Before the Flood คือหนังสารคดีความยาว 96 นาที แต่ต้องใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 3 ปี และที่สำคัญมันคือหนังที่ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ทุ่มเทชีวิตจิตใจเพื่อบอกเล่าประเด็นสำคัญของสิ่งแวดล้อมโลกที่กำลังดิ่งลงเหวนี้ให้ผู้คนรับรู้
เขาจึงไม่เพียงเป็นโปรดิวเซอร์ให้หนึ่งในผู้กำกับ กับมือเขียนบทรางวัลออสการ์จากสารคดีเรื่อง The Cove (2009) อย่าง ฟิชเชอร์ สตีเฟ่นส์ และ มาร์ก มอนโร มาสร้างหนังเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้นำกล้องไปพบกับสถานการณ์ต่างๆทั่วโลก รวมถึงการพบปะพูดคุยกับบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง ทั้ง
- อีลอน มัสก์ ที่กำลังดังสุดๆกับโครงการเปลี่ยนโลกด้วยรถไฟฟ้า เทสล่ามอเตอร์ส พลังงานแสงอาทิตย์ โซลาร์ซิตี้ และการบุกเบิกอวกาศกับ สเปซเอ็กซ์
- โป๊ป ฟรานซิส สมเด็จพระสันตะปาปาผู้นำคริสตจักร
- บัน คี-มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
- และเหล่านักการเมืองคนสำคัญของสหรัฐทั้งอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน
- อดีตผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จอห์น เคร์รีย์
- ประธานาธิบดี โอบาม่า
- รวมถึงโปรดิวเซอร์และผู้ช่วยผู้กำกับหนังดังหลายเรื่องอย่าง สก็อตต์ โรเบิร์ตสัน ที่กำลังง่วนกับการหาสถานที่ถ่ายทำใหม่ในกอง The Revenant (2015) ที่ลีโอนาร์โดแสดงนำ เนื่องด้วยสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้ต้องขึ้นเหนือไปเกือบขั้วโลกเพื่อให้ได้ฉากหิมะตามท้องเรื่อง
จริงๆ คนระดับลีโอนาร์โดไม่ได้มีความจำเป็นเลยที่จะต้องลงแรงในทุกส่วนของหนัง เขาจะนั่งโปรดิวซ์อย่างเดียวก็ได้ไม่ต้องไปตรากตรำกับกองถ่ายถึง 3 ปี แต่ในหนังเรื่องนี้เรียกได้ว่าเขาปรากฏตัวแทบทุกซีนของมัน ซึ่งแสดงถึงความตั้งใจและทุ่มเทต่อหนังเรื่องนี้จริงๆ
หนังเรื่องนี้นับว่าเป็น An Inconvenient Truth (2006) ฉบับที่ดูง่ายกว่า เพราะมันเป็นหนังที่มีคนดังเป็นผู้ดำเนินเรื่องหลักเหมือนกัน ต่างกันที่ อัล กอร์ เลือกเป็นผู้บรรยายกับกราฟฟิกมหาศาล แต่ลีโอนาร์โดเลือกออกเดินทางไปยังสถานที่จริง พูดคุยกับคนจริงๆ ทำให้เราได้รับแง่มุมต่างๆอย่างถ่องแท้และเข้าใจได้ง่ายกว่านั่นเอง ซึ่งความคล้ายกันอีกอย่างคือการนำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ต่างๆที่เข้มข้น เรียกว่าเป็นหนังที่อัพเดทสถานการณ์ในอีก 10 ปีต่อมาจากหนังของ อัล กอร์ ก็ว่าได้
หนังมาพร้อมแท็กไลน์ที่ว่า The Science is Clear. The Future is Not. ซึ่งมุ่งหมายที่จะทำลายทฤษฎีค้านต่างๆในโลกออนไลน์ที่ว่าโลกร้อนเป็นเพียงทฤษฎีสมคบคิดหนึ่งเท่านั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง โดยการพิสูจน์ให้เห็นว่าในวงการวิทยาศาสตร์นั้นมีบทสรุปชัดเจนแล้วว่าโลกร้อนเกิดขึ้นจริง และการนำพาไปยังสถานที่ต่างๆทั่วโลกก็ยืนยันชัดว่าพวกนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้คิดเองเออเองแต่อย่างใด หนังยังมาพร้อมการถ่ายภาพที่สวยงามมากๆทั้งจากบนฟากฟ้าและจากสถานที่จริงๆต่างๆทั้งในที่ประชุม UN ไปจนถึงขั่วโลก และประเทศต่างๆไม่ว่าจะ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เป็นต้น
หนังจบลงด้วยการกลับมาแถลงผลการไปดูสถานการณ์จริงต่างๆของลีโอนาร์โดต่อสหประชาชาติ ถ้อยแถลงของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วงต่อภาวะปัจจุบันของโลก และชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือกันกอบกู้โลกของเรา ซึ่งเป็นบทสรุปทั้งหมดทั้งมวลที่หนังเรื่องนี้ได้นำเสนอมาตลอด
Before the Flood จึงหมายถึงช่วงเวลาก่อนน้ำท่วมโลก อันเกิดจากผลของภาวะโลกร้อน เหมือนจะทิ้งคำถามว่า ก่อนน้ำจะท่วมโลก เราจะทำอะไรได้มั้ย?
ตอนนี้หนังเรื่องนี้ได้เปิดฉายฉบับเต็มให้ชมกันฟรีๆทางแชนนอลยูทูบของ National Geographic แล้วครับ ใครสนใจเก่งฟังอังกฤษพอประมาณก็เชิญชมได้เลย