สารภาพตรงๆ ว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นทีเซอร์หนังเรื่องนี้ที่ตัดออกมาแล้วส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ มาก เพราะปกติหนังอีโรติกขายเซ็กซ์แบบนี้มักจะต้องเน้นไปที่นักแสดงหุ่นเซี้ยะ ทรงโตไว้ก่อน หรือไม่ก็มีโทนสดใสจิ้มลิ้มให้อยากลิ้มลอง (อยากดูหนัง) หรือเกิดความรู้สึกอยากค้นหาบ้าง ซึ่ง In The Room หรือนชื่อภาษาไทยว่า ‘ส่องห้องรัก’ อาจทำใครหลายคนเลือกเมินได้ง่ายๆ ถ้าตัดสินแค่เพียงทีเซอร์

จริงๆ In The Room เป็นหนังที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวตั้งแต่ก่อนฉายแล้ว เมื่อมันถูกแบนห้ามฉายในสิงคโปร์จากซีนวาบหวามอล่างฉล่างจนผู้กำกับเมืองลอดช่องอย่าง เอริก คู ต้องตัดหลายฉากออกไปเพื่อให้หนังเรื่องนี้ยังสามารถเข้าฉายในเรต R21 ได้ (โรงบ้านเราก็ ฉ20+) ซึ่งแน่นอนว่าหากใครไปดูเรื่องนี้ก็จะมีการตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้าโรงฯ ด้วย

12615716_976368765732417_5018450064336981048_o

In The Room มันเป็นหนังคัลท์ที่เล่า ‘เรื่องราว’ ที่เกิดขึ้นภายในห้องหมายเลข 27 ของโรงแรม (สมมติ) แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Hotel Singapura ซึ่งตัวหนังเล่าเรื่องของชายหญิงหลากหลายคู่ หลายเชื้อชาติ ที่มาใช้บริการในห้องนี้ ไล่ไปตั้งแต่ อังกฤษ, ญี่ปุ่น, ไทย, เกาหลี, ฮ่องกง และสิงคโปร์ โดยตัวเรื่องเน้นไปที่การตามหาความหมายของ ‘เซ็กส์’ ล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นเจือปน หากเปรียบง่ายๆ ว่า ‘เซ็กส์’ เป็นกล่องสี่เหลี่ยมกล่องหนึ่ง ผู้กำกับก็ทำหน้าที่พลิกทุกมุมทุกด้านของกล่องให้คนดูเห็นก่อนจะไปเสพ ไปตีความหนังกันต่อเอง ผ่านเหตุการณ์ของคู่หนุ่มสาวแต่ละคู่ที่มาพักในห้องนี้ตั้งแต่ยุค 40 จนถึงปัจจุบัน สะท้อนปัญหาที่คำว่า ‘เซ็กส์’ มีความหมายหรือส่งผลกระทบกับชีวิตของคนแต่ละคู่ที่หลากหลายตามรูปแบบของความรักที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น One Night Stand ปาร์ตี้เสพยามั่วเซ็กส์ในแบบของนักดนตรีในยุคฮิปปี้, คู่เกย์, หญิงสาวที่นอกใจสามีมาเปิดห้องคบชู้, ความสัมพันธ์ของชายหนุ่มที่มีแฟนเป็นกระเทย หรือจะในรูปแบบของเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ซึ่งจะว่าไปมันอาจตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคนดูลึกๆ เหมือนกันโดยเฉพาะความสัมพันธ์กึ่งๆ รักต้องห้าม และหนังเรื่องนี้ก็เหมือนพูดแทนสิ่งที่หลายคนอาจจะเก็บไว้ในใจอยู่แล้ว

12628403_972893736079920_1774650679235574910_o

กลิ่นอายของ In The Room นั้นมีโทนที่ผสมผสานหนังแบบฟิล์มนัวร์ เข้ากับความเป็น feminism แบบ surreal เจือปนอารมณ์เหมือนเปิดหนังสือไทยเพลย์บอยของคุณอากังฟู คือเซ็กซ์แบบดิบๆ บ้านๆ ตัวละครเทาๆ ซึ่งแน่นอนว่าใครที่อยากดูฉากอิโรติคก็เห็นกันยันไส้ติ่ง แถมบุคลิกหน้าตาของนักแสดงชุดนี้แคสมาก็ถือว่าไหลลื่น โดยเฉพาะนักแสดงหญิงซึ่งแต่ละนางนั้นเพียงเห็นแววตาก็ต้องบอกว่ามีเสน่ห์แบบร้ายลึกอยู่แล้ว เรียกว่าพร้อมจะทำเรื่องผิดศีลธรรม (ฮา) ไม่ว่าจะเป็น โจซี โฮ หรือ โช นิชิโนะ นักแสดง AV ที่เคยฝากผลงานในหนังอีโรติกอย่าง จันดารา มาแล้ว มาในเรื่องนี้ก็ ‘เล่นถึง’ ผ่านฉลุย ซึ่งก็อาจจะบอกว่าเป็นบท ‘ขนมกรุบ’ ของพวกหล่อนอยู่แล้วก็ได้

maxresdefault

ภาพรวมของหนังเรื่องนี้จัดว่าไม่ขี้เหร่เลยทีเดียว โดยเฉพาะเทคนิคการเล่าที่สอดแทรกมุขตลกแบบ dirty joke ก็ทำได้ไหลลื่นมาก เรียกว่าถ้าถึงซีนฮาเมื่อไหร่ก็ฮาลั่นโรงกันเลย และหากใครคิดว่าจะได้เห็นตัวละครเกิดผิดหวังชอกช้ำต้องประชดตัวเองเหมือนพวกซีรีส์เมโลดรามาแบบบ้านทรายทองก็ลืมไปได้เลย เพราะหนังมันเล่นกับความคิด ความเพ้อฝัน ภาพในจินตนาการของตัวละครที่เปรียบเสมือนเป็นกระจกสะท้อนจิตใจก้นบึ้งลึกๆ ของมนุษย์ขี้เหม็นอย่างเราๆ นี่แหละ เส้นบางๆ ที่อยู่ระหว่างความดีความถูกต้องที่สังคม ‘กำหนด’ กับความอยากลองอยากสนองตัณหาของสัญชาตญาณดิบ แท้จริงแล้วมันอาจเป็นสิ่งที่คนเราสมมติขึ้นมาเอง

In The Room ไม่ใช่หนังที่สอนใจ หรือจัดระเบียบชี้นิ้วให้ใครต้องคิดแบบไหน แต่มันเป็นหนังที่เราดูแล้วก็จะมองความหมายของ เซ็กส์ ด้วยมุมที่หลากหลายขึ้น สงบนิ่ง เข้าใจมากขึ้นว่า คนเราทุกคนล้วนมีปัญหา มีความทุกข์ มีความปรารถนา ที่ไม่อยากเอ่ยคำออกมาด้วยกันทั้งนั้น

สำหรับ In The Room มีกำหนดเข้าฉายบ้านเรา 10 พฤศจิกายนนี้ครับ

Play video