IndieWire ได้รายงานว่า ‘Godzilla Minus One’ (2023) ทำสถิติเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ครองอันดับที่ 1 ทั้งบนบริการสตรีมมิง Netflix และจำหน่ายในรูปแบบ VOD (Video on Demand) บน iTunes พร้อมกัน
‘Godzilla Minus One’ ได้รับการวางจำหน่ายบน iTunes ในสหรัฐฯ ด้วยราคา 5.99 เหรียญ หรือประมาณ 220 บาท
ข้อมูลดังกล่าวปรากฏขึ้นไม่นานหลังจากที่ ‘Godzilla Minus One’ ได้เข้าฉายบนบริการสตรีมมิงด้วยความเซอร์ไพรส์ และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจนขึ้นอันดับที่ 1 ของแพลตฟอร์ม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชมให้ความสนใจและสนุกไปกับ ‘Godzilla Minus One’ ของผู้กำกับ ทาคาชิ ยามาซากิ (Takashi Yamazaki) เป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ฉายในโรงภาพยนตร์
5 อันดับ ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Netflix และ iTunes ในพื้นที่สหรัฐฯ (3 มิถุนายน 2024)
อันดับที่ | Netflix (ในพื้นที่สหรัฐฯ) | iTunes (ในพื้นที่สหรัฐฯ) |
---|---|---|
1 | Godzilla Minus One (2023) | Godzilla Minus One (2023) : 5.99 เหรียญ |
2 | Colors of Evil: Red (Netflix Original : โปแลนด์) | Civil War (2024) : 19.99 เหรียญ |
3 | Atlas (Netflix Original) | The Fall Guy (2024) : 19.99 เหรียญ |
4 | The LEGO Movie (2014) | Dune: Part Two (2024) : 5.99 เหรียญ |
5 | A Million Ways to Die in the West (2014) | Godzilla x Kong: The New Empire (2024) : 19.99 เหรียญ |
เมื่อครั้งเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ‘Godzilla Minus One’ ได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากทั้งนักวิจารณ์และผู้ชมทั่วโลก โดยทำรายได้ทั่วโลกไป 115.9 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 15 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่า ‘Godzilla’ เวอร์ชันของสหรัฐฯ ในจักรวาล Monsterverse อย่าง ‘Godzilla x Kong: The New Empire’ ใช้ทุนสร้างไป 135 ล้านเหรียญ
Rotten Tomatoes ได้ยกให้ ‘Godzilla Minus One’ เป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ที่ดีที่สุด ด้วยคะแนนรีวิวที่สูงถึง 98% จากภาพยนตร์ จำนวน 38 เรื่อง รองลงมาคือ ‘Godzilla’ หรือ ‘Gojira’ เวอร์ชันต้นฉบับของญี่ปุ่นเมื่อปี 1954 ที่ได้คะแนนรีวิวไป 93% อีกทั้งยังสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการชนะรางวัลออสการ์ สาขาวิชวลเอฟเฟกต์ยอดเยี่ยม ประจำปี 2024 ได้อีกด้วย
ด้วยความสำเร็จอย่างมหาศาลนี้ ทำให้ยามาซากิเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างภาคต่อของ ‘Godzilla Minus One’ แล้ว