Deadline ได้รายงานว่า ‘Godzilla x Kong: The New Empire’ และ ‘Dune: Part Two’ ประสบความสำเร็จอย่างสูง ส่งให้ Warner Bros. เป็นสตูดิโอแรกในปี 2024 ที่ทำรายได้ในต่างประเทศ (นอกเหนือจากในสหรัฐฯ) ผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ
‘Godzilla x Kong: The New Empire’ และ ‘Dune: Part Two’ ทำรายได้ในต่างประเทศไป 278.6 ล้านเหรียญ และ 411.8 ล้านเหรียญ ตามลำดับ ซึ่งเมื่อรวมกับรายได้จากภาพยนตร์ที่เปิดตัวปลายปี 2023 ที่ทำรายได้ดีมาจนถึงต้นปี 2024 อย่าง ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ และ ‘Wonka’ ทำให้ Warner Bros. ทำรายได้ในต่างประเทศในปี 2024 นี้ รวมไปถึง 1,040 ล้านเหรียญ แล้วในขณะนี้
อีกสิ่งที่น่าประทับใจคือ Warner Bros. สามารถทำรายได้ถึงระดับนี้ในระยะเวลาเพียง 15 สัปดาห์ ซึ่งเร็วกว่าเมื่อปี 2018 ที่ทำได้ใน 17 สัปดาห์
ตอนนี้ Warner Bros. เตรียมส่งภาพยนตร์ฟอร์มเล็กที่น่าสนใจเข้าฉาย เช่น ‘Challengers’ ที่นำแสดงโดย เซ็นเดยา (Zendaya) ซึ่งเป็นผลงานกำกับของ ลูกา กวาดาญีโน (Luca Guadagnino) จาก ‘Call Me by Your Name’ (2017) และ ‘Turtles All the Way Down’ ที่นำแสดงโดย อิซาเบลา เมอร์เซด (Isabela Merced) เป็นต้น
จากนั้น Warner Bros. จะส่งภาพยนตร์ภาคต่อระดับบล็อกบัสเตอร์เข้าฉายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘Furiosa: A Mad Max Saga’, ‘Beetlejuice Beetlejuice’, ‘Twisters’, ‘Joker: Folie à Deux’ และภาพยนตร์แอนิเมชัน ‘The Lord of the Rings: The War of the Rohirrim’
จากรายชื่อภาพยนตร์ข้างต้น อาจทำให้ Warner Bros. สามารถทำรายได้ในตลาดต่างประเทศได้อย่างน่าประทับใจอีกปีหนึ่ง