Release Date
13/10/2022
Runtime
111 Minutes
Genre
Horror Thriller
Director
David Gordon Green
Cast
Jamie Lee Curtis Andi Matichak Rohan Campbell
Our score
7.3[รีวิว] Halloween Ends – บทสรุปโคตรสะใจ แก้ตัวจากภาคก่อนสำเร็จ
จุดเด่น
- โดยรวมถือว่าปิดตำนานได้น่าพอใจ
- การนำลอรี สโตรด กลับมาเดินเรื่องอีกครั้งเป็นการตัดสินใจที่ดีแล้ว
- การเพิ่มบทโรแมนซ์ทำให้เน้นธีมหลักของหนังได้หนักแน่นดี
- แอนดี เมติแช็ค ได้ฉายเสน่ห์เสียทีหลังเป็นตัวประกอบมา 2 ภาค
จุดสังเกต
- จุดหักมุมของหนังเดาทางง่ายไปหน่อย
- เสียดายที่บทโรแมนซ์ไม่นำพาไปสำรวจหรือพูดถึงประเด็นทางจิตวิทยาที่น่าสนใจกว่านี้
-
การแสดง
7.5
-
โปรดักชัน
7.5
-
บทหนัง
6.6
-
ความบันเทิง
7.5
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
7.5
ตามหลังภาค ‘Halloween Kills’ เพียง 11 เดือน ในที่สุด ‘Halloween Ends’ บทสรุปตำนานฆาตกรดังแห่งยุค 70s – 80s ที่โลดแล่นสะสมยอดการเชือดมาตลอด 40 ปีที่หลายคนรอคอยกลับมาสานต่อเรื่องราวที่ทิ้งปมไว้ภาคก่อน ซึ่งต้องยอมรับว่าคุณภาพของหนังภาคที่แล้วไม่เป็นที่น่าพอใจนัก ดังนั้นการมาของภาคจบบทสรุปอย่าง ‘Halloween Ends’ จึงเหมือนเป็นการกลับมาเรียกศรัทธาและเดิมพันครั้งใหญ่ว่าการปลุกผี ไมเคิล ไมเยอร์ส ครั้งนี้ของ เดวิด กอร์ดอน กรีน (David Gordon Green) จะทำได้สมศักดิ์ศรีตำนานหนังเชือดที่สะสมมาร่วม 40 ปีหรือไม่
โดยเหตุการณ์ใน ‘Halloween Ends’ จะเริ่มจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งใหม่ในปี 2019 เมื่อคอรี คันนิงแฮม (รับบทโดย โรฮาน แคมป์เบลล์ Rohan Campbell ) เด็กหนุ่มอนาคตไกลต้องมาประวัติด่างพร้อยหลังจากเผลอทำเด็กในดูแลของตนเองตายในคืนวันฮาโลวีน จากนั้นหนังจะตัดไปที่เหตุการณ์ปัจจุบันที่พาให้คอรีได้มาเจอกับ ลอรี สโตรด (รับบทโดย เจมี ลี เคอร์ติส Jamie Lee Curtis) และอัลลิสัน (รับบทโดย แอนดี เมติแช็ค Andi Matichak) ในช่วงเวลาที่ทั้งแฮดดอนฟีลด์ต่างมองเขาไม่ต่างจากปีศาจ โดยไม่รู้เลยว่าในคืนวันฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึง ไมเคิล ไมเยอร์ส กำลังจะกลับมาสร้างตำนานเลือดสาดสะเทือนขวัญแฮดดอนฟีลด์อีกครั้ง
สิ่งหนึ่งที่กรีนและทีมเขียนบทดูจะจับทางได้จากความเละเทะของบทหนังในภาค ‘Halloween kills’ ก็คือการกลับไปหารากเหง้าที่ทำให้เกิดฆาตกรนามว่า ไมเคิล ไมเยอร์ส อีกครั้งโดยแทบจะไม่กล่าวถึงความโกลาหลอันแสนชุลมุนวุ่นวายในหนังภาคก่อนอีก และการแนะนำตัวละครใหม่อย่าง คอรี คันนิงแฮม ก็กลายเป็นคำถามชั้นดีว่าท้ายสุดแล้วแฮดดอนฟีลด์จะสามารถหลุดพ้นจากฝันร้ายวันฮาโลวีนได้จริงหรือไม่ รวมถึงการตั้งคำถามถึงปีศาจภายในจิตใจที่หนังภาคก่อนพยายามเล่าแต่ไม่สำเร็จได้เป็นชิ้นเป็นอันกว่ากันมาก
อีกจุดหนึ่งที่ชอบมากในหนัง ‘Halloween Ends’ คือการพา ลอรี สโตรด กลับมามีความสำคัญกับเรื่องราวอีกครั้ง ทั้งในฐานะผู้นำครอบครัวที่พยายามปกป้องหลานสาวคนเดียวของเธอและในฐานะคนที่พยายามทำให้แฮดดอนฟีลด์ก้าวข้ามฝันร้ายนาม ไมเคิล ไมเยอร์ส ให้ได้ผ่านการโอบอุ้ม คอรี คันนิงแฮม เด็กหนุ่มมีประวัติที่เธอหวังว่าจะทำให้เขาได้กลับมาใช้ชีวิตในสังคมต่อไปได้ แต่ในขณะเดียวกันฝันร้ายของลอรีและครอบครัวก็กลับมาในรูปแบบของการถูกประณามว่าเป็นต้นเหตุให้หลายครอบครัวต้องสูญเสียคนที่รักไปจากสงครามไล่เชือดในคืนวันฮาโลวีนที่ผ่านมา
ซึ่งนี่แหละครับคือการทำให้ตัวละครนำอย่างสโตรดและการแสดงของ เจมี ลี เคอร์ติส ไม่เสียของ เพราะการจะเล่าจุดจบที่น่าจดจำก็ควรขุดคุ้ยปมปัญหาตัวละครมาเล่าและพาคนดูก้าวข้ามไปเผชิญหน้ากับปมที่ยังสะสางไม่สำเร็จไปพร้อมกับตัวละคร และสามารถแฟนเซอร์วิสกับสาวกของหนังชุดนี้ได้พอดิบพอดีผ่านช็อตเปิดเรื่องในตำนานที่มาได้ถูกที่ถูกจังหวะ และฉากแฟลชแบ็กที่คราวนี้มาแบบให้คิดถึงหนังภาคก่อน ๆ จนแฟน ๆ น่าจะรื้นไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่กระนั้นเราก็ยังต้องตั้งข้อสังเกตอยู่ดีแม้ว่าจะมีหลายจุดของหนังที่น่าพึงพอใจมาก ๆ อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่กระนั้นจุดหักมุมของหนังก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดจนเดาทางไม่ถูก ตรงกันข้ามเมื่อหนังผ่านเวลาไปสักไม่เกินครึ่งชั่วโมงเราก็แทบจะจับทางมันถูกหมดแล้วว่าหนังจะไปลงเอยยังไง เพียงแต่กรีนก็ฉลาดพอที่จะให้บทสรุปในแบบที่คนดูต้องการ แม้จะขาดความท้าทายในการเล่าเรื่องแบบหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่เล่นปมจิตวิทยาได้ล้ำลึกกว่าก็ตาม
อีกจุดที่ทั้งชอบและเสียดายคือบทโรแมนติกที่แทบจะเป็นของใหม่ในหนังชุด ‘Halloween’ ระหว่างคอรีกับอัลลิสันซึ่งหนังเอาจุดนี้มาเป็นหัวใจหลักของเรื่อง และเป็นจุดที่ทำให้เรื่องราวพลิกผันจนนำไปสู่บทสรุปของหนัง โดยมันมีทั้งข้อดีที่สามารถเอาไปตอกย้ำประเด็นการตื่นจากฝันร้ายที่เรากล่าวไปแล้ว แต่ในขณะเดียวกันกรีนเองก็ดูจะไม่ได้เจาะลึกลงรายละเอียดมากพอจนนำไปสู่การกล่าวถึงปมทางจิตวิทยาที่น่าจดจำมากกว่านี้
แต่อย่างน้อยสิ่งที่ดีงามมาก ๆ จากปมโรแมนติกนี้ก็คือการทำให้คอหนังได้เห็นเสน่ห์ของ แอนดี เมติแช็ค ที่รับบทอัลลิสันเสียทีหลังจากเป็นเพียงตัวประกอบและอาหารตาของคนดูมา 2 ภาคแบบแทบไม่มีความสำคัญกับเรื่องราวเท่าใดนัก แต่ใน ‘Halloween Ends’ ต้องยอมรับเลยว่าการมีอยู่ของเมติแช็คทำให้หนังตรึงคนดูได้ไม่แพ้เจมี ลี เคอร์ติสที่เป็นตำนานคู่ ‘Halloween’ เลย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส