ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีข่าวออกมาเนือง ๆ ว่าภายใต้ทีมบริหารชุดใหม่ของวอร์เนอร์นั้น ได้สั่งยกเครื่องจักรวาลหนังดีซีใหม่หมด และส่งผลให้หลาย ๆ โปรเจกต์ต้องโดนยกเลิกไป ทั้ง Wonder Woman 3 และ Batman Beyond แต่ก็ยังมีอยู่หนึ่งโปรเจกต์ที่ได้ไฟเขียวให้เดินนหน้าต่อนั่นก็คือ หนัง Superman ภาคต่อ ที่ยังคงได้ เฮนรี่ คาวิลล์ (Henry Cavill) กลับมารับบทบุรุษเหล็ก
เฮนรี่ คาวิลล์ ได้แนะนำตัวเองในภาพลักษณ์ของซูเปอร์แมนครั้งแรกใน Man of Steel ปี 2013 ภายใต้การกำกับโดย แซก ชไนเดอร์ (Zack Snyder) ที่ขณะนั้นรับหน้าที่ควบคุมทิศทางของจักรวาลหนังดีซีด้วย DCEU แต่หลังจากนั้น ซูเปอร์แมนของคาวิลล์ก็ไปโผล่ปรากฏตัวตามโปรเจกต์ต่าง ๆ โดยที่ยังไม่มีหนังภาคต่อของตัวเองอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งล่าสุดในปีนี้ ที่เขาโผล่มาเซอร์ไพรส์แฟน ๆ อีกครั้งในฉากหลังเครดิตท้ายเรื่องของ Black Adam ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณอันดีว่าเราจะได้เห็นบทบาทของซูเปอร์แมนกันอีกครั้ง
วอลเตอร์ ฮามาดะ (Walter Hamada) นายเก่าของดีซีเองก็เคยวางแผนการระยะยาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้ว ซึ่งฮามาดะเรียกแผนการนี้ว่า “ยุทธการเกล็ดขนมปัง” ด้วยการให้ซูเปอร์แมนของคาวิลล์ รวมไปถึงซูเปอร์ฮีโรรายหลัก ๆ ไปโผล่เป็นบทรับเชิญในหนังหลาย ๆ เรื่องในจักรวาลดีซี และให้แบทของ ไมเคิล คีตัน และ เบน แอฟเฟล็ก ไปปรากฏตัวใน The Flash เป้าหมายของแผนการก็คือการพาจักรวาลหนังดีซีไปสู่เรื่องราของ “Crisis on Infinite Earths”เหตุการณ์สำคัญในจักรวาลการ์ตูนดีซี แผนการของฮามาดะยังรวมไปถึง แต่หลังจากฮามาดะลาออกจากดีซีไปตั้งแต่เดือนตุลาคม จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครเอ่ยถึงแผนการดังกล่าวนี้อีกต่อไป
ทีมผู้บริหารชุดใหม่มองแผนการของฮามาดะที่วางทิศทางของจักรวาลดีซีไปสู่เหตุการณ์ Crisis on Infinite Earths นั้นมีเป้าหมายไม่ตรงกันกับแผนการณ์ที่จะดำเนินเรื่องผ่าน ซูเปอร์ฮีโรหลักของดีซี (iconic DC Comics arc) ถ้าใช้แผนการเดิมของฮามาดะนั้นดูจะซ้ำซ้อนเกินไป จะว่าไป แผนการของฮามาดะก็เกือบจะสำเร็จถึงเป้าหมายแล้ว แต่ก็เจอปัญหากับทีมบริหารชุดใหม่จนต้องขอลาออกไปเสียก่อน ถึงแม้ฮามาดะจะออกไป แต่สถานะซูเปอร์แมนของคาวิลล์ก็ยังคงได้ไปต่อในแผนการ iconic DC Comics arc ของ เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน ที่เข้ามาเป็นผู้บริหารชุดใหม่ของดีซี
อีกปัญหาหนึ่งที่ทีมผู้บริหารชุดใหม่ไม่เห็นชอบกับแผนการของฮามาดะนั้นก็เพราะว่าเหตุการณ์นั้น ก็เพราะว่าเหตุการณ์ Crisis on Infinite Earths นั้น เพิ่งถูกใช้ไปในซีรีส์ The Arrow ที่ฉายทางช่อง CW เมื่อช่วงธันวาคม 2019 ถึงมกราคม 2020 ซึ่งเหตุการณ์ช่วงนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลภาพยนตร์ดีซีด้วย เมื่อ The Flash เวอร์ชันของ เออร์ซา มิลเลอร์ (Ezra Miller)มาปรากฏตัวร่วมกับ แกรนต์ กัสติน (Grant Gustin) The Flash เวอร์ชันทีวีซีรีส์ ซึ่งฮามาดะก็วางแผนการณ์ว่าจะใช้สูตรเดิมนี้ใน DCU
ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) ที่เพิ่งมีหนัง Black Adam ออกมา ก็ออกมาอวดอ้างเครดิตว่า เขาคือผู้ที่ดึงซูเปอร์แมนของคาวิลล์กลับมาปรากฏตัวใน Black Adam เพราะเขากล้าที่จะไปชนกับ วอลเตอร์ ฮามาดะ ที่ไม่เห็นชอบกับแผนการของเขา และเพราะว่าเขาและ เฮนรี่ คาวิลล์ มีผู้จัดการคนเดียวกันคือ แดนี การ์เซีย ทั้งคู่ก็เลยเจรจาตกลงกันได้ง่าย
“การที่ได้ เฮนรี่ คาวิลล์ กลับมาเป็นซูเปอร์แมนนั้น เป็นเรื่องสมควรทำที่สุด ไม่ใช่แค่เฉพาะใน Black Adam นะ แต่กับทั้งจักรวาลดีซีต่างหาก แต่สำคัญที่สุดนั่นก็เพื่อแฟน ๆ และนั่นเป็นเรื่องที่ผมต้องลงมือทำเพื่อทุกคน ใช่ครับ ทั้งต้องโทรศัพท์ติดต่อ เข้าพบ แต่ ทุกคน มันต้องเป็นปีนี้แหละทุกคน หลังจากใช้เวลามาถึง 6 ปี เพื่อให้มันสำเร็จเสียที ผมขอย้ำคำนี้อีกครั้งครับ 6 ปี ที่เราเฝ้าแต่พูดเรื่องนี้มาตลอด แต่พวกเขาก็ยังยืนกรานว่า “ไม่” อยู่ตลอด แต่แล้วในที่สุดความสัมพันธ์ของเราก็ต้องถึงจุดสิ้นสุดลง และเราก็จะร่วมกันนำพาจักรวาลดีซีไปสู่ยุคใหม่กันเสียที”
จะว่าไป ถ้าเหตุการณ์ Crisis on Infinite Earths ถูกนำมาใช้ใน DCU ก็น่าจะเป็นเรื่องราวที่ถูกอกถูกใจผู้ชมอย่างมาก แต่ก็น่าเสียดาย เพราะดีซีในยุคของ เจมส์ กันน์ และ ปีเตอร์ ซาฟราน นี้ไม่สานต่อแผนการนี้แล้ว แต่มีแผนการใหม่ที่วางไว้ระยะยาวเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งจากนี้ก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปเส้นทาง ซูเปอร์แมน ของ เฮนรี่ คาวิลล์ จะมาช่วยนำทิศทางใหม่ให้กับดีซีได้อย่างไร