Deadline ได้รายงานว่า ‘Dune: Part Two’ ทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 700 ล้านเหรียญ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในการฉายสุดสัปดาห์ที่ 9 ซึ่งเป็นรายได้ที่ก้าวกระโดดจาก ‘Dune: Part One’ ที่เข้าฉายเมื่อปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่โรงภาพยนตร์หลายแห่งปิดให้บริการเนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยทำรายได้ทั่วโลกสุทธิไป 407.6 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 165 ล้านเหรียญ ในขณะที่ ‘Dune: Part Two’ นั้น ใช้ทุนสร้าง 190 ล้านเหรียญ
ด้วยความสำเร็จด้านรายได้อย่างมหาศาลนี้ ทำให้ ‘Dune: Part Two’ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดในปี 2024 (นับจนถึงวันที่ 27 เมษายน 2024) โดยขาดอีกเพียง 300 ล้านเหรียญ ก็จะถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ
‘Dune: Part One’ และ ‘Dune: Part Two’ นั้น ดัดแปลงจากนิยายไซไฟระดับมหากาพย์เล่มแรกในซีรีส์ ‘Dune’ ของ แฟรงค์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1965 ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนิยายไซไฟที่ดีที่สุดตลอดกาล
หากพิจารณาเชิงลึกแล้วนั้น จะเห็นได้ว่า ‘Dune: Part Two’ มีอัตราการทำรายได้ในสหรัฐฯ ไล่เลี่ยกับภาพยนตร์ดราม่าฟอร์มยักษ์ดีกรีรางวัลออสการ์อย่าง ‘Oppenheimer’ เมื่อปี 2023 ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 971.6 ล้านเหรียญ จึงน่าสนใจว่าท้ายที่สุดแล้ว ‘Dune: Part Two’ จะทำรายได้ทั่วโลกสุทธิใกล้เคียงหรือเทียบเท่า ‘Oppenheimer’ ได้หรือไม่
Oppenheimer | Dune: Part Two | |
---|---|---|
สุดสัปดาห์ที่ 1 ในสหรัฐฯ | 82.5 ล้านเหรียญ | 82.5 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 2 ในสหรัฐฯ | 46.7 ล้านเหรียญ | 46.2 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 3 ในสหรัฐฯ | 29.1 ล้านเหรียญ | 28.5 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 4 ในสหรัฐฯ | 18.8 ล้านเหรียญ | 17.6 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 5 ในสหรัฐฯ | 10.7 ล้านเหรียญ | 11.3 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 6 ในสหรัฐฯ | 8.2 ล้านเหรียญ | 7.4 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 7 ในสหรัฐฯ | 5.7 ล้านเหรียญ | 4.3 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 8 ในสหรัฐฯ | 3.08 ล้านเหรียญ | 2.9 ล้านเหรียญ |
สุดสัปดาห์ที่ 9 ในสหรัฐฯ | 2.09 ล้านเหรียญ | 1.89 ล้านเหรียญ |
รวมรายได้ทั่วโลกสุทธิ | 971.6 ล้านเหรียญ | ยังไม่ได้สรุปรายได้สุทธิ |
อย่างไรก็ดี เส้นการทำรายได้ถึงหลัก 1,000 ล้นเหรียญ ของ ‘Dune: Part Two’ นั้น ยังคงมีอุปสรรค เนื่องจากมีภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ฟอร์มดีหลายเรื่องที่เตรืยมเข้าฉายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป เช่น ‘The Fall Guy’, ‘Kingdom of the Planet of the Apes’, ‘IF’ และ ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ เป็นต้น