สิ่งที่หลายคนรอคอยมากที่สุดในหนัง ‘Deadpool & Wolverine’ หนัง MCU เรื่องแรกและเรื่องเดียวของปีที่กำลังเข้าฉายในเวลาอันใกล้นี้ก็คงหนีไม่พ้นความโหด ห่าม ฮา ติดเรต R ตามสไตล์ ‘Deadpool’ ที่นับเป็นจุดขายของแฟรนไชส์นี้มาโดยตลอดเช่นเดียวกับ 2 ภาคแรก ทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังเรื่องแรกของ MCU ที่ถูกจัดเรต R (และถ้าไม่ผิดพลาด ‘Blade’ ก็จะอยู่ในขบวนหนังเรต R เรื่องถัดไปของ MCU ด้วยเช่นกัน) ด้วยเช่นกัน เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า ปกติแล้ว Marvel Studios ที่อยู่ภายใต้บ้านใหญ่ Disney มักจะเคร่งครัดกับการควบคุมเนื้อหาให้เหมาะสมกับทุกเพศทุกวัยมาโดยตลอด

แน่นอนว่าหลายฝ่ายก็แอบมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อผู้ชมวัยเด็กที่มักจะเป็นกลุ่มผู้ชมหลัก ๆ ของหนังแนวซูเปอร์ฮีโร ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการรับชมหนังแอนตี้ฮีโรเกรียน ๆ ที่เต็มไปด้วยฉากความรุนแรง คำหยาบคาย และพฤติกรรมห่าม ๆ ที่ไม่ควรให้น้อง ๆ ทำตาม แต่ดูเหมือน ไรอัน เรย์โนลส์ (Ryan Reynolds) นักแสดงเจ้าของบท ‘Deadpool’ จะไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้มากนัก

เพราะเขาได้เปิดเผยกับพ่อหนุ่มวูล์ฟเวอรีน ฮิว แจ็กแมน (Hugh Jackman) ในบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ The New York Times ว่า เขาเคยให้ เจมส์ เรย์โนลส์ (James Reynolds) ลูกสาวคนโตวัย 9 ขวบ กับแม่วัย 70 ปีของเขาดูหนัง ‘Deadpool & Wolverine’ ด้วยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Deadpool

“คือผมไม่ได้บอกว่าจะต้องให้คนอื่นทำตามนะครับ แต่ลูกสาววัย 9 ขวบของผมนั่งดูหนังเรื่องนี้กับย่าของเขาที่อายุเกือบ 70 ปีแล้ว และมันก็เป็นช่วงเวลาและหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลย พวกเขานั่งหัวเราะกันจนท้องคัดท้องแข็ง และเข้าถึงอารมณ์ที่ผมหวังไว้ว่าคนอื่น ๆ จะเข้าถึงได้มากที่สุดด้วย”

คุณพ่อลูก 4 อย่างไรอันยังเปิดเผยถึงเหตุผลที่เขายินยอมให้ลูกสาวดูหนังเรต R ในขณะที่พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะคอยห้ามปรามไม่ให้ลูก ๆ ดูหนังเหล่านี้

“ตอนที่ผมได้ดูหนังเรต R เมื่อตอนผมยังเด็ก มันทำให้ผมรู้สึกประทับใจมาก เพราะผมรู้สึกว่า คนที่ทำหนังไม่ได้รู้สึกว่าต้องทำหนังแบบออมมือน่ะครับ และมันก็กลายมาเป็นแรงบันดาลใจอย่างมากให้กับหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมต้องการจะทำในปัจจุบันด้วย”

สมาคมภาพยนตร์อเมริกัน หรือ The Motion Picture Association (MPA) ได้พิจารณาจัดระดับความเหมาะสมของเนื้อหาของ ‘Deadpool & Wolverine’ อยู่ที่เรต R เช่นเดียวกับ ‘Deadpool’ (2016) และ ‘Deadpool 2’ (2018) เนื่องจากมีเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความรุนแรง การใช้ภาษา และเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่แตกต่างจากเนื้อหาอื่น ๆ ของ MCU ที่มักจะมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ชมทุกวัย และส่วนใหญ่มักถูกจัดเรตไว้ที่ PG-13 หรือเนื้อหาที่ผู้ชมที่มีอายุต่ำกว่า 13 ปีต้องมีผู้ใหญ่คอยให้คำแนะนำ

จนถึงขนาดที่ เวด วิลสัน เล่นมุกใน Trailer ตัวหนึ่งของหนังว่า เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ประธานของ Marvel Studios ยอมให้หนังเรื่องนี้เป็นเรต R ก็จริง แต่ยาเสพติดอย่างโคเคนถือเป็นสิ่งต้องห้ามของ MCU จนถึงขนาดที่ไฟกีเองต้องออกมาบอกว่าเขาเองไม่ได้เป็นคนออกคำสั่งนี้โดยตรง แต่การหยิบเอาเรื่องยาเสพติดมาติดตลกมันก็ดูจะเกินเบอร์ไปหน่อย “เราเปิดกว้างให้กับทุกอย่างนะครับ แต่บางทีผมอาจจะเป็นคนที่เคร่งครัดนิดหน่อยนะเมื่อต้องพูดถึงเรื่องของการใช้ยาเสพติด ผมแค่คิดว่า ‘เอิ่ม มันคงไม่ใช่เรื่องน่าตลกเท่าไหร่'”

แต่แน่นอนแหละว่า แม้จะมีการจัดเรตไว้แล้ว หรือมีพ่อแม่คอยห้ามปรามก็จริง แต่สุดท้ายยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เพราะในที่สุด เด็ก ๆ ก็ยังพยายามจะหาหนัง ‘Deadpool’ 2 ภาคแรกมาดูจนได้ ในบทสัมภาษณ์กับ Variety เรย์โนลส์, แจ็กแมน และผู้กำกับ ชอว์น เลวี (Shawn Levy) เคยพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับเนื้อหาเรต R ของหนังเรื่องนี้ ในขณะที่เลวีกับแจ็กแมนดูจะเป็นห่วงเยาวชน และไม่สนับสนุนให้เด็ก ๆ ไปหามาดูก่อนวัยอันควร จะมีก็แต่อีตาเรย์โนลส์นี่แหละ…

Ryan Reynolds Hugh Jackman Deadpool and Wolverine

เลวี: “คือมันเห็นได้ชัดนะครับว่าหนังเรื่องนี้มันเป็นเรต R ผมเองไม่อยากจะโดนทัวร์ลงเพราะถูกหาว่าไปยุยงส่งเสริมนั่นนี่”

เรย์โนลส์: “แต่ผมทำนะ เด็ก ๆ หลายคนได้ดู ‘Deadpool’ กับ ‘Deadpool 2’ ไปแล้ว ลูก ๆ ของผมเองก็ได้ดูแล้ว และพวกเขาก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่มันไม่ได้ถูกจัดเรต R แค่เพื่อจะให้มันเป็นเรต R หรอกนะครับ แต่ส่วนใหญ่มันเป็นเพราะตัวละครน่ะ ตัวละครในหนังมันหยาบคายมาก สมองของเขา (Deadpool) มันอย่างกับไข่เจียวที่ถูกกินไปแล้วครึ่งหนึ่งในกะโหลกของเด็ก 7 ขวบอะไรแบบนั้น”

แจ็กแมน: “งั้นผมต้องแสดงความรับผิดชอบหน่อยละ ห้ามพาเด็ก 2 ขวบไปดูเป็นอันขาด”

เลวี: “โอเค ได้นะ กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 3 ขวบ”

เรย์โนลส์: “แล้วก็อย่าพาคนอายุ 114 ปีไปดูด้วยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่มีชีวิตรอดออกไปจากโรง แล้วก็อย่าพาคนที่ใส่ผ้าอ้อมมาดูด้วยเป็นอันขาด”

และแน่นอนว่า หลายคนก็อาจสงสัยว่าทำไมเรย์โนลส์ถึงตั้งใจให้แฟรนไชส์ ‘Deadpool’ เป็นหนังแอนตี้ฮีโรที่เป็นเรต R มันไม่ใช่การวางเนื้อหาของหนังที่หวือหวาแตกต่างไปจากตลาด แต่มันคือความตั้งใจลึก ๆ ของเขาที่ต้องการเล่าเรื่องราวของคู่หูนักหยุมหัวที่เต็มไปด้วยความสมจริง

“ผมไม่คิดว่าคุณจะทำหนังแบบนี้ออกมาได้ ถ้าคุณไม่ทุ่มเทกับมันอย่างเต็มที่ ผมต้องฝึกซ้อมร่างกาย แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องของการสร้างรูปลักษณ์เท่านั้น แต่มันเกี่ยวกับการฝึกให้สมองจดจ่ออยู่กับคาแรกเตอร์ด้วย ตัวละครตัวนี้มันเปลี่ยนชีวิตของผมไปทั้งหมดเลย มันเหมือนเป็นยานแม่ของผม ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่พวกเราทำงานแบบปล่อยออโตเลยสักครั้ง”

“แล้วเรตติงมันก็มีผลต่ออะไรหลาย ๆ อย่าง จริง ๆ แล้วเราตั้งใจจะหลีกเลี่ยงการใช้เรตติงเพื่อต้องการสร้างความตกตะลึง แต่ใช้เรตติงเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของผู้ชาย 2 คนนี้ ซึ่งมันจะดูสมจริงกว่าที่คุณจะทำได้หากเราถูกจำกัดไว้ด้วยเรต PG-13”