Deadline ได้รายงานว่า ‘Kingdom of the Planet of the Apes’ ทำรายได้จากการฉายรอบพรีวิวในคืนวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2024 ที่สหรัฐฯ ไป 6.5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการทุบสถิติรายได้รอบพรีวิวของแฟรนไชส์ ‘Planet of the Apes’ เวอร์ชันรีบูต หลังจากที่ ‘War for the Planet of the Apes’ (2017) เคยทำไว้สูงสุดที่ 5 ล้านเหรียญ ตามด้วย ‘Dawn of the Planet of the Apes’ (2014) ที่เคยทำไว้ 4.25 ล้านเหรียญ
ด้วยรายได้รอบพรีวิวที่ค่อนข้างดีนี้ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ‘Kingdom of the Planet of the Apes’ อาจทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกแซงหน้า ‘Ghostbusters: Frozen Empire’ ที่ทำไว้ 45 ล้านเหรียญ
‘Kingdom of the Planet of the Apes’ เป็นภาคที่ 4 ในแฟรนไชส์ ‘Planet of the Apes’ เวอร์ชันรีบูต โดยได้เวส บอล (Wes Ball) จากแฟรนไชส์ ‘The Maze Runner’ มารับหน้าที่กำกับต่อจากแมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) เล่าเรื่องหลังจากเหตุการณ์ใน ‘War for the Planet of the Apes’ เป็นระยะเวลา 300 ปี ซึ่งมีพื้นหลังใกล้เคียงกับ ‘Planet of the Apes’ เวอร์ชันต้นฉบับเมื่อปี 1968 เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ได้มีการคาดการณ์ว่า ‘Kingdom of the Planet of the Apes’ อาจทำรายได้ในวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม 2024 ประมาณ 21 – 22 ล้านเหรียญ และอาจส่งผลให้รายได้เปิดตัว 3 วันแรก (10 – 12 พฤษภาคม 2024) อยู่ที่ประมาณ 52 – 55 ล้านเหรียญ ซึ่งถ้าหากเป็นจริงก็จะยังไม่ใช่รายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของแฟรนไชส์ โดยจะอยู่ในระดับเดียวกับภาคแรกของแฟรนไชส์อย่าง ‘Rise of the Planet of the Apes’ (2011) และ ‘War for the Planet of the Apes’ ที่ทำไป 54.8 ล้านเหรียญ และ 56.3 ล้านเหรียญ ตามลำดับ
‘Dawn of the Planet of the Apes’ ซึ่งเป็นภาคที่ 2 ของแฟรนไชส์ ครองสถิติเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดของแฟรนไชส์ อยู่ที่ 72.6 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่า ‘Kingdom of the Planet of the Apes’ จะเลือกเปิดตัวได้อย่างถูกจังหวะ เนื่องจากภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์อย่าง ‘The Fall Guy’ ทำรายได้เปิดตัวเมื่อสุดสัปดาห์ก่อนไป 27.7 ล้านเหรียญ ในขณะที่ภาพยนตร์หลายเรื่องในแฟรนไชส์ MCU (Marvel Cinematic Universe) ของ Marvel Studios และ Disney ที่มักเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมของทุกปี ได้ถูกเลื่อนออกไปเพื่อปรับโครงสร้างของแฟรนไชส์หลังประสบความล้มเหลวทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ติดต่อกันหลายเรื่อง