Collider ได้รายงานว่า ‘Civil War’ ภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างสูงสุดของสตูดิโอ A24 ถึง 50 ล้านเหรียญ ทำรายได้ผ่านหลัก 100 ล้านเหรียญ อยู่ที่ 104.5 ล้านเหรียญ จากการฉาย 4 สัปดาห์ ซึ่งทำให้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของสตูดิโอที่ทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 100 ล้านเหรียญได้สำเร็จ ตามหลัง ‘Everything Everywhere All At Once’ (2022) ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดของสตูดิโอ อยู่ที่ 143.4 ล้านเหรียญ

นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 10 ในปี 2024 นี้ ที่ทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 100 ล้านเหรียญ และขึ้นเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดลำดับที่ 9 ในปี 2024 นี้ แซงหน้า ‘Madame Web’ ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 100.3 ล้านเหรียญ

‘Civil War’ เป็นผลงานกำกับล่าสุดของอเล็กซ์ การ์แลนด์ (Alex Garland) ที่มีผลงานกำกับภาพยนตร์ไซไฟขวัญใจนักวิจารณ์อย่าง ‘Ex Machina’ (2014) และ ‘Annihilation’ (2018) เล่าเรื่องของทีมนักข่าวที่เดินทางไปกรุงวอชิงตันระหว่างเกิดสงครามกลางเมืองเพื่อสัมภาษณ์ประธานาธิบดีก่อนที่กองทัพของแคลิฟอร์เนียและเท็กซัสจะเดินทางมาถึง นำแสดงโดย เคียร์สเต็น ดันสต์ (Kirsten Dunst), วากเนอร์ มูร่า (Wagner Moura), เคลี สแปนี (Cailee Spaeny), นิค ออฟเฟอร์แมน (Nick Offerman) และเจสซี่ พลีมอนส์ (Jesse Plemons)

Civil War

นี่ถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์เรื่องแรกของสตูดิโอ A24 หลังจากที่เน้นสร้างภาพยนตร์อิสระที่ใช้ทุนสร้างไม่สูงมาโดยตลอด โดยผ่านจุดคุ้มทุนที่ประมาณ 100 ล้านเหรียญ และเข้าสู่กระบวนการทำกำไรแล้วในขณะนี้

5 อันดับ ภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดของ A24 ในขณะนี้

อันดับที่เรื่องทุนสร้าง (ล้านเหรียญ)จุดคุ้มทุน (ล้านเหรียญ)รายได้ทั่วโลก (ล้านเหรียญ)
1Everything Everywhere All At Once (2022)14.3 – 25.028.6 – 50.0143.4
2Civil War (2024)50.0100.0104.0 (ยังคงฉายอยู่)
3Talk to Me (2023)4.59.092.2
4Hereditary (2018)10.020.082.7
5Lady Bird (2017)10.020.078.9

จากนี้ต้องติดตามว่า ‘Civil War’ จะทำรายได้สุทธิหลังจากสิ้นสุดการฉายในโรงภาพยนตร์เท่าไร และกำไรที่ได้จะมากพอให้ A24 เสี่ยงสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ทุนสูงในอนาคตหรือไม่ หากพิจารณาจากภาพยนตร์ฟอร์มเล็กหลายเรื่องของสตูดิโอที่สามารถทำรายได้เกือบถึงหลัก 100 ล้านเหรียญ ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ‘Talk to Me’ และ ‘Lady Bird’ เป็นต้น