แฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ กำลังจะถึงจุดสิ้นสุดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งจะทำให้วิน ดีเซล (Vin Diesel) ผู้อำนวยการสร้าง และนักแสดงนำของแฟรนไชส์แอ็กชันบล็อกบัสเตอร์ความเร็วสูงนี้ ต้องหันไปพัฒนาแฟรนไชส์อื่น ๆ ที่เคยสร้างชื่อให้เขาในอดีตอย่างจริงจังมากขึ้น เช่น ‘Riddick’, ‘xXx’, ‘Bloodshot’ หรือ ‘The Last Witch Hunter’ เป็นต้น รวมถึงการสร้างภาพยนตร์ต้นฉบับใหม่ที่ไม่ใช่ภาคต่อ
อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ดีเซลอาจกลับมาพัฒนา คือ ‘Kojak’ ที่ดีเซลได้ประกาศการพัฒนาร่วมกับ Universal Pictures เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา แต่ได้เงียบหายไป
‘Kojak’ เป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์ที่ฉายระหว่างปี 1973 – 1978 นำแสดงโดย เทลลี่ ซาวาลัส (Telly Savalas) ในบท ธีโอ โคแจก (Theo Kojak) นักสืบชื่อดังแห่งนิวยอร์กที่ใช้วิธีนอกกฎหมายในการสืบคดี อีกทั้งยังมีความหลงใหลในรถยนต์ และชื่นชอบอมยิ้มเป็นอย่างมาก
‘Kojak’ ได้รับการรีบูตเป็นซีรีส์ในปี 2005 ซึ่งนำแสดงโดย วิง เรมส์ (Ving Rhames) แต่ไม่ได้รับความนิยม และทำให้ถูกระงับการสร้างหลังฉายได้เพียง 6 ตอนเท่านั้น
ดีเซลยังไม่ได้ลงมือพัฒนา ‘Kojak’ อย่างจริงจังนับตั้งแต่ประกาศการพัฒนาเมื่อ 9 ปีก่อน แต่ด้วยพื้นฐานของ ‘Kojak’ มีองค์ประกอบพื้นฐานใกล้เคียงกับ ‘Fast and Furious’ ในความเป็นแอ็กชันอาชญากรรม อาจทำให้ดีเซลผลักดัน ‘Kojak’ เป็นแฟรนไชส์แอ็กชันระดับบล็อกบัสเตอร์ใหม่ที่ทดแทน ‘Fast and Furious’ ได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ดีเซลได้รับบทเป็นตำรวจ หลังจากที่เขารับบทเป็นอาชญากรในหลายแฟรนไชส์มาโดยตลอด ทั้ง ‘Fast and Furious’, ‘Riddick’ และ ‘xXx’
ดีเซลและ Universal นั้น มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างยาวนานในการสร้างแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ ที่เริ่มมาต้้งแต่ปี 2001 โดยในปัจจุบันมีด้วยกัน 11 ภาค (รวม ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw (2019)’ ที่เป็นภาคแยกด้วย) และทำรายได้ทั่วโลกรวมกันไปอย่างมหาศาลถึง 7,321.5 ล้านเหรียญ
รวมถึงแฟรนไชส์แอ็กชันไซไฟอย่าง ‘Riddick’ ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2000 โดยในปัจจุบันมีด้วยกัน 3 ภาค และทำรายได้ทั่วโลกไป 255.1 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ไม่สูงมากนัก ยกเว้น ‘The Chronicles of Riddick’ (2004) ที่ใช้ทุนสร้างถึง 120 ล้านเหรียญ