ใน Trailer ‘A Quiet Place: Day One’ ภาค Sequel หนังเขย่าขวัญที่เล่นกับความเงียบในแฟรนไชส์ ‘A Quiet Place’ นอกจากเราจะได้เห็นนักแสดงนำชุดใหม่ทั้งโจเซฟ ควินน์ (Joseph Quinn) และลูพิตา นียองโก (Lupita Nyong’o) รวมทั้งเรายังจะได้เห็นน้องแมวลายวัวของแซม ตัวละครของนียองโกที่มีชื่อว่าน้องโฟรโด (ชื่อของทั้งคู่มาจากชื่อตัวละครคู่หูใน ‘The Lord of the Rings’) ทั้ง 2 คน 1 ตัวต้องมาเผชิญกับวันที่ 1 ของภัยร้ายที่ทำให้โลกต้องเงียบงัน
แต่แม้ว่าน้องโฟรโดจะกลายเป็นนักแสดงดาวเด่นที่เรียกความสนใจของบรรดาทาสแมวที่โดนตกกันเป็นแถว แถมสตูดิโอยังทำโปสเตอร์เวอร์ชันตกทาสแมว ที่มีเจ้าโฟรโดไปโผล่ในป้ายบิลบอร์ด 3 มิติที่ย่านชินจูกุ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นออกมาโปรโมต ส่วนในเทรลเลอร์ เราจะได้เห็นเจ้าโฟรโดเป็นเจ้านายติดตามตัวละครทาสแมวอย่างแซม หลบหลีกบรรดาเอเลี่ยนหูเทพที่เข้ามาบุกนิวยอร์ก จนมีทาสแมวหลายคนถึงกับลั่นวาจาว่า ‘คนจะเป็นอะไรก็ได้ แต่แมวห้ามตาย’
แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า แม้ตัวละครของแซมจะเป็นทาสผู้มีแมววัวอยู่ในครอบครอง แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ นักแสดงตัวจริงอย่างนียองโก เจ้าของรางวัลออสการ์จาก ’12 Years a Slave’ (2014) นั้นไม่ได้เป็นทาสแมว แถมยังเป็นคนที่ไม่ชอบแมว และกลัวแมวเอามาก ๆ
ในคลิป Featurette ของหนังเรื่องนี้ นียองโกได้มีโอกาสพูดถึงการเข้าฉากกับน้องแมวว่า “ถ้าใครที่รู้จักฉัน จะรู้ว่าฉันไม่ชอบแมวเลย ฉันกลัวมันมาก ฉันคิดว่าแมวนี่ก็คือสิงโตตัวเล็กดี ๆ นี่เอง นี่คือสิ่งที่ฉันรู้สึกเกี่ยวกับแมวก่อนที่ฉันจะเล่นหนังเรื่องนี้”
นียองโกเปิดเผยเหตุผลที่ทำให้เธอตัดสินใจอยากรับบทในหนังเรื่องนี้ ซึ่งถือเป็นหนังสยองขวัญเรื่องที่ 3 ของเธอแล้ว รวมทั้งการทำงานกับผู้กำกับ ไมเคิล ซาร์โนสกี (Michael Sarnoski) และวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ 2 ภาคแรก รวมทั้งโปรดิวเซอร์ของภาคนี้อย่าง จอห์น คราซินสกี (John Krasinski) แม้ว่าสิ่งที่ดูจะเขย่าขวัญมากกว่า ก็คือบรรดาเจ้าแมวลายวัวที่เธอต้องร่วมแสดงทั้งเรื่องก็ตาม
“ตอนที่ฉันอ่านบท ฉันชอบตัวละครตัวนี้มากค่ะ และฉันก็ชอบเรื่องราวที่ไมเคิลเล่าผ่านหนังเรื่องนี้ด้วย สิ่งที่เขาเพิ่มเข้ามาในจักรวาลนี้มันเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก และเจ้าแมวนั่นก็เป็นจุดสนใจสำหรับฉันด้วย”
“ฉันถามผู้กำกับ ไมเคิล ซาร์โนสกี ว่าจะมีวิธีไหนบ้างไหมที่จะเปลี่ยนสัตว์ตัวนี้แทนได้ ฉันแนะนำว่าเอาเป็นตัวอาร์มาดิลโล (Armadillo) แทนได้ไหม ฉันพยายามจะโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนชนิดสัตว์ เพราะว่าฉันต้องการเล่นบทนี้ แต่เขาก็บอกว่า ‘ไม่ได้ ต้องเป็นแมวเท่านั้น'”
และเพื่อต้องการจะเอาชนะการกลัวแมว นียองโกจึงต้องปรึกษากับนักบำบัดเพื่อปรับทัศนคติให้สามารถอยู่ร่วมกับแมว และพาแมววิ่งอุ้มหนีตายได้ตลอดทั้งเรื่อง “ฉันจึงต้องเอาชนะความกลัวแมว ฉันต้องเข้ารับการบำบัด ฉันเลยต้องเรียนรู้มากมายกับตัวเอง เกี่ยวกับเจ้าสัตว์ตัวนี้ก่อน เพื่อให้ฉันรู้สึกสบายใจที่จะทำงานกับมัน”
การบำบัดทำให้เธอหายกลัวแมวได้ในที่สุด และเธอยังได้มีโอกาสอุ้มน้องโฟรโดมาเดินพรมแดงในงานรอบพรีเมียร์ของหนังเรื่องนี้ด้วย “นักบำบัดพาแมวมาที่บ้านของฉัน ทีแรกเริ่มต้นจาก 2 ตัวก่อน วันแรกพวกเขาปล่อยให้แมวเดินเล่นรอบ ๆ ฉัน และฉันก็ถามกับผู้หญิงที่พาแมวมาด้วยว่า ทำไมเขาถึงต้องทำแบบนั้น ๆ จนวันถัดมา ฉันลองแตะแมวตัวหนึ่งด้วยนิ้วเดียวแบบช้า ๆ ฉันจึงค่อย ๆ เริ่มรู้สึกสบายใจมากพอที่จะอุ้มแมวในหนัง”
ส่วนเจ้าโฟรโด แมวลายวัวในหนังเรื่องนี้ เป็นแมวที่ผู้กำกับเป็นคนคัดเลือกร่วมกับบริษัทรับฝึกสัตว์ในลอนดอน ซึ่งเจ้าแมวลายวัวตัวนี้รับบทโดย ชนิทเซิล (Schnitzel) เป็นตัวแสดงหลัก และนิโค (Nico) เพื่อนซี้ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เป็นลูกแมว มาทำหน้าที่ตัวแสดงแทนของเจ้าชนิทเซิลอีกที เพราะเจ้านิโคดันเป็นแมวลายวัวอีกตัวที่หน้าตาคล้ายกับชนิทเซิลมาก ๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีเจ้าสแตนลี (StanLee) พี่ชายหัวส้มของชนิทเซิลที่รับบทเป็นแมวในร้านชำ ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งชนิทเซิลและสแตนลีก็เคยแสดงเป็น 1 ในแก๊งเด็ก ๆ เฟลอร์เคน (Flerken) แมวเอเลี่ยนจากหนัง ‘The Marvels’ (2023) อีกด้วย
หลังจากที่นียองโกผ่านอุปสรรคลายวัวจนกระทั่งปิดกล้องได้เป็นที่เรียบร้อย ในอีกไม่กี่เดือนถัดมาของปี 2023 เธอก็ต้องเจอกับเรื่องร้าย ๆ ในชีวิต เมื่อเธอต้องเลิกรากับเซเลมา มาเซเคลา (Selema Masekela) แฟนหนุ่มพิธีกรรายการโทรทัศน์และนักวิจารณ์กีฬาที่คบหาได้ 1 ปี แม้เธอจะโพสต์ความรู้สึกอกหักของเธอที่เทียบไม่ได้เลยกับความทุกข์ทรมานของโลกใบนี้ แต่ความอกหักก็ส่งผลให้เธอหัวใจแตกสลายไม่น้อย
“ฉันเคยมีปัญหาในการเชื่อมั่นที่จะมีความสุข ฉันเองรู้สึกว่าตัวฉันกำลังเสี่ยงกับภาวะซึมเศร้า แต่ว่ายังไปไม่ถึงขั้นนั้น แต่ว่าก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน ก่อนจะมีเสียงในหัวบอกกับฉันว่า ‘ลองหาแมวสักตัวมาเลี้ยงดูสิ'”
นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้เธอชวนเพื่อนสนิทของเธอไปสถานสงเคราะห์สัตว์ ตอนแรกเธอยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเสียงในหัว แต่เมื่อเธอได้เห็นโปสเตอร์ใบหนึ่งที่เขียนประโยคว่า ‘เพิ่งเลิกกับแฟนเหรอ ? งั้นรับแมวไปเลี้ยงสิ’ แน่นอนว่า Tagline นี้โดนใจเธออย่างแรง จนในที่สุด นียองโกก็ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน เป็นแมวส้มอายุ 2 ขวบ ชื่อ โยโย (Yoyo)
นียองโกได้เขียนเล่าถึงคุณสมบัติของเจ้าโยโยว่า “น้องชอบเข้ากับคน/น้องรักในอาหาร/ชอบเล่นกับไม้ตกแมว/ระมัดระวังมากและไม่ค่อยทำของหล่น/ชอบดื่มน้ำจากน้ำพุแมวเท่านั้น/แมลงไม่มีโอกาสมีชีวิตรอดในบ้าน/ไม่ไว้ใจในอาหารเสริม !” จากคนที่เคยกลัวแมว ทุกวันนี้เราจึงได้เห็นนียองโกอวดความน่ารักของโยโย เจ้านายตัวส้มของเธอผ่านทาง Instagram อยู่บ่อย ๆ
เธอเล่าถึงอาการของคนที่เพิ่งเป็นมี้ (แม่แมว) บนโพสต์ของเธอว่า “ฉันไม่เคยเข้าใจคนที่โทรศัพท์มีแต่รูปถ่ายและวิดีโอสัตว์เลี้ยงของพวกเขา แต่ตอนนี้ฉันเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ! มันอาจดูเหมือนว่าฉันได้ช่วยโยโย แต่จริง ๆ แล้วโยโยกำลังช่วยฉันต่างหาก”
นียองโกเล่าว่า หลังจากที่ศูนย์สงเคราะห์ได้จับคู่เธอกับเจ้าโยโย และทดลองเลี้ยงอยู่ 2 วัน เธอเล่าว่า “แมวตัวนี้มันคงจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันได้เรียนรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ว่ายาถอนพิษที่ดีที่สุดเมื่อคุณรู้ตัวว่าตัวเองเคยถูกดูแลมาอย่างไม่ดีพอ นั่นก็คือต้องดูแลบางสิ่งบางอย่าง และเมื่อฉันได้ดูแลโยโย มันก็เปิดใจให้กับฉัน”
“เมื่อก่อนมีคนบอกฉันว่าเมื่อก่อนฉันมีนิสัยแมว พอตอนนี้ฉันมีแมวแล้ว ฉันจึงเพิ่งเข้าใจ จริง ๆ แล้วพวกมันก็เหมือนกับคนเรานี่แหละ”