Variety ได้รายงานว่า เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ได้กล่าวถึง ‘The Terminator’ ภาพยนตร์ไซไฟคลาสสิกเมื่อปี 1984 ที่เป็นจุดเปลี่ยนให้กับอาชีพผู้กำกับของเขา และต่ออุสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด
คาเมรอนได้ยอมรับว่า ‘The Terminator’ มีองค์ประกอบที่เขาไม่ต้องการเลือกให้มีความสำคัญต่อผลงานสร้างของเขาในอนาคต โดยในระหว่างการถ่ายทำนั้น คาเมรอนรู้สึกไม่สบายใจต่ออาวุธปืนเลย ปืนนั้นส่งผลกระทบต่อสังคม, ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรม และจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก็ได้เปลี่ยนมุมมองของเขาไป เขาจะพิจารณาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะนำเสนอภาพความรุนแรงออกมาอย่างไร โดยหวังว่าจะหลีกเลี่ยงการสร้างภาพความรุนแรงที่กลายเป็นความชื่นชอบของผู้คนโดยไม่ตั้งใจได้
ผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับปืน และนั่นทำให้ผมคิดว่า ที่นี่คืออเมริกา ผมสามารถเดินเข้าไปซื้อปืนได้ ผมมองย้อนกลับมาที่ภาพยนตร์ที่ผมได้สร้าง และผมไม่รู้เลยว่าถ้าอยู่ในยุคนี้ผมยังจะอยากสร้างมันไหม ผมไม่รู้เลยว่าผมจะอยากใช้ปืนจำนวนมากในการถ่ายทำภาพยนตร์อย่าง 'Terminator' ทั้ง 2 ภาค เมื่อ 30 กว่าปีก่อนหรือเปล่า โลกของเราในทุกวันนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นจากการใช้ปืนในสังคมทำให้ผมคลื่นไส้
‘The Terminator’ (1984) ที่มีอายุครอบ 40 ปี ในปี 2024 นี้ เป็นภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟคลาสสิกที่แจ้งเกิดให้คาเมรอน ด้วยวิสัยทัศน์ในการนำเสนอความอันตรายของ AI อย่าง Skynet และการย้อนเวลากลับมาช่วยมนุษย์จะเป็นผู้นำในสงครามระหว่างมนุษย์และ AI ในปี 2029 ก็ถูกใจผู้ชมในยุคนั้น จนทำให้ ‘The Terminator’ ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 78.3 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 6.4 ล้านเหรียญ
นอกจากนี้ยังแจ้งเกิดให้ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) ถูกจดจำในบทหุ่นยนต์ T-800 และ ลินดา แฮมิลตัน (Linda Hamilton) ในบท Sarah Connor ที่จะกลายเป็นหนึ่งในตัวละครหญิงแกร่งที่สุดในโลกภาพยนตร์ในเวลาต่อมา
คาเมรอนได้แรงบันดาลใจในการสร้าง ‘The Terminator’ มาจาก ‘Halloween’ ต้นฉบับเมื่อปี 1978 ของ จอห์น คาร์เพนเตอร์ (John Carpenter) โดยปรับมุมมองมาเป็นหุ่นยนต์สังหาร T-800 ที่ออกไล่ล่า Sarah Connor ที่ถูกมองในฐานะ Final Girl หรือหญิงสาวคนสุดท้ายที่จะมีชีวิตรอดในภาพยนตร์สยองขวัญ แล้วเสริมด้วยฉากแอ็กชันที่รุนแรงมากมายจนกลายเป็นภาพจำ
ภาพความรุนแรงเหล่านั้นยังคงผลต่อเนื่องไปยังผลงานต่อมาของคาเมรอนอย่าง ‘Aliens’ (1986) และ ‘Terminator 2: Judgement Day’ (1991)
คาเมรอนเริ่มแสดงให้เห็นถึงการต่อต้านฉากแอ็กชันที่ใช้ปืนมากขึ้นใน ‘True Lies’ (1994), ‘Titanic’ (1997) และรวมถึง ‘Avatar’ (2009) ที่เน้นการนำเสนอความสวยงามของธรรมชาติ และความน่ากลัวของเทคโนโลยีที่มนุษย์ให้คุกคามดาว Pandora รวมถึงใน ‘Avatar: The Way of Water’ (2022) ด้วย