างภาพยนตร์ในยุคต่อไปก็เป็นได้
ในปัจจุบันนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก Ang Lee ผู้กำกับที่คว้ารางวัลออสการ์มาแล้ว 2 ครั้ง โดยเขามักสำเสนอผลงานในรูปแบบที่ไม่ซ้ำทางเดิม ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์มหากาพย์วิทยายุทธ์ (Crouching Tiger, Hidden Dragon) ไปจนถึงภาพยนตร์โรแมนติก (Brokeback Mountain) ภาพยนตร์ CG ตะลึงตา (Lift of Pi) และล่าสุดกับภาพยนตร์สงคราม Billy Lynn’s Long Halftime Walk ซึ่งใช้เทคนิคการถ่ายทำด้วยอัตราเฟรมเรต (Frame Rate) อยู่ที่ 120 เฟรมต่อวินาที
- ปล. เฟรมเรต (Frame Rate) คือ จำนวนของภาพภายใน 1 วินาที โดยอัตราเฟรมเรตมาตรฐานของการถ่ายทำภาพยนตร์ในปัจจุบันอยู่ที่ 24 เฟรมต่อวินาที และ Peter Jackson เคยถ่ายทำ The Hobbit ไตรภาคด้วยอัตราเฟรมเรตสูงสุด 48 เฟรมต่อวินาที)
นั้นหมาความว่า ผู้ชมได้จะได้เห็นรายละเอียดทุกอย่างในภาพที่ปรากฏบนจอภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากแอ็คชั่นที่ผู้ชมจะได้เห็นแม้กระทั่งเม็ดทรายที่กระเด็นจากแรงกระทบของกระสุนและระเบิด
“มันเหมือนกับว่าเราได้เห็นทุกสิ่งที่อยู่ในสถานที่นั้นจริงๆ”
Ang Lee กล่าวถึงเทคนิคการถ่ายทำนี้ว่า “มันจะต้องเป็นประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์แบบใหม่อย่างแน่นอน”
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากมาจากหนังสือของ Ben Fountain เมื่อปี 2012 เกี่ยวกับวีรบุรุษในสงครามอิรัก (รับบทโดย Joe Alwyn นักแสดงหน้าใหม่ชาวอังกฤษ) ที่ต้องประสบกับความขัดแย้งในจิตสำนึกของตนในขณะที่กำลังได้รับการเชิดชูเกียรติภายในการแข่งขัน Super Bowl เมื่อปี 2004 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นโอกาสอันดีที่ Ang Lee จะได้ทดลองสไตล์ในการกำกับภาพยนตร์แบบใหม่ๆ
ภาพยนตร์เรื่องนี้จะถูกบอกเล่าเรื่องราวผ่านสายตาของ Billy และภาพลำรึกความหลังจากเหตุการณ์สงครามในอิรัก (มี Vin Diesel รับบทเป็นจ่าทหาร) เรื่อยไปจนถึงคืนที่เขาอยู่กับครอบครัวก่อนการแข่งขัน Super Bowl (Kristen Stewart รับบทเป็นพี่สาวของ Billy) และสุดท้ายกับการโชว์ตัวของ Billy ในฐานะวีรบุรุษสงครามในช่วงพักครึ่งเกมการแข่งขัน Super Bowl ซึ่งเป็นฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความสับสนในจิตใจของ Billy
Billy Lynn’s Long Halftime Walk มีกำหนดฉายในต่างประเทศวันที่ 11 พฤศจิกายน 2016
ที่มา : EW