Jason Bourne คือหนึ่งในแฟรนไชส์หนังสายลับสุดฮิตที่มีแฟน ๆ ทั่วโลกคอยติดตามมาตลอดทุกภาค แต่เรื่องล่าสุดในแฟรนไชส์ก็คือ ‘Jason Bourne’ เมื่อปี 2016 นับถึงวันนี้ก็ 7 ปี เข้าไปแล้ว ทำไมถึงยังไม่มีข่าวคราวของ Bourne 6 แว่วมาให้ได้ยินกันเลย
แฟรนไชส์ Jason Bourne เริ่มต้นด้วย The Bourne Identity ในปี 2002 เป็นหนังที่ดัดแปลงจากนิยายเรื่องดังของ โรเบิร์ต ลัดลัม (Robert Ludlum) ได้ แมตต์ เดมอน (Matt Damon) มารับบทนำ เป็น เจสัน บอร์น ตามชื่อเรื่อง ชายหนุ่มนิรนามความจำเสื่อม ที่ค่อยสืบหาตัวตนของตัวเอง แล้วก็พบความจริงว่าเขาเป็นนักฆ่าของรัฐบาลนาม เจสัน บอร์น และกำลังอยู่ในระหว่างหลบหนี หนังภาคแรกทำรายได้ทั่วโลกไป 214 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 60 ล้านเหรียญ ก็นับว่าเป็นหนังที่ออกสตาร์ทได้สวยงาม ทำให้เดมอนกลับมารับบทเป็น เจสัน บอร์น ใน Bourne Supremacy (2004) และ The Bourne Ultimatum (2007) จากนั้นก็เว้นช่วงไปยาวนาน ทำให้ผู้สร้างตัดสินใจสร้างภาคแยก Bourne Legacy ในปี 2012 เล่าเรื่องราวของ อารอน ครอส ที่ได้ เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner) มารับบทนำ
แม้ว่าฮอลลีวูดจะสร้างหนังแอ็กชันสายลับออกมามากมาย แต่เสน่ห์ของ Jason Bourne ที่ทำให้กลายเป็นแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จก็คือ การแสดงฉากแอ็กชันของ แมตต์ เดมอน ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งแอ็กชันฮีโร ด้วยฉากต่อสู้ที่รุนแรง สมจริง ฉากไล่ล่าที่ดุเด็ดเผ็ดมัน และทำให้แฟน ๆ เฝ้ารอภาคต่อไปอยู่เสมอ แล้วเมื่อปี 2016 แฟน ๆ ก็ได้รับข่าวดี เมื่อ แมตต์ เดมอน ตกลงกลับมารับบท เจสัน บอร์น ใน ‘Jason Bourne’ สร้างความหวังให้แฟน ๆ ว่าจะได้ดูแฟรนไชส์นี้กันต่อไปอีกยาว ๆ แต่แล้วข่าวคราวภาคต่อก็เงียบหายไปจนป่านนี้ ยังไม่มี่วี่แววใด ๆ ว่าเราจะได้ดู Bourne 6 กันเลย อาจจะเป็นเพราะปัญหาเหล่านี้
ปัญหายืดเยื้อมาตั้งแต่ภาค The Bourne Ultimatum
แฟรนไชส์ Bourne ส่อแววมีปัญหามาตั้งแต่ภาค The Bourne Ultimatum ปี 2007 ในวันนี้ แมตต์ เดมอน ประกาศเลยว่าเขาไม่ชอบใจบทภาพยนตร์ภาคนี้อย่างมาก พอจบงานภาคนี้เขาก็โบมือลาจากแฟรนไชส์ไปเลย และนั่นคือสาเหตหลักที่ ‘Bourne Legacy’ ต้องทำหน้าที่ภาค 5 ของแฟรนไชส์ไปโดยไม่มีตัวละคร เจสัน บอร์น ของ แมตต์ เดมอน ถึงแม้ว่า เจเรมี เรนเนอร์ จะให้การแสดงที่น่าประทับใจ แต่ผลที่ออกมา หนังก็ได้รับเสียงตอบรับที่คละกันไปมีทั้งชอบและไม่ชอบ ตัวหนังก็ทำกำไรไปได้พอประมาณ จบที่ 276 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 125 ล้านเหรียญ
ภายหลังทางสตูดิโอผู้สร้างก็หาทางเจรจากับ พอล กรีนกราส (Paul Greengrass) ผู้กำกับ และ แมตต์ เดมอน ได้เป็นผลสำเร็จ ยอมกลับมาร่วมงานกันใน ‘Jason Bourne’ ในปี 2016 นับเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จทางด้านรายได้ หนังทำเงินไป 415 ล้านเหรียญ สูงเป็นอันดับ 2 ของแฟรนไชส์ เป็นรองแค่ภาค Bourne Ultimatum เท่านั้น ถึงแม้หนังจะประสบความสำเร็จ แต่กรีนกราสก็ยืนกรานว่าเขากลับมาทำบอร์นภาคนี้เป็นภาคสุดท้ายแล้ว ไม่สนใจที่จะกลับมาทำ Bourne 6
พอล กรีนกราส เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมไม่รู้นะว่าในอนาคตผมจะมาร่วมงานด้วยอีกไหม แต่ตอนนี้ผมก็ได้ทำหน้าที่ของผมเสร็จสิ้นแล้ว ใช่ไหมละ ?”
เมื่อกรีนกราสประกาศชัดเจนแบบนี้ โอกาสที่เราจะได้ดู Bourne 6 ก็เป็นเรื่องยาก แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเดียวที่เป็นอุปสรรคต่อความเป็นไปได้ของ Bourne 6
เมื่อไม่มี พอล กรีนกราส ก็ไม่มี แมตต์ เดมอน
แมตต์ เดมอน ก็คือ เจสัน บอร์น เพียงหนึ่งเดียว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสำเร็จของแฟรนไชส์ Jason Bourne ก็มาจาก แมตต์ เดมอน นั่นเอง เขาทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก จนทำให้ เจสัน บอร์น เป็นนักฆ่าที่เชียวชาญทั้งศิลปะการป้องกันตัว และเป็นนักฆ่าที่มีทักษะการเอาตัวรอดอย่างช่ำชอง แต่ปัญหาของบทภาพยนตร์ Bourne Ultimatum ก็ส่งผลให้ แมตต์ เดมอน เว้นช่วงจากการเป็น เจสัน บอร์น ไปยาวนานถึง 9 ปี นั่นจึงเป็นเรื่องยืนยันได้ว่า ทางผู้สร้างต้องยอมโอนอ่อนให้บทภาพยนตร์ Jason Bourne (2016) เป็นไปตามความพอใจของเดมอนเป็นหลัก ก็น่าสงสัยว่าการที่เดมอนยังไม่สนใจที่จะกลับใน Bourne 6 นั้นมีปัญหาเรื่องบทภาพยนตร์อีกหรือไม่
แมตต์ เดมอน รับบทเป็น เจสัน บอร์น มา 4 ครั้ง และ 3 ใน 4 ครั้งเป็นผลงานกำกับของ พอล กรีนกราส นั่นทำให้ทั้งคู่มีความผูกพันกันอย่างมาก และก็กลายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจของเดมอน ในการกลับมารับบท เจสัน บอร์น ในอนาคต แต่ในตอนนี้ เมื่อกรีนกราสประกาศชัดเจนว่าจะไม่กลับมากำกับหนังในแฟรนไชส์ Bourne อีกแล้ว นั่นก็เชื่อได้ว่า เดมอนเองก็ไม่สนใจที่จะกลับมาด้วยเช่นกัน แต่อย่างที่เราทราบกันดี คำว่า “เป็นไปไม่ได้” ไม่เคยมีในฮอลลีวูด โดยเฉพาะกับนักแสดงและผู้กำกับที่ใกล้ชิดกับโปรเจกต์ดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นแบบนี้ มันก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ ถ้าบทภาพยนตร์ออกมาดี และทางสตูดิโอยินยอมให้อำนาจในการสร้าง ก็น่าจะมีพลังพอที่จะโน้มน้าวให้ทั้งคู่กลับมาใน Bourne 6 ได้อยู่
ความนิยมในแฟรนไชส์ Jason Bourne ลดน้อยลง
อีกปัจจัยสำคัญที่ควรหยิบมาพิจารณาถึงอนาคตของ Bourne 6 ก็คือ ความกระหายใคร่ดูจากผู้ชมในวันนี้เหลือมากน้อยเพียงใด ย้อนไปพิจารณาถึงภาคล่าสุด Jason Bourne (2016) นั้นทำเงินไป 415.5 ล้านเหรียญ แต่หนังก็ได้รับเสียงตอบรับจากนักวิจารณ์และผู้ชมไม่ค่อยดีนัก หนังได้คะแนนบน Rottentomatoes จากฝั่งนักวิจารณ์ที่ 54% จากฝั่งคนดูที่ 55% เน่าทั้งสองฝั่ง มองย้อนไปภาคก่อนหน้า Bourne Legacy (2012) นั่นก็พอ ๆ กัน นักวิจารณ์ 55% คนดูอยู่ที่ 58% นี่ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชัดได้ว่า จากความสดใหม่ในภาคแรก แต่เมื่อผ่านไปแต่ละภาคคุณภาพก็ลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลา แล้วยิ่งนับถึงวันนี้ที่หนังเว้นช่วงไปยาวนานมาก ก็น่าจะส่งผลเสียกับแฟรนไชส์อย่างมาก
หนังบอร์น 3 ภาคแรกนั้น ออกมาไล่ ๆ กันในช่วงปี 2002 – 2007 จากนั้นก็เว้นช่วงไป 5 ปีเลย กว่าจะสร้าง Bourne Legacy ออกมา และ Jason Bourne ภาคล่าสุดออกมาในปี 2016 นับถึงวันนี้ก็ไม่มีหนังบอร์นออกมาเป็นเวลา 7 ปีไปแล้ว ยืนยันได้เลยว่าวันนี้ แฟรนไชส์บอร์นไม่มีความสดใหม่เหมือนในช่วงแรก ๆ อีกต่อไปแล้ว บวกกับเสียงตอบรับที่ไม่ดีนักในภาคหลัง ๆ ก็อาจจะเป็นการปิดฉากแฟรนไชส์ในเวอร์ชันของ พอล กรีนกราส และ แมตต์ เดมอน ไปโดยถาวรแล้วก็เป็นได้
ที่มา : screenrant boxofficemojo rottentomatoes