หลังจากที่วางแผง Studio Album ชุดที่ 11 ของแม่เทย์ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ที่ใช้ชื่อว่า ‘The Tortured Poets Department’ ไปเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ก็เรียกได้ว่า เรียกได้ว่าสมกับการรอคอยของ Swiftie จริง ๆ เพราะมีหลายจุดจากหลากหลายเพลงในอัลบั้มนี้ให้พูดถึง
ไม่ว่าจะเป็นซิงเกิล “Fortnight” ที่เป็นการ Featuring ครั้งแรกกับ โพสต์ มาโลน (Post Malone) หรือแม้แต่เซอร์ไพรส์ด้วยจำนวนเพลงในอัลบั้มที่มีให้ฟังกันจุใจถึง 16 แทร็ก แถมยังมีเซอร์ไพรส์ในเซอร์ไพรส์ ด้วยการปล่อยอัลบั้มเวอร์ชัน ‘The Anthology’ ที่ประกอบไปด้วยเพลงใหม่เพิ่มเติมอีก 15 แทร็ก รวมทั้งหมด 31 แทร็กแบบจุก ๆ
ในบรรดาเพลงจำนวนมาก มีเพลงหนึ่งที่ตอนนี้ Swiftie บนโลกอินเทอร์เน็ตต่างพูดถึงกันไม่น้อย นั่นก็คือแทร็กสุดท้ายของอัลบั้มเวอร์ชันปกติที่มีชื่อว่า “Clara Bow” ที่แทร็กนี้ได้รับการสนใจเป็นพิเศษ เพราะมีชาวเน็ตบางส่วนสังเกตเห็นเนื้อเพลงที่ลงท้ายด้วยคำว่า ‘Dazzling’ ซึ่งมีความหมายตามคำศัพท์หมายถึงความเปล่งประกาย, แวววาว, หรูหรา, ปราดเปรื่อง ตามเนื้อร้องท่อนสุดท้ายของเพลงนี้
“You look like Taylor Swift
In this light, we’re lovin’ it
You’ve got edge, she never did
The future’s bright, dazzling”
“เธอเป็นเหมือนดั่ง เทย์เลอร์ สวิฟต์
ท่ามกลางแสงอันเฉิดฉายนี้ ฉันรักเธอมากมาย
เธอช่างเหนือกว่าใคร อย่างที่เทย์เลอร์ไม่เคยได้เป็น
อนาคตของเธอช่างสดใส… สว่างสวยงาม”
ซึ่งคำว่า คำว่า ‘Dazzling’ นี่แหละที่ดันไปก็ดันไปพ้องกับชื่อซูเปอร์ฮีโรหญิงของ Marvel Comic ตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า แดซเลอร์ (Dazzler) ซึ่งเป็น 1 ในตัวละครในจักรวาล X-Men ที่มีข่าวลือว่าอาจจะมาปรากฏตัวในหนัง MCU เรื่องใหม่อย่าง ‘Deadpool & Wolverine’ ที่จะเข้าฉายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และก็ให้บังเอิญว่าก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวลือว่าสวิฟต์อาจจะได้เข้าร่วมจักรวาล MCU ทำให้สวิฟตี้หลายคนต่างเชื่อมโยงกันว่า หรือนี่อาจเป็นคำใบ้ของเธอที่ต้องการจะสื่อว่าศิลปินสาวสวยคนดังกำลังจะเข้าสู่จักรวาลซูเปอร์ฮีโรแล้วจริง ๆ
ในแง่ของตัวเพลง “Clara Bow” ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับวงคาราบาว แต่สวิฟต์แต่งเพลงนี้โดยนำชื่อของ คลารา โบว์ (Clara Bow) นักแสดงหญิงในยุคหนังเงียบที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงทศวรรษ 1920 เป็นนักแสดงที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็น ‘It girl’ หรือนักแสดงหญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ หรือ Sex Symbol คนแรก ๆ ของยุคสมัยนั้น อันมีที่มาจากการที่เธอแสดงหนังเงียบเรื่อง ‘It’ (1927) มาเป็นแรงบันดาลใจ
ช่วงชีวิตหนึ่งของโบว์ เคยถูกชื่อเสียงถาโถมจนทำให้สุขภาพจิตของเธอเริ่มย่ำแย่ ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคจิตเภท จนทำให้เธอลาออกจากวงการและใช้ชีวิตแบบหลีกหนีสังคม จนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจวายในปี 1965 ด้วยวัย 60 ปี ซึ่งการที่สวิฟต์หยิบเอาเรื่องนี้มาแต่ง ก็อาจจะต้องการสะท้อนถึงความรู้สึกและสภาพจิตใจของเธอที่ต้องเผชิญในการรับมือกับชื่อเสียงอันโด่งดัง และการถูกจับจ้องทั้งจากแฟนคลับและสื่อจากทั่วโลก ไม่ต่างกับชีวิตอันรุ่งโรจน์ของโบว์เลยแม้แต่น้อย
ตัวละคร Dazzler มีชื่อจริงว่า อลิสัน แบลร์ (Alison Blaire) เป็น 1 ในมิวแทนต์ในจักรวาล X-Men ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือคอมิก ‘Uncanny X-Men #130’ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1980 Dazzler มีความสามารถในการแปลงพลังงานเสียงที่เธอร้องเปล่งออกมาให้ออกมาเป็นแสงสี และสามารถดูดซับพลังงานเสียงเพื่อเปลี่ยนเป็นแรงระเบิดได้ รวมทั้งยังสามารถปล่อยแสงสีขาวสว่างจ้าออกมาจากตัวเธอเองได้ ก่อนที่เธอจะได้เข้าร่วมทีม X-Men ในเวลาต่อมา โดย Dazzler เคยปรากฏตัวครั้งแรกใน ‘Dark Phoenix’ (2019) หนังไลฟ์แอ็กชันในจักรวาล X-Men ที่รับบทโดย ฮาลสตัน เซจ (Halston Sage)
ชอว์น เลวี (Shawn Levy) ผู้กำกับ ‘Deadpool & Wolverine’ เคยพูดถึงข่าวลือที่ว่าสวิฟต์อาจจะได้ปรากฏตัวในบทบาทมิวแทนต์เสียงทรงพลัง ซึ่งเขาก็ได้แต่ตอบว่า “ผมไม่อยากจะเชื่อเลยนะ ว่าคุณจะกล้าถามคำถามที่ผมตอบไม่ได้เนี่ย คนอเมริกันทุกคนใครก็รู้ว่าผมตอบเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะนี่มันข่าวลือว่าใครจะได้อยู่หรือไม่ได้อยู่ในหนังเรื่องนี้ และก็จะไม่มีใครรู้ความจริงด้วยจนกว่าหนังจะฉายนะครับ”
ในขณะที่พี่เดดพูล ไรอัน เรย์โนลด์ (Ryan Reynolds) ซึ่งในชีวิตจริง ทั้งเขาและภรรยา เบลก ไลฟ์ลี (Blake Lively) ที่ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของสวิฟต์และเคยปรากฏในงานของกันและกันมาหลายครั้ง (และเหมือนเป็นเหตุผลสนับสนุนข่าวลือนี้แบบกลาย ๆ ) โดยเรย์โนลด์ได้เคยออกมาพูดถึงกระแสข่าวที่เพื่อนอย่างสวิฟต์จะได้มารับบทเป็น Dazzler ใน ‘Deadpool & Wolverine’ กับเว็บไซต์ Vancouver Sun ว่า
“คือผมเองก็เคยได้ยินข่าวนั้นนะครับ ซึ่งผมก็ชอบนะ ผมว่ามันเป็นสัญญาณบอกว่าผู้คนกระตือรือร้นที่อยากจะเห็นสิ่งที่อยู่หลังม่านนี้มากขนาดไหน แต่ความลับและสปอยล์ทุกอย่างจะถูกเปิดเผยในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้นะ”