Gru และเหล่า Minions กลับมาสร้างความสุขให้แก่ผู้ชมอีกครั้งใน ‘Despicable Me 4’ โดยเข้าฉายวันแรกในสหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ 3 กรกฎาคม 2024 เพื่อให้สามารถทำรายได้ในวันหยุดวันชาติของสหรัฐฯ (4 กรกฎาคม 2024) ได้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด Variety ได้รายงานว่า ‘Despicable Me 4’ ภาพยนตร์แอนิเมชันล่าสุดของ Universal และ Illumination ทำรายได้ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2024 ไป 27 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการทำรายได้วันหยุดยาว 5 วัน (3 – 7 กรกฎาคม 2024) ในสหรัฐฯ ได้อย่างน่าสนใจ โดยสื่อต่างประเทศคาดว่าอาจทำได้ถึง 120 ล้านเหรียญ
นั่นทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ‘Despicable Me 4’ อาจทำรายได้ 5 วันแรก สูงสุดของแฟรนไชส์ แซงหน้าเจ้าของสถิติในปัจจุบันอย่าง ‘Minions: The Rise of Gru’ ที่ทำรายได้ 5 วัน ในช่วงวันหยุดวันชาติสหรัฐฯ เมื่อปี 2022 ไป 123 ล้านเหรียญ ในขณะที่ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องอื่น ๆ ของแฟรนไชส์ ทำรายได้เปิดตัวในช่วงวันหยุดวันชาติสหรัฐฯ ดังนี้
- ‘Despicable Me 3’ (เปิดตัว 30 มิถุนายน 2017) : 99 ล้านเหรียญ
- ‘Despicable Me 2’ (เปิดตัว 3 กรกฎาคม 2013) : 83.5 ล้านเหรียญ
- ‘Despicable Me’ (เปิดตัว 9 กรกฎาคม 2010) : 56 ล้านเหรียญ
สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชันที่เข้าฉายก่อนหน้านี้อย่าง ‘Inside Out 2’ ทำรายได้ในวันเดียวกันไป 7.1 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 496.5 ล้านเหรียญ และทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ เรียบร้อยแล้ว มาอยู่ที่ 1,093 ล้านเหรียญ
อีกหนึ่งภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง ‘A Quiet Place: Day One’ สามารถทำรายได้ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2024 ไปได้ 4.4 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 68.6 ล้านเหรียญ และ ‘Bad Boys: Ride or Die’ ก็ทำรายได้ในวันเดียวกันไป 1.2 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 169.1 ล้านเหรียญ
ด้วยการทำรายได้ข้างต้นนี้ ทำให้ตลาดภาพยนตร์ซัมเมอร์ของสหรัฐฯ ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง หลังจากที่ ‘The Fall Guy’ และ ‘Furiosa: A Mad Max Saga’ เปิดหัวซัมเมอร์ปี 2024 นี้ อย่างน่าผิดหวัง ด้วยการทำรายได้เพียง 174.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างประมาณ 125 – 150 ล้านเหรียญ และ 171.5 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 168 ล้านเหรียญ
แต่สำหรับภาพยนตร์ระดับมหากาพย์อย่าง ‘Horizon: An American Saga Chapter 1’ ของ เควิน คอสต์เนอร์ (Kevin Costner) ที่เพิ่งเปิดตัวสุดสัปดาห์ก่อนนั้น ทำรายได้ในวันเดียวกันไป 1.1 ล้านเหรียญ ทำให้รายได้รวมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 14.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญ ซึ่งต้องรอดูว่า ‘Chapter 2’ ที่จะฉายในเดือนสิงหาคม 2024 จะได้รับความสนใจมากขึ้นไหม ในขณะที่คอสต์เนอร์เพิ่งเปิดกล้อง ‘Chapter 3’ ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้