Deadline ได้รายงานว่า ‘Inside Out 2’ ของ Pixar/Disney จากฝีมือกำกับของ เคลซีย์ แมนน์ (Kelsey Mann) จะทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ (14 – 16 มิถุนายน 2024) ประมาณ 150 – 155 ล้านเหรียญ ซึ่งจะแซงหน้าภาพยนตร์แอนิเมชันสุดฮิตก่อนหน้านี้อย่าง ‘The Super Mario Bros. Movie’ (2023) ของ Illumination/Universal ที่ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไป 146.3 ล้านเหรียญ

รายได้ดังกล่าวมาจากการฉายรอบพรีวิวคืนวันพฤหัสบดีที่ 13 และฉายเต็มเมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2024 ไป 62 ล้านเหรียญ ตามด้วยรายได้ในวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2024 ที่ทำไป 52 ล้านเหรียญ ซึ่งทำสื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่ารายได้รวม 3 วันแรกในสหรัฐฯ ของ ‘Inside Out 2’ นั้น จะอยู่ที่ประมาณ 150 – 155 ล้านเหรียญ

นั่นจะทำให้ ‘Inside Out 2’ ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 2 รองจาก ‘Incredibles 2’ (2018) ของ Pixar/Disney ที่ทำไว้ 182.7 ล้านเหรียญ และมีความเป็นไปได้ที่จะแซงหน้าภาพยนตร์ระดับสร้างปรากฏการณ์อย่าง ‘Barbie’ (2023) ที่ทำเปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไว้ 162 ล้านเหรียญ

ทั้ง ‘The Super Mario Bros. Movie’ และ ‘Barbie’ นั้น ต่างก็ทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ ด้วยกันทั้งสิ้น อยู่ที่ 1,362 ล้านเหรียญ และ 1,445.6 ล้านเหรียญ ตามลำดับ จึงเป็นสัญญาณดีว่า ‘Inside Out 2’ อาจกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 1,000 ล้านเหรียญ เป็นเรื่องแรกในปี 2024 นี้ ก็เป็นได้

Inside Out 2

จากที่กล่าวข้างต้น ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ ‘Inside Out 2’ จะเป็นผลงานที่กู้ชื่อของ Pixar อีกครั้ง หลังประสบความล้มเหลวด้านรายได้อย่างหนักกับ ‘Lightyear’ (2022) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 226.4 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ และจุดคุ้มทุนประมาณ 400 ล้านเหรียญ ส่วน ‘Elemental’ (2023) ก็ทำรายได้ทั่วโลกไปพอดีตัวที่ 496.4 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ และทุนสร้างประมาณ 400 ล้านเหรียญ

และยังมีความเป็นไปได้ที่ ‘Inside Out 2’ จะติด 1 ใน 5 ภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดของ Pixar เช่นเดียวกับ ‘Finding Dory’ (1,029.2 ล้านเหรียญ), ‘Toy Story 3’ (1,067.3 ล้านเหรียญ), ‘Toy Story 4’ (1,073.8 ล้านเหรียญ) และ ‘Incredibles 2’ (1,243.2 ล้านเหรียญ)

‘Inside Out’ ภาคแรกเมื่อปี 2015 ทำรายได้ทั่วโลกไป 857.6 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 175 ล้านเหรียญ และจุดคุ้มทุนประมาณ 350 ล้านเหรียญ