หลุยส์ เลเทอร์เรียร์ (Louis Leterrier) ผู้กำกับ ‘Fast X’ (2023) ได้เข้าร่วมงาน CCXP (Comic-Con Experience) ซึ่งเป็นงานจัดแสดงผลิตภัณฑ์และเนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกับป็อปคัลเจอร์ที่โด่งดังจากประเทศบราซิล โดยล่าสุดได้จัดที่เม็กซิโกซิตี เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก ระหว่างวันที่ 3 – 5 พฤษภาคม 2024 ที่ผ่านมา
เลเทอร์เรียร์ได้ใหัสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Collider เพื่ออัปเดตความคืบหน้าของการสร้าง ‘Fast and Furious 11’ โดยได้ยืนยันว่า ตัวภาพยนตร์ได้ถูกเลื่อนกำหนดการฉายออกไปจากวันที่ 4 เมษายน 2025 ไปเป็นในช่วงซัมเมอร์ 2026 แทน และจะเริ่มเปิดกล้องในปลายปี 2024 นี้
เราจะเริ่มเตรียมงานสร้างในเร็ว ๆ นี้ ผมจะถ่ายทำภาพยนตร์สยองขวัญฟอร์มเล็กเรื่องหนึ่งในซัมเมอร์นี้ ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันที่ 15 กันยายน 2024 จากนั้นจะเริ่มถ่ายทำ 'Fast and Furious 11' ในวันที่ 16 กันยายน 2024 ต่อเนื่องไปเลย
‘Fast and Furious 11’ เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ได้รับผลกระทบจากการประท้วงของสมาพันธ์นักเขียนแห่งอเมริกา หรือ WGA (Writers Guild of America) และสมาพันธ์ศิลปินนักแสดง หรือ SAG-AFTRA (Screen Actors Guild – American Federation of Television and Radio Artists) เมื่อปี 2023 จนทำให้งานสร้างเกิดความล่าช้า
นี่ยังเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่เต็มไปด้วยปัญหาเบื้องหลังมากมาย ไม่ต่างจากภาคก่อนอย่าง ‘Fast X’ ที่ต้องเปลี่ยนผู้กำกับจากจัสติน ลิน (Justin Lin) มาเป็นเลเทอร์เรียร์อย่างกระทันหัน เนื่องจากปัญหาแนวคิดสร้างสรรค์ไม่ตรงกัน ทั้งนี้ลินนั้นได้กำกับภาพยนตร์ในแฟรนไชส์นี้มาอย่างยาวนานถึง 5 ภาค
นอกจากนี้ แฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ ยังประสบปัญหาคำวิจารณ์ และกระแสความนิยมจากผู้ชมที่ลดต่ำลง ส่งผลให้ผู้สร้างต้องสร้างสรรค์เนื้อเรื่องให้มีความน่าสนใจมากขึ้น เพื่อปูทางไปยังบทสรุปอย่างสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้โปรเจกต์เกิดความล่าช้าเช่นกัน
‘Fast and Furious 11’ จะเป็นภาคสุดท้ายในเส้นเรื่องหลักของแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’ จากนั้นจะสานต่อด้วยภาคแยกอีกหลายเรื่อง รวมถึง ‘Hobbs & Reyes’ ที่จะนำแสดงโดย ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) และเจสัน โมโมอา (Jason Momoa) และภาพยนตร์รวมทีมตัวละครหญิงที่คาดว่าจะนำแสดงโดย กัล กาด็อท (Gal Gadot), ชาร์ลีซ เทรัน (Charlize Theron) และมิเชลล์ รอดรีเกซ (Michelle Rodriguez)