แม้ว่าตัวหนังจะเข้าฉายและสร้างกระแสไวรัล รวมทั้งยังกลายเป็นปรากฏการณ์ภาพยนตร์แห่งปี 2023 ด้วยตัวเลขรายได้ 1,446 ล้านเหรียญมาแล้ว และเพิ่งจะคว้ารางวัลรางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบดั้งเดิมยอดเยี่ยม จากบทเพลง “What Was I Made For ? “ แต่ หนังไลฟ์แอ็กชันดัดแปลงจากของเล่นผู้หญิงสุดคลาสสิกอย่าง ‘Barbie’ (2023) ก็ยังคงเป็นที่พูดถึงอย่างไม่หยุดหย่อนมาจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะประเด็นเข้ม ๆ ที่แฝงเอาไว้ในหนังตลกแฟนตาซีสีชมพูเรื่องนี้ ที่ยังคงเอามาถกเถียงกันไม่รู้จบ
1 ในคนล่าสุดที่พูดถึงหนังเรื่องนี้ก็คือ ชากีรา (Shakira) ศิลปินระดับโลกชาวโคลอมเบียวัย 47 ปี ที่ได้พูดถึงมุมมองอีกด้านของหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะมุมมองด้านการสำรวจเรื่องราวที่เกี่ยวกับความเป็นสตรีนิยม (Feminism) และปิตาธิปไตย (Patriarchy) หรือมุมมอง รวมทั้งความเจ็บปวดของตัวผู้ชายเองที่เกิดขึ้นจากอำนาจชายเป็นใหญ่ ที่ผลักให้ต้องใฝ่หาอำนาจ และกดขี่เพศตรงข้าม หรือแม้แต่ผู้ชายด้วยกันเองที่ขาดความเป็นลูกผู้ชาย
ในการสัมภาษณ์ล่าสุดกับนิตยสาร Allure เธอได้เผยมุมมองจากอีกด้านที่หนังเรื่องนี้ได้สะท้อนเอาไว้ โดยยกความรู้สึกของ มิลาน (Milan) ลูกชายคนโตวัย 11 ขวบ และ ซาชา (Sasha) วัย 9 ขวบ ที่ได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งคนเป็นแม่อย่างชากีราได้เปิดเผยว่า ลูก ๆ ของเธอดูจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกับคนอื่น ๆ เพราะมันเป็นวัฒนธรรมป๊อปที่พยายามจะปล้น ‘ความเป็นชายในแบบที่ผู้ชายควรจะเป็น’ ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยส่วนหนึ่ง
“ฉันได้ดูแล้วล่ะ และลูกชายของฉันเกลียดมันมากเลยค่ะ พวกเขารู้สึกว่ามันทำให้ผู้ชายดูอ่อนแอ และฉันเองก็เห็นด้วยในระดับหนึ่ง ฉันกำลังเลี้ยงลูกชาย 2 คน และฉันเองก็อยากทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองมีพลัง ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความเคารพต่อผู้หญิงด้วย ฉันชอบวัฒนธรรมป๊อปที่พยายามเพิ่มขีดความสามารถของผู้หญิง โดยที่ไม่ไปปล้นความเป็นชายของผู้ชาย ที่ต้องทำหน้าที่ปกป้องและคอยเอื้อเฟื้อ”
“ฉันเชื่อในการมอบเครื่องมือทุกอย่างให้กับผู้หญิง และความไว้วางใจว่า เราจะสามารถทำได้ทุกอย่างโดยที่ไม่สูญเสียแก่นแท้ และไม่สูญเสียความเป็นหญิงของเราไป ฉันคิดว่า ผู้ชายเองก็มีความสำคัญในสังคม และผู้หญิงก็มีความสำคัญในอีกทางหนึ่งเหมือนกัน เราต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน และไม่ควรมีส่วนเสริมใด ๆ ที่หายไป แล้วทำไมเราเลือกที่จะไม่แบ่งภาระให้คนที่มีหน้าที่และสมควรจะแบกมันด้วยล่ะ”
ชากีราไม่ใช่คนแรกที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แก่นเรื่องราวของ ‘Barbie’ ก่อนหน้านี้มีบุคคลสาธารณะที่ได้ชม และต่างก็สร้างความตื่นตะลึงให้กับบรรดาผู้คนที่มีมุมมองอนุรักษ์นิยมหลายคน บางคนบอกว่า ‘Barbie’ คือโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสตรีนิยมที่ต่อต้านผู้ชาย และเป็นหนังสตรีนิยมที่ก้าวร้าวที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในขณะที่ บิล มาห์ (Bill Maher) พิธีกรรายการทอล์กโชว์การเมืองชื่อดัง ที่ออกมาวิพากย์ตัวหนังว่าเต็มไปด้วยการเทศนา สร้างมุมมองการเกลียดผู้ชาย และวิจารณ์การเสียดสีปิตาธิปไตย ผ่านตัวละครบอร์ดบริหารของบริษัท Mattel 12 คนที่เป็นชายล้วน
เกอร์วิก ผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “Barbie” ร่วมกับโนอาห์ บอมบาค กล่าวถึงปฏิกิริยาโต้ตอบในการให้สัมภาษณ์กับ เดอะนิวยอร์กไทมส์ซึ่งเธอบอกว่าเธอไม่เคยคาดหวังคำตอบเช่นนี้
“แน่นอนว่ามีความหลงใหลมากมาย” ผู้สร้างภาพยนตร์กล่าวเสริม “ความหวังของฉันสำหรับหนังเรื่องนี้คือการเชิญชวนให้ทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งของงานปาร์ตี้และละทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับเราในฐานะผู้หญิงหรือผู้ชาย ฉันหวังว่าในความหลงใหลทั้งหมดนั้น หากพวกเขาเห็นหรือมีส่วนร่วมกับมัน มันสามารถทำให้พวกเขาโล่งใจได้บ้างที่มันมอบให้กับคนอื่นๆ”
เกรตา เกอร์วิก (Greta Gerwig) ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ และผู้เขียนบทร่วมกับสามีของเธอ โนอาห์ บัมบาค (Noah Baumbach) ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ได้พูดถึงการวิพากษ์วิจารณ์ตัวหนังของเธอในบทสัมภาษณ์ของ The New York Times ว่าเธอเองไม่ได้คาดหวังให้ฝ่ายขวา หรือคนที่วิพากษ์วิจารณ์ความ Woke ของหนังเรื่องนี้ แต่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้และเห็นต่างได้อย่างเข้าใจ
“ฉันเองไม่หวังว่าจะมีคนที่โจมตี แต่แน่นอนว่ามันย่อมเต็มไปด้วยความโกรธมากมาย ความหวังที่ฉันมีต่อหนังเรื่องนี้ก็คือ การเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงานปาร์ตี้ และละทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับเราทั้งในฐานะผู้หญิงหรือผู้ชาย ฉันว่าในบรรดาความโกรธทั้งหมดนั้น หากพวกเขาได้เห็นและมีส่วนร่วมไปกับมัน มันจะสามารถทำให้พวกเขารู้สึกโอเคที่จะปลดปล่อยมันให้กับคนอื่น ๆ “