นักแสดงฮอลลีวูด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักแสดงระดับแถวหน้าหรือนักแสดงหน้าใหม่ แต่เมื่อมีบทใหม่ที่น่าสนใจ ทุกคนก็ต้องส่งเทปออดิชันไปให้ผู้กำกับพิจารณาเหมือน ๆ กัน ว่าแต่ละคนดูเหมาะกับบทดังกล่าวหรือไม่ ถ้าเข้าตา ก็ได้เข้ารอบไปอ่านบท แสดงต่อหน้าผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างกันอีกรอบ แน่นอนว่าประเด็นสำคัญนั้นอยู่ที่การแสดงและเข้าถึงบทของตัวนักแสดงผู้นั้นเอง แต่บางครั้งเมื่อคุณได้ทีมงานมากฝีมือและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ก็มีส่วนช่วยอย่างมาก ในการดึงความสนใจของผู้กำกับต่อเทปออดิชันของคุณ อย่างเช่นกรณีของ จอช โบรลิน (Josh Brolin) อีกหนึ่งนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูดผู้นี้ ที่เขามีเทปออดิชันที่ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย
ย้อนไปในปี 2006 ขณะที่ จอช โบรลิน กำลังอยู่ในถองถ่าย Grindhouse โปรเจกต์ร่วมสร้างระหว่าง เควนติน ทารันติโน (Quentin Tarrantino)และ โรเบิร์ต โรดริเกซ (Robert Rodriguez) โบรลินก็ได้รับแจ้งจากเอเยนต์ของเขาว่า พี่น้องโคเอนต้องการให้โบรลินส่งเทปไปออดิชันบทใน No Country for Old Men หนังเรื่องใหม่ของเขา ทำให้โบรลินรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก อยากจะร่วมงานกับพี่น้องโคเอน แต่เขาก็รู้อีกว่า ถ้าจะดึงความสนใจของพี่น้องโคเอนได้ เทปออดิชันของเขาต้องสะดุดตา โบรลินจึงเข้าไปเจรจากับทารันติโนและโรดริเกซในช่วงพักกลางวัน ขอร้องทั้งคู่ว่ากรุณาปลีกเวลามาช่วยทำเทปออดิชันให้เขาหน่อยได้ไหม ทั้งคู่ตอบ “ตกลง”
“โรเบิร์ต โรดริเกซ และ เควนติน ทารันติโน ถ่ายเทปออดิชันให้ผมด้วยกล้อง Genesis มูลค่า 1 ล้านเหรียญ ในช่วงพักกลางวันจากกองถ่าย Grindhouse มันเป็นการทำเทปออดิชันที่ดูโคตรเท่ แต่กลายเป็นว่าผมไม่ได้รับบทนี้ พวกเขาบอกปฏิเสธ”
จอบ โบรลิน ย้อนเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น
ผลกลายเป็นว่า เทปออดิชันของโบรลินออกมาดูดีเกินไป พี่น้องโคเอนอยากรู้มากว่าใครเป็นทำให้ แต่พอโบรลินอธิบายไป พวกเขาก็ยังไม่ติดต่อโบรลินกลับมาอยู่ดี โบรลินเลยต้องไปตามด้วยตัวเอง
“พวกเขาดูเทปแล้วก็ถามว่า “ใครถ่ายเทปนี้ให้” ในเทปนั้นผมดูตัวใหญ่มาก แล้วก็มีเคราแพะด้วย แต่อะไรพวกนี้ก็ไม่ใช่ประเด็นหรอก พวกเขาไม่ได้สนใจอะไรจุดนี้ แต่กลายเป็นว่า ตัวผมไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ ไม่โดนใจพวกเขา แต่ยังโชคดีที่ผมมีเอเยนต์ที่ยอดเยี่ยมมาก ที่ไปตื๊อพี่น้องโคเอนว่า ‘พบเขาหน่อย พบเขาหน่อย พบเขาหน่อย พบเขาหน่อยเหอะ เขาอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่สมบูรณ์สำหรับบทนี้ คุณไม่ได้พลาดอะไรหรอก ขอแค่ลองดูเขาแค่นั้น’ แล้วตอนที่ผมไปนั้น เขากำลังแคสติงเป็นรอบสุดท้ายแล้ว พวกเขากำลังสนใจนักแสดงชายคู่หนึ่งอยู่ พวกเขาโทรหาผมเมื่อคืนก่อน แล้วพวกเขาก็บอกว่า ‘ถ้าไมได้ก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เรียกเขาเข้ามา แล้วปล่อยให้พวกเราอยู่กันตามลำพัง’ ผมเองก็อ่านบทมาบ้างแล้ว ผมก็เข้าไปแสดงให้พวกเขาดู ในรอบนั้นเขาไม่แสดงอาการตอบรับอะไรเลย พอเสร็จผมก็เดินออกมา ปลอบใจตัวเองว่า เอาน่าได้พบกับพี่น้องโคเอนผู้ยิ่งใหญ่ เพราะผมก็เป็นแฟนตัวยงของเขา แค่นั้นก็ดีแล้ว แต่พอผมกลับมาถึงบ้าน ผมก็ได้รับคำตอบว่า พวกเขาเลือกผม”
กลายเป็นว่า เทปออดิชันที่เลิศหรูนั้น ทำให้การออดิชันของโบรลินโดนเด้งออกไปอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ข้อดีก็คือมันสร้างความสนใจให้พี่น้องโคเอนได้ แล้วโบรลินก็คว้าบทที่เขาต้องการได้จริง ๆ แล้วตั้งแต่นั้นโบรลินก็กลายเป็นนักแสดงขาประจำของพี่น้องโคเอนไปเลย หลังจาก No Country for Old Men (2007) ก็ตามต่อด้วย True Grit (2010) และ Hail, Caesar! (2016)
ที่มา : nofilmschool