‘From the Land of the Moon’ ภาพยนตร์ปิดโปรเจ็กต์ The Little Big Films Project 11 ล็อตหนังที่ใช้ ‘ใจ’ เป็นแก่นการเดินเรื่อง ความไม่ธรรมดากับดีกรีเข้าชิงรางวัลปาล์มทองคำและชื่อของ มาริยง โกติยาร์ ที่ส่วนตัวติดใจกับงานเก่าของเธอใน Inception (2013) ก็เป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจที่ทำให้ตัวหนังน่าสนใจ เมื่อจินตนาการกับบทตัวละครหญิงสาว ‘กาเบรียล’ ที่ ‘บูชา’ ความรักอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็ยิ่งอยากรู้ว่า นิโคล การ์เซีย ผู้กำกับจะ ‘เล่า’ อย่างไรให้มันไม่ ‘เฝือ’ ไปจากหนังแนวนี้ตามท้องตลาดที่ทำออกมาทุกปี
From the Land to the Moon เป็นเรื่องราวของ ‘กาเบรียล’ (มาริยง โกติยาร์) สาวชาวไร่หน้าตาสะสวยที่มาจากหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสซึ่งมองหา ‘ความรัก’ ของตัวเองอย่างไม่ลดละ แม้ว่าจะต้องพบกับความผิดหวังมาตลอด ความรู้สึกถวิลหาคู่ของเธอมากล้นในระดับที่คนในครอบครัวมองว่าเธอ ‘ไม่ปกติ’ จนในที่สุด กาเบรียล ก็ถูกคลุมถุงชนให้แต่งงานกับ โฆเซ่ (อเล็กซ์ เบรนเดอมึล) ผู้ชายที่เธอไม่ได้รัก จนอยู่กินกันนานนับสิบปี จนกระทั่งเธอป่วยหนักจนต้องเข้ารับรักษาโรคนิ่วในไตในคลีนิกแห่งหนึ่ง และที่นั่นทำให้เธอได้พบกับ อองเดร (หลุยส์ การ์เรล) ทหารผ่านศึกที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจมาจากสงครามอินโดจีน กาเบรียลตัดสินใจว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดพ้นจากโซ่ตรวน ไปเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองกับชายที่เธอปรารถนา
หนังเดินไปด้วยการฉายมุมมองของ กาเบรียล ที่มีต่อเหตุการณ์และความรู้สึกนึกคิดต่อผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอเป็นหลัก พฤติกรรมที่ดูแปลกประหลาดคล้ายคนมีอาการทางประสาท ทำให้คาดเดาไม่ถูกว่าเธออาจจะทำร้ายตัวเองในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าหรือไม่ และแม้แคแร็คเตอร์ของเธอจะดูจริงจังแบบน่ากลัวนิดๆ แต่ขณะเดียวกันหนังก็ให้เราสัมผัสกับความเซ็กซี่ของเธอที่มาในลักษณะ ‘คุกคาม’ ตามแบบฉบับของนางแพศยาที่ต้องการ ‘เอาชนะ’ ให้ได้อยู่ในทีอีกด้วย ซึ่งเป็นที่มาของฉากเปลื้องผ้าเห็นกันยันไส้ติ่งที่ตัดสลับกันมาเป็นระยะไม่ขาดสาย และต้องบอกเลยว่า มาริยง โกติยาร์ เป็นอีกหนึ่งนักแสดงตัวแม่ที่ ‘เอาอยู่’ หายห่วง ขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ไปได้เองตลอดรอดฝั่ง
ในเคสของหนังประเภทพล็อตคลุมถุงชน แน่นอนว่า From the Land of the Moon ไม่ได้เดินเส้นเรื่องไปในถนนสายเดียวกับละครไทยอย่าง อุ้มรัก หรือ มงกุฏดอกส้ม รวมทั้งซีรีส์เกาหลีหลายเรื่องที่มักยึดคอนเซ็ปต์ ‘เกลียดอะไรได้อย่างนั้น’ มันอาจจะมีมุมที่ ‘เรยา’ และ ‘กาเบรียล’ คล้ายกันคือมีปมบางอย่างในใจเหมือนกันและแสดงออกชัดเจนว่าถ้าตัวเองมีโอกาสก็อยากฉวยคว้าโอกาสนั้นไว้ แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ เรยา หรือ แคทเทอรีน แทรมเมล ใน Basic Instinct (1999) นั้นจะเป็นผู้หญิงอันตรายที่ใช้เสน่ห์มารยาและมีสมองที่อาจทำร้ายคนอื่นถึงตาย แตกต่างกับ กาเบรียล ที่เธอตั้งธงไว้ซับซ้อนน้อยกว่า เธอเพียงต้องการรักใครสักคนที่เธอรักจริงๆ และหากเธอผิดหวังเธอจะหันมาทำร้ายตัวเองมากกว่า (ซึ่งมันก็อันตรายอยู่ดี-ฮา)
เกือบตลอดทั้งเรื่องตัวหนังทำการเสก โฆเซ่ สามีของเธอให้กลายเป็นผู้ชายซื่อๆ จืดๆ โคตรธรรมดา ที่ทำหน้าที่สามีของตัวเองไปในแต่ละวัน และวาดภาพของอองเดร ให้เป็นผู้ชายในมายาคติของ กาเบรียล ที่ยอมทำตัวเป็นผู้หญิงเทาๆ รวมทั้งการใช้เสน่ห์ยั่วยวนจากเรือนร่างเพื่อแลกกับความรักทุกรูปแบบที่เธอรู้สึก ‘ขาด’ มาเป็น message หลัก ซึ่งแบบเบ้าแคแร็คเตอร์ที่มีกลิ่นหนัง Femme Fatale นี้ ในหนังแต่ละเรื่องจะมากหรือน้อยก็ต้องบอกว่าเป็นพิมพ์เขียวที่ถูกจัดเป็นความคลาสสิกไปแล้ว ประมาณว่าทำออกมากี่เรื่องก็ไม่ล้าสมัย
แม้ในช่วงแรก ‘From the Land of the Moon’ จะเนือยอยู่บ้าง แต่มันก็คุ้มค่ากับการพยายามสร้างการรับรู้ให้คนดูเข้าสู่ภวังค์ทีละน้อยๆ ก่อนจะหักมุมและเฉลยปมหลายๆ เรื่องที่หนังได้ผูกไว้อย่างลงตัว ประกอบกับเทคนิคการลำดับภาพที่ทำได้ดี เล่าเรื่องได้มีมิติ หากไม่สังเกตเลยก็ไม่รู้ว่าหนังได้ทิ้งปมให้คนดูขบคิดไว้รายทางอยู่แล้ว ซึ่งการนำความฝัน มายาคติ มาบดขยี้แล้วเฉลยในมุมที่คนดูคาดไม่ถึง หรือจะเป็นการเล่นกับอาการคล้ายคนประสาทที่แยกภาพจริงกับจินตนาการไม่ออกของหญิงสาว กลับกลายเป็นความโรแมนติกบนคราบน้ำตาที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
From the Land of the Moon เข้าฉายในบ้านเราวันที่ 27 ตุลาคมนี้ครับ