ฉากจบของ ‘John Wick: Chapter 4’ ค่อนข้างเป็นฉากปิดที่สะเทือนจิตใจผู้ชม เมื่อได้เห็นบทสุดท้ายของตัวละครนำอย่าง จอห์น วิค ซึ่งเป็นตัวละครที่ถูกวางภาพลักษณ์มาให้ดูเป็นฮีโรที่อัดแน่นไปด้วยพลัง แข็งแกร่ง ไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ แต่แล้วหนังภาค 4 ก็ปิดฉากด้วยภาพหลุมศพของ จอห์น วิค แฟน ๆ บางคนยังไม่ค่อยเชื่อว่านี่คือจุดจบของ จอห์น วิค จริง ๆ และเชื่อมั่นว่าเมื่อหนังภาคที่ 5 มาถึง เรื่องราวก็จะถูกเปิดเผยว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ ตราบใดที่ยังไม่มีใครเห็นร่างที่ไร้ลมหายใจของ จอห์น วิค ก็ยังถือว่านี่เป็นฉากจบที่คลุมเครือ และเปิดโอกาสให้ จอห์น วิค ยังคงกลับมาได้เสมอ
ผู้กำกับ แชด สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) เผยในระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Empire ว่า เขาได้ถ่ายทำฉากจบไว้อีกแบบหนึ่งจริง และเป็นฉากที่แตกต่างจากที่ได้ดูกันไปอย่างสิ้นเชิง เป็นตอนจบที่ชัดเจนไม่คลุมเครือเลย คนดูได้เห็น จอห์น วิค ยังมีชีวิตอยู่ในตอนท้ายกันแบบชัด ๆ แต่แล้วเมื่อผู้ชมในรอบทดสอบได้ดูฉากจบทั้งสองแบบแล้ว ดูเหมือนผู้ชมจะชอบตอนจบในแบบกำกวม ดังนั้นผู้กำกับก็เลยเลือกตอนจบแบบที่เราได้ดูกันไป
“เรามีตอนจบอีกแบบที่แตกต่างกัน ตอนจบแบบที่ได้ดูกันในโรงภาพยนตร์นั้นเป็นตอนจบที่คีอานูกับผมพอใจกัน แต่เราก็ได้ถ่ายตอนจบอีกแบบกันไว้ด้วย เป็นฉากจบแบบที่คุณได้เห็น จอห์น วิค ในตอนท้ายเรื่อง ซึ่งมันแสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แต่ผู้ชมในรอบทดสอบชอบตอนจบแบบที่คลุมเครือนี่มากกว่า”
สตาเฮลสกีอธิบายต่อว่า แรงจูงใจอย่างหนึ่งที่เขาทำตอนจบของ ‘John Wick: Chapter 4’ ให้ออกมาช็อกคนดูเช่นนี้ เพราะเขาอยากทำฉากสะเทือนใจแรง ๆ แบบนี้ตั้งแต่ ‘John Wick: Chapter 3 – Parabellum’ แต่ในภาคก่อนนั้นมันยังจบได้ไม่แรงพอ บวกกับเหตุที่ว่าทั้งผู้กำกับและรีฟส์ต่างก็มีความเคารพรักในตัวละคร จอห์น วิค และแฟรนไชส์เรื่องนี้ ก็เลยอยากจะให้หนังจบด้วยบทสรุปที่เข้มข้นมากขึ้น ถ้าเผื่อว่า ภาค 4 นี่คือการปิดฉากของแฟรนไชส์แล้วจริง ๆ
“ตอนจบภาค 3 เรารู้สึกว่าเรายังไม่ได้ทำให้ดีที่สุด ทั้งผมและคีอานูรู้สึกว่าเราน่าจะทำฉากจบซีรีส์เรื่องนี้ได้ดีกว่านี้อีก เรารู้สึกว่ายังปิดฉากได้ไม่สมบูรณ์แบบนัก ซึ่งมันก็เป็นความรู้สึกแย่ ๆ ที่ติดค้างอยู่นะ เพราะว่าเรารักตัวละครนี้ เรารักที่ได้ทำงานร่วมกัน เรารักโลกของ จอห์น วิค”
สตาเฮลสกีเล่าถึงแรงจูงใจที่สร้างฉากจบให้กับ ‘John Wick: Chapter 4’
“ผมเพิ่งได้อ่านบทความเกี่ยวกับมารยาทของเหล่าซามูไรที่เรียกว่า ‘Hagakure’ เป็นศิลปะแห่งวิธีการตาย แล้วเราก็มานึกต่อถึง จอห์น วิค ว่า ถ้าหากต้องเขียนให้เขาตาย ก็ต้องให้เขาตายแบบที่เท่ที่สุด นั่นคือทั้งหมดทั้งหลายที่เราต้องทำ ‘คุณจะพบกับความตายที่ดีได้ก็ต่อเมื่อคุณมีชีวิตที่ดีพอ’ นี่คือประโยคที่ผมจดโน้ตไว้บนกระดาษเช็ดปากเมื่อตอนที่อยู่ในญี่ปุ่นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พอผมมาเขียนบทภาพยนตร์ผมก็เลยเขียนถึงเรื่องนี้ด้วย”
เมื่อการตายของ จอห์น วิค บนหน้าจอออกมาคลุมเครือแบบนี้ ก็เลยเป็นได้ทั้งสองอย่าง ทั้งแบบว่านี่คือจุดจบของแฟรนไชส์แล้วจริง ๆ หรืออาจจะสานต่อไปได้อีก แต่ดูเหมือนว่าจะออกมาอย่างหลังซะแล้ว เมื่อสตาเฮลสกีเผยว่า เขายังคงยินดีที่จะให้แฟรนไชส์เดินหน้าต่อไป แต่เขาก็ยังรออยู่ก่อนเพื่อจะหาไอเดียเจ๋ง ๆ ที่ควรค่าพอสำหรับหนังภาคที่ 5
“ตอนนี้เราจบภาคที่ 4 ไปแล้ว ก็ถือว่าเราได้ทำเรื่องราวให้ครบจบสมบูรณ์ ถ้าพูดตามตรงอ่ะนะ ผมว่ามันเป็นการจบซีรีส์ได้สวยงามแล้ว แต่แล้วก็มีตัวผมอีกคน หรือผู้กำกับตัวจริงที่ซ่อนอยู่ในตัวผมบอกกับผมว่า ‘ช่างแม่งสิ มาลองดูกันซิว่าเราจะทำได้มั้ย’ มันเป็นงานที่ท้าทายมาก แม้ว่าผมจะยังไม่ตั้งคำถามว่า ‘ทำไปทำไม’ ให้กับตัวเอง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะหยุดเดินหน้าเช่นกัน”
ที่มา : movieweb