• ชื่อภาพยนตร์ – จำเนียร วิเวียน โตมร (ความยาว ๑๑๕ นาที)
  • เข้าฉาย – รอบพิเศษ วันที่ ๒๘ ธันวาคม และ ฉายจริง วันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๙
  • ประเภท – โรแมนติก คอมเมดี้
  • ผู้กำกับ – ยอร์ช ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์
  • นักแสดงนำ – ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต, บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ

เรื่องย่อ – “วิเวียน (ชมพู่ อารยา)” สาวโสดผู้แสนงมงายพร้อมเพื่อนสาวคู่ใจชักชวนกันไปไหว้ขอพรหาคู่ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงได้พบกับ “จำเนียร (บอย ปกรณ์)” และ “โตมร (อาเล็ก ธีรเดช)” สองเสือสุดแพรวพราวเพื่อนซี้หัวโจก “แก๊งขาลอย” และด้วยอะไรไม่รู้สินั่น น่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาที่ดูช่างสวยสะดุดตาพาให้หลงใหล “จำเนียร” และ “โตมร” จึงใฝ่ที่จะเป็นหนุ่มในฝันของ “วิเวียน” เมื่ออยากจะกลายเป็นคนดีจึงไปขอลาออกจาก “แก๊งขาลอย” การใช้ชีวิตคู่ เอ๊ย! ขี้ เห้ย ‘คี่!’ ร่วมกัน ๓ คนจึงเกิดขึ้น !

Play video

ก่อนไปดูได้เห็นตัวอย่างหนังหลายต่อหลายครั้งก็ยังรู้สึกแบบเดิมซ้ำ ๆ ว่า “น่าจะฝืด” เนื่องจากไม่รู้สึกถึงความหวือหวา แปลกใหม่ หรือความตลกที่จะได้จากคนสวยหล่อ และเดา ๆ ว่าน่าจะหมดมุกแล้วก็คงวน ๆ กลับไป กลับมา กับนักแสดงเดิม ๆ หลายปีที่ผ่านมา “รฤก  และ ผกก. ยอร์ช ฤกษ์ไกร” เองก็มีเรื่องที่ตลกแต่ยังไม่มีเรื่องไหนสามารถทลายกำแพงของ “แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า” ที่เคยโด่งดังมากและถือเป็นผลงานการันตีฝีมือ “ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้” ที่เรียกเสียงฮาจนต้องซื้อแผ่นกลับมาดูซ้ำที่บ้านลงได้

จำเนียร – บอย ปกรณ์(ซ้าย), วิเวียน – ชมพู่ อารยา(กลาง), โตมร – อาเล็ก ธีรเดช(ขวา)

  • บอย ปกรณ์ รับบท “จำเนียร” – “หล่อ ซกมก ตลก และรักเพื่อน”
  • ชมพู่ อารยา รับบท “วิเวียน” – “สโลว์ไลฟ์ งมงาย สู้ตายเพื่อผู้ชาย ๒ คน”
  • อาเล็ก ธีรเดช รับบท “โตมร” – “ทะเล้น ทะลึ่ง มือไว แต่เพื่อนข้าใครอย่าแตะ”

“วิเวียน” กับชุดที่เปลี่ยนสีทุกวัน : ภาพยนตร์ “จำเนียร วิเวียน โตมร” กำหนดฉายวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๙

ภาพยนตร์ “จำเนียร วิเวียน โตมร” กำหนดฉายวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๙

รีวิว (๗/๑๐)

“จำเนียร วิเวียน โตมร” ไม่ได้ ‘ตลกมาก’ หรือ ‘โคตรดี‘ จนอยากร้องก้องป่าวประกาศ แต่ “จำเนียร วิเวียน โตมร” สนุกกว่าหลายเรื่อง (ของ รฤก และ ผกก. ยอร์ช ฤกษ์ไกร) ในช่วงที่ผ่านมา ๒-๓ ปีนี้

ชอบ

  • ตัวละคร จำเนียร วิเวียน และโตมร มาในลุคการแต่งกายแบบ “เรโทร” จะบอกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่ “จำเนียร วิเวียน โตมร” ตั้งใจให้ออกมาแบบตลกเบาสมอง ไร้เหตุผล เพื่อให้เหมาะกับการสร้างบรรยากาศผ่อนคลายในโปรแกรมวันหยุดยาว
  • บทเลือกที่จะใช้จุดขายหลักของ “ชมพู่ อารยา” ในเรื่องของการเป็นคนสวยใส่อะไรก็ได้ไม่ผิด มาสวมให้ “วิเวียน” ใส่ชุดสีตรงตามวัน แถมมาด้วยแว่นกันแดดอันโต และกระเป๋าถือเล็ก ๆ น่ารัก แบบคุณหนูผู้ดี ยังมีกิมมิคเล็ก ๆ เป็นการใส่ถุงมือแบบครึ่งมือแสนเก๋ไก๋ ยิ่งทำให้การตั้งใจเรโทรของหนังครั้งนี้ทำได้เต็มที่มีชีวิตชีวาสนุกสนานสุด ๆ
  • อีกสองพระเอกสมาชิก “แก๊งขาลอย” ก็แต่งตัวย้อนยุคกันได้สนุกเข้ากับคาแรคเตอร์เดิมของตัวเองไม่แพ้กัน ผู้ชายขายาวนี่ก็ใส่กางเกงอะไรก็ได้ไม่ผิดอีกแล้ว
  • ขอกล่าวว่านี่เป็นการกลับมาของความตลกที่ไม่ต้องใช้การเล่นคำมาก แต่สามารถใช้สถานการณ์ที่หลายหลากมาประกอบช่วยส่งให้บรรยากาศสนุกสดชื่อขึ้น
  • “ซูโม่ กิ๊ก” นักแสดงสมทบ รับบทเป็น “ขจร” หัวหน้าใหญ่ “แก๊งขาลอย” ขโมยซีนจากตัวเอกได้หลายครั้งหลายคราจนน่าประหลาดใจ รู้สึกโดดเด่นน่าจดจำกว่านักแสดงสมทบคนอื่นในเรื่องอยู่มาก บทร้าย ๆ แต่กลับแสดงได้น่ารักและยังน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน
  • Special Effect แบบหัก ๆ ทื่อ ๆ ใช้ได้ค่อนข้างถูกจังหวะ และเหมาะกับสถานการณ์ เป็นตัวช่วยที่ดีมากอีกอย่างสำหรับการปล่อยของในเรื่องนี้ที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นจังหวะแบบนี้มากนักในหนังของ “ผกก. ยอร์ช ฤกษ์ชัย”

สิ่งที่ขัดใจ

  • “จำเนียร” หรือ “บอย ปกรณ์” ถูกวางบทให้ดูซกมกนิด ๆ อาจเพราะทำเพื่อเอาใจแฟน ๆ แต่การที่ไปดูแบบไม่ได้เป็นแฟนคลับใครเลยทำให้ฉากเปิดตัว “จำเนียร” เห็นแล้วขนลุกจนร้อง “อี๋” ยาว ๆ
  • บางช่วงบางตอนทำให้รู้สึกว่า “นี่แหละ หนังเพื่อแฟนเซอร์วิส” จริง ๆ ที่หากไม่ใช่แฟนคลับของเหล่าดารานำอาจไม่ได้ชอบ …และหาวได้
  • สำหรับ “วิเวียน” นอกจากการแต่งตัวที่โดดเด่นแล้ว การกลับมาเล่นหนังของ “ชมพู่ อารยา” ไม่ได้แปลกหรือแตกต่างไปจาก “นางสาวโฮ” ในเรื่อง “คุณนายโฮ” ก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย ยังคงความน่ารัก แบ๊ว ๆ เหมือนเดิม แต่อาจต่างกันตรงที่เรื่องนี้ได้เล่นเป็นคนสมหวังในความรัก “และสวยมาก”
  • ไม่มีอะไรจะติแล้ว เนื่องจากเป็นหนังตลกเบาสมองจะสนใจเรื่องบทหรือเนื้อเรื่องให้วุ่นวายทำไมเล่า !

ภาพยนตร์ “จำเนียร วิเวียน โตมร” กำหนดฉายวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๙

สรุป

เรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับลูกเล็กเด็กแดงนัก หากพาลูกไปดูก็อย่าลืมแนะนำด้วยว่าอันไหนไม่ควรทำตาม แนะนำว่าเหมาะกับวัยรุ่นขึ้นไป เพราะหนังเองก็แทรกมุกทะลึง ทะเล้น และใช้คำหยาบคาย มาอยู่เป็นระยะ ๆ แต่รับรอง “ได้เสียงหัวเราะ” กลับมาแน่ ๆ และไม่ทำให้รู้สึกเสียดายค่าตั๋วสำหรับหนัง “โรแมนติกคอมเมดี้” ของคนไทย ถึงแม้เราจะไม่ใช่แฟนคลับเหล่านักแสดงนำที่ตั้งตารอดูฉากแฟนเซอร์วิสก็ตาม