![[รีวิว] Puss in Boots: The Last Wish – แอนิเมชันเหมียวน่ารักชวนให้รู้จักคุณค่าชีวิต](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2022/12/share-374x196.png)
Our score
7.9Release Date
29/12/2022
Runtime
100 Minutes
Genre
Animation Adventure Comedy
Cast (Voice)
Antonio Banderas Salma Hayek Harvey Guillén Florence Pugh John Mulaney Wagner Moura Olivier Colman
Director
Joel Crawford Januel Mercado
![[รีวิว] Puss in Boots: The Last Wish – แอนิเมชันเหมียวน่ารักชวนให้รู้จักคุณค่าชีวิต](https://www.beartai.com/wp-content/uploads/2022/12/MV5BNTBhYTM0NTctNTA0Yi00OTk1LWFjMzctYjExMTE5YjY1MWE4XkEyXkFqcGdeQXVyNzI3NTMwMTQ@._V1_-780x326.jpg)
Our score
7.9[รีวิว] Puss in Boots: The Last Wish – แอนิเมชันเหมียวน่ารักชวนให้รู้จักคุณค่าชีวิต
จุดเด่น
- เป็นแอนิเมชันภาคต่อที่มีเส้นเรื่องแข็งแรง
- คาแรกเตอร์น้องหมา เพอร์โร น่ารักชวนใจละลาย
- เรื่องราวในส่วนของ โกลดีล็อกส์ และครอบครัวหมี สามารถสอนใจผู้ใหญ่ให้เห็นคุณค่าของครอบครัวได้ดี
- เสียงพากย์มีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะพากย์ไทยที่ทำให้หนังบันเทิงเข้ากับคนดูได้ดีมาก
จุดสังเกต
- มุกดาร์ก ๆ ที่มาของเพอร์โร ออกจะรุนแรงไปสักนิดและไม่ได้ผลกับเรื่องเท่าไหร่นัก
-
เสียงพากย์
8.0
-
โปรดักช้น
8.0
-
บทภาพยนตร์
7.5
-
ความบันเทิง
8.0
-
ความคุ้มค่าในการรับชม
8.0
เว้นช่วง 11 ปีพอดีหลัง ‘Puss in Boots’ ภาคแรกเข้าฉายไปและทิ้งให้แอนิเมชันสร้างชื่อของดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชัน (Dreamwork Animation) ในจักรวาลเชร็ค (Shrek) เงียบหายจากโรงภาพยนตร์ไปเป็นทศวรรษ จนมาถึงปี 2022 นี้ในที่สุดภาคต่ออย่าง ‘Puss in Boots: The Last Wish’ ก็ได้ฤกษ์ออกฉายหลังถูกเลื่อนกำหนดมานาน แต่ตัวหนังก็ไม่ต่างจากแมว 9 ชีวิตเพราะถึงเลื่อนยังไงเจ้าเหมียวพุซ ก็ยังนำพาตัวมันออกมาโปรยเสน่ห์ให้แฟน ๆ ได้ส่งท้ายปีเก่าอย่างหฤหรรษ์

หลังผจญภัยเสี่ยงตายมานานในที่สุด พุซ เจ้าเหมียวนักดาบทรงเสน่ห์ก็ต้องเผชิญหน้าความกลัวเป็นครั้งแรกเมื่อเขาได้พบกับ หมาป่ามัจจุราช ที่มาย้ำเตือนว่าต่อไปนี้ พุซ จะเหลือชีวิตสุดท้ายก่อนไปพบยมบาล พุซเลือกเนรเทศตัวเองไปพักพิงกับ มาม่าลูน่า ผู้ให้ที่พักพิงเหมียวจรจัด ที่นั่นพุซได้พบกับ เพอร์โร เจ้าหมาชิวาว่าจรจัดที่คิดว่าตัวเองเป็นแมว และผูกสัมพันธ์กัน แต่แล้วความสงบที่พุซฝันหาก็เป็นอันจบสิ้นหลังการมาเยือนของ โกลดีล็อกส์และครอบครัวหมีที่มาจ้างเขาให้ไปขโมยแผนที่สู่ดาวประทานพร
ซึ่งผู้ที่ครอบครองแผนที่ดังกล่าวคือ แจ็ก ออร์เนอร์ หนุ่มร่างท้วมเจ้าของโรงงานผลิตขนมปัง แต่ไม่ใช่พุซแค่คนเดียวที่ต้องการแผนที่ดังกล่าวเพราะเขาได้พบกับ คิตตี้ ซอฟต์พอวส์ เหมียวถ่านไฟเก่าที่ฝีมือเหนือกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน คิตตี้ พุซ และเพอร์โร จึงออกเดินทางตามหาดาวประทานพรเพื่อให้พุซขอพรให้เขากลับมามี 9 ชีวิตดังเดิม โดยมีคู่แข่งคือ แจ็ก ออร์เนอร์ และครอบครัวหมีของโกลดีล็อกส์


ก่อนอื่นคงต้องปรบมือให้ความกล้าของทีมงานดรีมเวิร์คส์ ที่เล่นธีมที่ดูผู้ใหญ่มาก ๆ อย่างอาการกลัวความตายมาเล่าในแอนิเมชันขวัญใจเด็ก ๆ อย่าง ‘Puss in Boots’ ในขณะที่แอนิเมชันอื่น ๆ ในท้องตลาดมักจะเอาการผจญภัยไปผูกกับครอบครัวหรือมิตรภาพ การที่พุซเจ้าเหมียวทรงเสน่ห์มีความตายเป็นแรงขับในการออกเดินทางอีกครั้งและเรียนรู้คุณค่าชีวิตก็ทำให้ผู้ชมได้เติบโตตามตัวละครไปอีกขั้นและที่เจ๋งมากคือผู้ชมแต่ละช่วงวัยจะได้สารจากหนังที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวอีกด้วย
สำหรับผู้ชมในวัยรุ่นเชื่อเลยว่าการก้าวจากเด็กมาเริ่มทดลองใช้ชีวิตผู้ใหญ่ ย่อมเป็นความกลัวลึก ๆ ที่หลายคนต้องเผชิญและมีประสบการณ์ร่วมดังนั้นการเห็นเจ้าพุซเข้ากระบะทรายแมวหรือปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่อย่างเพอร์โรก็ทำให้ผู้ชมในวัยนี้รีเลต (Relate) ตัวเองเข้ากับตัวละครได้ไม่ยาก ยิ่งหนังมีฉากผจญภัยตื่นตามากเท่าไหร่ ผู้ชมก็จะได้เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่อาจพบได้จากการนั่งไถฟีดในโซเชียลแต่เป็นการออกไปใช้ชีวิตที่มีเวลาจำกัดต่างหาก


แต่ในฝั่งผู้ชมวัยผู้ใหญ่หน่อยอายุประมาณ 30 ปลาย ๆ ถึงต้น 40 ก็จะได้สารเรื่องความรับผิดชอบกับความสัมพันธ์ เพราะตัวละครอย่างพุซเองก็มีปมผิดบาปในอดีตที่รอแก้ไขหรือได้กล่าวขอโทษกับคนที่ตัวเองทำผิดด้วย ไปจนถึงการเห็นคุณค่าของครอบครัวสำหรับกรณีของโกลดีล็อกส์และครอบครัวหมีของเธอ ทำให้บทภาพยนตร์ของ พอล ฟิชเชอร์ (Paul Fisher) ไม่เพียงเป็นแค่หนังภาคต่อของ ‘Puss in Boots’ เท่านั้นแต่ยังเป็นหนังที่เติบโตมาพร้อมแฟนเชร็ค (Shrek) ที่เชื่อว่าตอนนี้ก็กลายมาเป็นพ่อแม่หรือมีครอบครัวกันแล้วให้ชมและได้ข้อคิดดี ๆ กลับไปอีกด้วย
แต่กระนั้นสิ่งที่ฟิชเชอร์ดูจะหนักมือพอสมควรก็เห็นจะเป็นมุกสุดดาร์กของตัวละครเพอร์โรที่กล่าวถึงที่มาว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ในชุดที่เหมือนถุงกระสอบได้อย่างน่าสลดหดหู่แต่กลับเล่าไปหัวเราะไป ซี่งตรงนี้ขอเตือนไว้ก่อนนะครับว่าหากท่านมีเพื่อนหรือคนที่ท่านรักที่มีสภาพจิตใจอ่อนไหว บางทีมุกนี้อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจได้ซึ่งตอนดูยอมรับเลยว่าแอบตกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมผู้สร้างเลือกใส่มุกนี้มา


ทิ้งท้ายอยากจะพูดถึงเสียงพากย์ เราคงเถียงไม่ได้ล่ะนะว่าต้นฉบับที่ได้ แอนโทนีโอ แบนเดอราส (Antonio Banderas) กับ ซาลมา ฮาเย็ก (Salma Hayek) มาพากย์เป็น พุซ อิน บูธส์ และ คิตตี้ ซอฟต์พอวส์ นั้นได้อารมณ์ไม่น้อยรวมถึงการได้ฟลอเรนซ์ พิวห์ (Florence Pugh) มาสมทบให้เสียงโกลดีล็อกส์นั้นย่อมต้องได้อารมณ์ความสนุกที่เต็มเปี่ยมแน่นอน
แต่สำหรับเสียงพากย์ภาษาไทยคราวนี้จัดว่าพิเศษมากนะครับ เพราะคราวนี้เนื่องจากตัว พุซ อิน บูธส์ มีบทร้องเพลงด้วยดังนั้นเสียงพระเอกของเราเลยเปลี่ยนจากพี่ ดอม เหตระกูล มาเป็น อรรคพล ทรัพย์อาจิณ หรือคุณเก๋ วงแฮงแมน ที่เคยฝากเสียงพากย์และร้องเพลงเป็นจีนี่ ใน ‘Aladdin’ มารับช่วงแทนซึ่งแน่นอนครับว่าคุณภาพเสียงพากย์และเสียงร้องหายห่วงเลย นอกจากนี้บทโกลดีล็อกส์ ยังปรับให้เสียงพากย์ไทยเป็นการพูดเสียงเหน่อแทนซึ่งก็สร้างคาแรกเตอร์ให้ตัวละครได้อย่างสร้างสรรค์ทีเดียวครับ
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส