หลังจากที่ เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner) นักแสดงวัย 53 ปี ที่เรารู้จักกันจากบทบาท คลินต์ บาร์ตัน (Clint Barton) หรือฮอว์กอาย (Hawkeye) ฟาดเคราะห์ประสบอุบัติเหตุขั้นวิกฤติจากการถูกรถไถหิมะทับ ในวันขึ้นปีใหม่ของปี 2023 จนหลายคนกลัวว่าเขาอาจจะกลับมาทำการแสดงไม่ได้อีก

จนกระทั่ง 1 ปีถัดมา เขาได้เข้ารับการรักษา พักฟื้น ทำกายภาพบำบัด จนเรียกได้ว่าแทบจะหายดีเกือบ 100% และสามารถกลับมารับงานแสดงได้ตามปกติ ทั้งการปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆษณานมอัลมอนด์ยี่ห้อ ‘Silk’ ร่วมกับเอวา เบอร์ลิน เรนเนอร์ (Ava Berlin Renner) ลูกสาววัย 11 ขวบ และกลับไปถ่ายทำซีรีส์ ‘Mayor of Kingstown’ ซีซัน 3 ของ Paramount+

และหลังจากที่ปรากฏตัวเป็น Easter Egg ในหนังรหัสคดี ‘Glass Onion: A Knives Out Mystery’ (2022) เรนเนอร์ตัวจริงก็จะได้ไปร่วมไขคดีในหนังภาคที่ 3 ของนักสืบจอมกวน เบอนัวต์ บลองก์ (Benoit Blanc) ใน ‘Wake Up Dead Man: A Knives Out Mystery’ ของ Netflix ที่มีกำหนดฉายในปี 2025 ซึ่งถือเป็นการกลับไปแสดงหนังเรื่องแรกหลังจากประสบอุบัติเหตุ

หากยังจำกันได้ อีกบทบาทของเขาที่หลายคนชื่นชอบ ก็คือการรับบทเป็นวิลเลียม แบรนต์ (William Brandt) เลขาธิการของนายกรัฐมนตรี และนักวิเคราะห์ข่าวกรองของหน่วย IMF ในหนังแอ็กชันจารกรรม ‘Mission: Impossible – Ghost Protocol’ (2011) และ ‘Mission: Impossible – Rogue Nation’ (2015) แต่ก็น่าเสียดายที่วิลเลียมไม่ได้กลับมาร่วมปฏิบัติการกับอีธาน ฮันต์ (Ethan Hunt) อีกหลังจากนั้น

Jeremy Renner Mission Impossible - Ghost Protocol

เรนเนอร์ได้เปิดเผยสาเหตุที่เขาตัดสินใจถอนตัวออกจากแฟรนไชส์ ‘Mission: Impossible’ ในบทสัมภาษณ์ของเว็บไซต์ Collider ด้วยเหตุผลง่าย ๆ ก็คือ เขาต้องการจะให้ความสำคัญกับการทำหน้าที่พ่อของเอวา ลูกสาวคนเดียวของเขาที่เกิดกับอดีตภรรยา ซอนนี ปาเชโก (Sonni Pacheco)

“ใช่แล้วครับ ผมเองต้องยอมถอนตัวจากหนังเรื่องนั้นไป ผมควรจะได้ทำอะไรมากกว่านี้กับพวกเขานะครับ ผมรักพวกเขามาก ผมรัก ทอม ครูซ (Tom Cruise) มากด้วย เราสนุกกันมาก และผมเองก็รักตัวละครตัวนั้นมาก ๆ แต่ว่ามันก็จำเป็นต้องใช้เวลาเยอะมาก เพราะกองถ่ายทุกอย่างอยู่ที่ลอนดอน และผมก็ต้องการจะกลับไปทำหน้าที่พ่อด้วย ผมก็เลยจำเป็นต้องถอยห่างออกมา”

บทบาท วิลเลียม แบรนต์ ของเรนเนอร์ ถือเป็นตัวละครไม่กี่ตัวในแฟรนไชส์ ‘Mission: Impossible’ ที่มีบทบาทต่อเนื่องมากกว่า 1 ภาค ในภาค ‘Ghost Protocol’ วิลเลียม แบรนต์, อีธาน ฮันต์, เบนจี ดันน์ และเจน คาร์เตอร์ ต้องเข้าร่วมปฏิบัติการไร้เงา เพื่อขัดขวางการยิงระเบิดนิวเคลียร์ของรัสเซีย

และในภาค ‘Rogue Nation’ พวกเขา ลูเธอร์ สติคเคลล์ และอิลซา เฟาสต์ ต้องร่วมกันหยุดยั้งองค์กรซินดิเคต (Syndicate) ที่ต้องการก่อการร้ายเพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่ ตอนท้ายแบรนต์ถูกย้ายไปประจำการกับหน่วย CIA หลังจากที่หน่วย IMF (Impossible Mission Force) ถูกยุบ

แม้ว่าจะเป็นบทสมทบที่คอยเคียงข้างอีธาน ฮันต์ ในปฏิบัติการ แต่โรเบิร์ต เอลส์วิต (Robert Elswit) ผู้กำกับภาพของแฟรนไชส์นี้ได้เปิดเผยว่า บทบาท วิลเลียม แบรนต์ ถูกวางไว้ให้เป็นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของ IMF เป็นตัวตายตัวแทนของ อีธาน ฮันต์ ส่วนฮันต์จะวางมือจากการปฏิบัติหน้าที่และขึ้นไปเป็นหัวหน้าของหน่วย IMF แทน ซึ่งเป็นการเตรียมการในกรณีที่ตัวหนังไม่ทำเงิน หรือครูซต้องการวางมือจากบทบาท อีธาน ฮันต์

จริง ๆ เหตุผลเกี่ยวกับครอบครัวก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาต้องถอนตัว แต่ในช่วงนั้นตารางงานของเขาก็ชนกับการรับบท Hawkeye ใน ‘Avengers: Infinity War’ (2018) และ ‘Avengers: Endgame’ (2019) จนไม่สามารถกลับไปรับบทเดิมในภาค ‘Mission: Impossible – Fallout’ (2018) แต่ในระหว่างถ่ายทำ เขาเองก็ยังคงบินไปกลับระหว่าง ลอนดอน-ลอสแองเจลิส เพื่อเดินทางกลับไปเจอลูกสาวในช่วงสุดสัปดาห์ แม้บางครั้งก็ได้เจอหน้ากันเพียงไม่กี่ชั่วโมง จนหลายคนเตือนเขาว่าการทำแบบนี้อาจทำให้เขาสูญเสียบทบาท คลินต์ บาร์ตัน ไป แต่สุดท้าย เขาก็ยังคงได้รับบทบาทนี้มาอย่างต่อเนื่อง

คริสโตเฟอร์ แม็กควอรี (Christopher McQuarrie) ผู้กำกับของแฟรนไชส์ ‘Mission: Impossible’ เคยเปิดเผยว่า เขาเองต้องการให้แบรนต์มีบทบาทในภาค ‘Fallout’ ด้วย แต่แม็กควอรีต้องการให้มีตัวละครในทีมของหน่วย IMF ตายลงในระหว่างปฏิบัติการชิงพลูโตเนียม แต่ตัวละครทั้งเบนจี และลูเธอร์ ต่างก็เป็นตัวละครที่อยู่เคียงข้างกับฮันต์มาตั้งแต่ภาคแรก สุดท้ายแม็กควอรีจึงเขียนบทวางให้แบรนต์ถูกสังหารในปฏิบัติการนี้แทน

Jeremy Renner Mission Impossible - Rogue Nation

แต่สุดท้ายหลังจากการพูดคุย เรนเนอร์กลับไม่ซื้อในไอเดียนี้ และปฏิเสธที่จะกลับมา และตอบคำถามกับสื่อว่า เป็นเพราะเขาติดงานกับทาง MCU แล้ว ก่อนที่เขาจะเลือกที่จะตัดตัวละครตัวนี้ออกไปแทน

“เจเรมีมีความมุ่งมั่นต่อ Avengers ครับ และตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้ว่าภาคที่ 6 (‘Fallout’) เป็นแบบไหน เราเลยล็อกตารางงานไม่ได้ ผมเลยบอกกับเขาไปว่า ‘เฮ้ ฟังนะ ผมมีไอเดียตอนซีเควนซ์เปิดเรื่องที่คุณต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยทีมน่ะ เพราะว่าภารกิจผิดพลาด ไม่ใช่แค่สูญเสียพลูโตเนียม แต่รวมถึงการเสียชีวิตของสมาชิกในทีมด้วย’ เจเรมีฟังแล้วก็บอกว่า ‘ขอบคุณนะ แต่ผมไม่เอาด้วยดีกว่า’ ซึ่งผมคิดว่าเขาคิดถูกแล้วแหละที่เลือกจะไม่ถ่ายงานแค่ 3 วัน โดนสังหาร รับเงินนิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็กลับบ้าน”

แม้บทบาท วิลเลียม แบรนต์ จะห่างหายจากทีม IMF ไปนับ 10 ปี และตอนนี้ ในปฏิบัติการต่อสู้กับปัญญาประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นใน ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’ (2023) สมาชิกอดีตหน่วย IMF ก็เหลืออยู่เพียงแค่ไม่กี่คน และเรื่องราวยังคงดำเนินต่อไปในภาคที่ 8 ที่มีกำหนดฉายในปี 2025 แม้จะยังไม่ปรากฏชื่อเขาในรายชื่อนักแสดง แต่เขาก็ยินดีและพร้อมแล้ว ที่จะกลับไปร่วมปฏิบัติการที่เป็นไปไม่ได้อีกครั้ง

“คือบางที ตอนนี้ลูกสาวของผมก็โตมากพอที่ผมจะออกไปทำอะไรได้แล้ว ผมเลยพร้อมทุกเมื่อที่จะกระโดดกลับเข้าไปสู่ Mission: Impossible กลับไปรับบท วิลเลียม แบรนต์ อีกครั้ง ถ้าเป็นแบบนั้นได้จริงก็เยี่ยมเลย”