ก้าวแรกของ คาเมรอน ดิแอซ ในวงการบันเทิงนั้น เธอเริ่มต้นด้วยการเป็นนางแบบ และถ่ายโฆษณา ในวัย 21 ปี เริ่มต้นการแสดงเรื่องแรกใน The Mask (1994) ด้วยใบหน้าที่สวยมีเสน่ห์และอารมณ์ขัน บวกกับทรวดทรงสะดุดตาที่สูงถึง 175 ซม. ทำให้เธอเป็นที่จดจำของผู้ชมได้ในทันที ทำให้ดิแอซเป็นที่ต้องการตัวของฮอลลีวูดและมีงานแสดงต่อเนื่องทันที ตลอด 20 ปี ในวงการแสดง ดิแอซฝากผลงานน่าจดจำไว้มากมาย อย่างเช่น Something About Mary, Charlie’s Angles และ Vanilla Sky จนปี 2009 เธอได้รับเกียรติให้บันทึกรายชื่อลง Hollywood Walk of Fame
บางคนอาจจะไม่ได้สังเกตว่า คาเมรอน ดิแอซ (Cameron Diaz) อดีตนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูดนั้นหายหน้าหายตาไปจากวงการภาพยนตร์มาเกือบ 10 ปีแล้ว ในปี 2014 เธอทิ้งทวนผลงาน 3 เรื่องสุดท้ายคือ Annie, Sex Tape และ The Other Woman หลังโบกมือลาวงการแสดง ดิแอซก็ไปเข้าพิธีแต่งงานกับ เบนจี แมดเดน (Benji Madden) มือกีตาร์วง Good Charlotte เดือนธันวาคม 2019 ทั้งคู่ก็มีพยานรัก 1 คนเป็นลูกสาวที่ฝากหญิงอื่นอุ้มท้อง ชื่อว่า Raddix ซึ่งเธอก็ดูมีความสุขดีกับชีวิตครอบครัวในวัย 50 ปีของเธอ
แต่อะไรล่ะ คือสาเหตุที่ดิแอซตัดสินใจออกจากวงการฮอลลีวูด ทั้งที่เธอยังมีงานแสดงและงานพากย์แอนิเมชันอย่างต่อเนื่อง
ดิแอซเผยถึงเหตุผลในการหยุดรับงานแสดงกับ เควิน ฮาร์ต
ปี 2018 คาเมรอน ดิแอซ ได้เป็นแขกรับเชิญในรายการทอล์กโชว์ Hart to Heart ของ เควิน ฮาร์ต (Kevin Hart) นักแสดงคอมมีดี้ เธอเผยว่าเหตุที่เธอถอยออกมาจากวงการแสดงเพราะเธอเริ่มรู้สึกกังวลกับสุขภาพจิตของเธอ
“เมื่อคุณต้องทำงานอะไรสักอย่างในระดับสูงต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ ในด้านระบบการจัดการนั้น คาเมรอน ดิแอซ คือเครื่องจักรเครื่องหนึ่ง แต่โดยส่วนตัวฉันนั้น จิตวิญญาณของฉัน เริ่มรู้สึกว่าตัวฉันที่ทำหน้าที่นี้ในระดับสูงมายาวนานเริ่มจะไม่ไหวแล้ว”
ในระหว่างที่สนทนากับฮาร์ตนั้น ดิแอซก็ได้ย้อนเล่าถึงจุดเริ่มต้นของเธอบนเส้นทางการแสดงว่า
“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะ ฉันไม่พยายามที่จะแสดงอะไรด้วย ฉันรับแต่งานโฆษณา”
แต่แล้ว ชัก รัสเซล ผู้กำกับ The Mask ก็มาถูกใจในตัวเธอ และหว่านล้อมให้เธอรับบท ทินา คาร์ไลล์ ได้สำเร็จ งานนี้ดิแอซต้องซ้อมเต้นเพื่อบทนี้นานนับเดือน แล้วก็ต้องฝึกอ่านบท เธอต้องปรับตัวกับอาชีพใหม่อย่างรวดเร็วให้ได้ตามที่รัสเซลคาดหวังในตัวเธอ แล้วสุดท้ายเธอก็ทำได้สำเร็จ
หลากบทบาทของ คาเมรอน ดิแอซ
หลังจากแจ้งเกิดใน The Mask ก็มีโปรเจกต์ใหม่มาเสนอให้เธอมากมาย แต่ดิแอซก็พยายามเลือกงานใหม่อย่างพิถีพิถัน ในเรื่องนี้เธออธิบายกับ เควิน ฮาร์ต ว่า
“ฉันพิจารณาทุกอย่างเกี่ยวกับโปรเจกต์นั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเลย ฉันพิจารณาทุกอย่างด้วยความรอบคอบ”
อย่างที่เรารู้กันดีว่า จิม แครีย์ เป็นนักแสดงคอมมีดี้ที่โดดเด่นอย่างมาก กับการแสดงออกด้วยสีหน้าท่าทาง แต่ดิแอซก็สามารถประกบกับแครีย์ได้อย่างสง่างาม สามารธเฉิดฉายได้โดยไม่โดนการแสดงของแครีย์กลบ งานต่อ ๆ ไปของดิแอซหลังจาก The Mask ล้วนเป็นบันทึกในประวัติศาสตร์ของฮอลลีวูดทั้งสิ้น โดยเฉพาะบทนำใน There Something About Mary (1998) ที่ตอกย้ำความเป็นนักแสดงที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล และกล้าแสดงตลกได้โดยไม่ห่วงสวย และความเฮฮาเป็นกันเองของเธอนี่ล่ะ ที่เพื่อน ๆ นักแสดงร่วมรู้สึกสบายใจเมื่อได้ทำงานกับเธอ และนับว่า ‘There’s Something About Mary’ นี่ละเป็นผลงานที่โดดเด่นที่สุด ตลอดเส้นทางการแสดงกว่า 60 เรื่องของเธอ
จากนั้นเส้นทางการแสดงของดิแอซก็รุ่งโรจน์จนหยุดไม่อยู่ เธอได้รับบทบาทหลากหลายทั้ง แอ็กชัน คอมมีดี้ โรแมนติก พากย์เสียงแอนิเมชัน เรียกได้ว่าเธอครองฮอลลีวูดได้สำเร็จในช่วงต้นยุค 2000 และสามารถปรับตัวเองเข้ากับหลากหลายบทบาทได้เป็นอย่างดี ทั้งบทแม่บ้าน ใน The Other Woman ไปจนถึงเจ้าหญิงฟิโอนา ใน Shrek และสาวคนรักผู้น่ารักใน The Holiday ดิแอซพูดถึงหลักการที่เธอยึดมั่นว่า
“ถ้าคุณอยากจะมีผลกระทบต่อชีวิตผู้คน ตัวคุณต้องมีอิทธิพลเพียงพอ”
เจมี ฟอกซ์ คือผู้ที่สามารถดึงดิแอซกลับมารับงานแสดงได้สำเร็จ
หลังจากให้มีลูกมีลูกสาวตัวน้อยในปี 2019 ชีวิตของเธอก็ยุ่งวุ่นวายพอควร ทั้งการทำหน้าที่แม่ และดูแลกิจการไวน์ Avaline จนกระทั่ง เจมี ฟอกซ์ มาชักชวนให้เธอรื้อฟื้นทักษะการแสดงอีกครั้งในหนังแอ็กชัน-คอมมีดี้ เรื่อง ‘Back in Action’ซึ่งเธอจะรับบทนำคู่กับฟอกซ์เอง
เจมี ฟอกซ์ และ คาเมรอน ดิแอซ เคยร่วมงานกับมาแล้ว 2 ครั้งใน Annie และ Any Given Sunday จึงทำให้ทั้งคู่คุ้นเคยกันพอควร และทำให้ฟอกซ์กล้าที่จะไปเชิญชวนดิแอซให้กลับมาร่วมงานกันเป็นครั้งที่ 3
“ผมก็พูดไปตรง ๆ เลย คุณอยากสนุกด้วยกันไหม ? งั้นออกมาสนุกด้วยกันเหอะ !”
ฟอกซ์ให้สัมภาษณ์ถึงตอนที่ไปเอ่ยชวนดิแอซ
แฟน ๆ ที่คิดถึงเธอก็คอยรับชมเธอกันได้ น่าจะเป็นหนังสนุกอีกเรื่องที่เราน่าจะได้เห็นเคมีที่เข้ากันได้ดีของฟอกซ์กับดิแอซ ที่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ขัน เพราะจากผลงานที่ผ่านมาของเธอ ทำให้เราเชื่อได้ว่าเป็นทางที่เธอถนัด และเราจะได้เห็นดิแอซในมุมที่เราชอบและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
Back in Action ถ่ายทำกันในลอนดอนเมื่อปลายปี 2022 แล้วก็ย้ายกองมาถ่ายต่อที่แอตแลนตา เมื่อปลายปี 2022 ขณะนี้ปิดกล้องไปเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ หนังกำกับโดย เซธ กอร์ดอน ที่เคยกำกับ Baywatch และ Horrible Bosses หนังยังไม่เปิดข้อมูลใด ๆ และยังไม่กำหนดวันฉาย แต่ก็น่าจะสตรีมมิงให้ดูกันทาง Netflix ได้ภายในปี 2023 นี้ ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่า หนังจะประสบความสำเร็จ แล้วดิแอซอาจจะเปลี่ยนใจกลับมาเดินหน้าในเส้นทางนักแสดงอีกครั้ง
ที่มา : movieweb