เว็บไซต์ Puck ได้รายงานว่า เจนนิเฟอร์ โลเปซ (Jennifer Lopez) ได้รับค่าเหนื่อยจากการรับบทนำใน ‘Atlas’ ภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญของ Netflix ถึง 16.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 605.2 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับค่าเหนื่อยระดับสูงจากการรับบทนำในภาพยนตร์ไซไฟในปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี โลเปซยังรับหน้าที่อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ซึ่งหมายความว่าค่าเหนื่อยที่เธอได้รับนั้นมาจากการทำหน้าที่ผู้สร้างภาพยนตร์ด้วย และแสดงให้เห็นว่าโลเปซในวัย 54 ปี ยังมีพลังดารามากพอจะดึงดูดความสนใจจากผู้ชมรุ่นใหม่ได้
‘Atlas’ กำกับโดย แบรด เพย์ตัน (Brad Peyton) จาก ‘San Andres’ (2015) และ ‘Rampage’ (2018) เล่าเรื่องของนักวิเคราะห์ต่อต้านการก่อการร้าย (รับบทโดย โลเปซ) ที่ต้องร่วมมือกับ AI ที่เธอไม่เคยเชื่อใจ เพื่อหยุดยั้งภัยคุกคามครั้งใหญ่
แม้ว่า ‘Atlas’ จะได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ โดยได้คะแนนบน Rotten Tomatoes ไปเพียง 18% แต่ตัวภาพยนตร์กลับได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มสตรีมมิง Netflix อย่างสูง โดยขึ้นอันดับ 1 บนแพลตฟอร์มในสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย ด้วยยอดรับชมที่สูงถึง 56.3 ล้านชั่วโมง จากผู้ชมจำนวน 28.2 ล้านคน และติด 1 ใน 10 อันดับแรกของภาพยนตร์ที่มีผู้รับชมมากที่สุดบนแพลตฟอร์มในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้
หนึ่งในปัจจัยที่สื่อต่างประเทศได้แสดงความชื่นชมใน ‘Atlas’ คือ การแสดงของโลเปซที่สามารถดึงความสนใจจากผู้ชมได้ตลอดระยะเวลา 1 ชั่วโมง 58 นาที ในขณะที่บทภาพยนตร์นั้น ไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไร
เมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ผลงานก่อนหน้านี้ของโลเปซบน Netflix อย่าง ‘The Mother’ (2023) ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยติดอันดับที่ 9 ของภาพยนตร์ต้นฉบับของ Netflix ที่มีผู้ชมสูงสุดตลอดกาล ด้วยยอดรับชมที่สูงถึง 265.9 ล้านชั่วโมง จากผู้ชมจำนวน 136.4 ล้านคน ซึ่งเธอรับหน้าที่แสดงนำและอำนวยการสร้างภาพยนตร์ดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ด้วยความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลให้ Netflix เปิดไฟเขียวให้โลเปซเดินหน้าพัฒนาและแสดงนำในโปรเจกต์ใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้