แม้ว่า ณ เวลานี้ อาร์มี แฮมเมอร์ (Armie Hammer) นักแสดงหนุ่มวัย 37 ปี ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นนักแสดงดาวรุ่งผู้มีผลงานการแสดงในหนังคุณภาพมากมาย อาทิ ‘The Man from U.N.C.L.E.’ (2015) และ ‘Call Me By Your Name’ (2017) จะกลายเป็นดาวดับ หลังจากที่เขาถูกออกมาแฉถึงพฤติกรรมและรสนิยมทางเพศที่ผิดปกติ รวมทั้งรสนิยมแบบ Cannibalism ที่แม้ว่าเขาจะหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาตามกฎหมาย แต่ข้อกล่าวหาก็ส่งผลทำให้เขาแทบหมดสิ้นหนทางในอาชีพนักแสดงไปแทบจะทันที

แต่สิ่งที่ดูจะไม่น่าจะเชื่อมโยงกันได้ก็คือ การแสดงของแฮมเมอร์ ในบทบาทพี่น้องวิงเคิลวอสส์ (Winklevoss) โจทก์เก่าผู้ฟ้องร้องของ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Facebook และบริษัท Meta ที่ปรากฏในหนัง ‘The Social Network’ (2010) คือแรงบันดาลใจสำคัญให้ จัสติน เบสต์ (Justin Best) วัย 26 ปี หันมาสนใจในกีฬาเรือพายกรรเชียง และกลายเป็นนักกีฬาทีมชาติเช่นเดียวกับฝาแฝดวิงเคิลวอสส์

เบสต์ได้เล่าถึงแรงบันดาลใจนี้ในบทสัมภาษณ์ Exclusive ของเว็บไซต์ People ถึงเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาหันเหความสนใจจากกีฬาทางบก สู่กีฬาทางน้ำ และกลายมาเป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติที่สามารถคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับกีฬาเรือพายกรรเชียงของทีมสหรัฐอเมริกาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ประจำปี 2024 ที่จัดขึ้น ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา

Justin Best
AP

“ตอนนั้นผมอยู่ในช่วงระหว่างการเป็นนักกีฬา และกำลังจะเข้าเรียนปีแรกในระดับมัธยมปลาย แต่ผมได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองจากการเล่นอเมริกันฟุตบอล ผมเลยคิดว่าจะไม่เล่นฟุตบอลอีกต่อไปแล้ว และตอนนั้นในคืนหนึ่งของฤดูร้อน พ่อกับแม่ของผมกำลังนั่งดูหนัง ‘The Social Network’ ที่มีการแสดงบทบาทของพี่น้องวิงเคิลวอสส์ พวกเขาเป็นนักพายเรือโดยธรรมชาติอยู่แล้ว พ่อกับแม่ก็เลยพูดกับผมว่า ‘เนี่ย รูปร่างของลูกดูเหมือนกับนักแสดงที่รับบทเป็นพวกเขาเลยนะ'”

ใน ‘The Social Network’ (2010) หนังชีวประวัติและการก่อตั้งแพลตฟอร์มเปลี่ยนโลก ผลงานการกำกับของ เดวิด ฟินเชอร์ (David Fincher) นอกจากเราจะได้เห็นเรื่องราวชีวิตของซักเกอร์เบิร์ก และการกำเนิด Facebook แล้ว ตัวละครสำคัญที่มีบทบาทในการก่อกำเนิดก็คือ พี่น้องวิงเคิลวอสส์ ที่ประกอบไปด้วยไทเลอร์ (Tyler Winklevoss) และคาเมรอน (Cameron Winklevoss)

แฮมเมอร์ต้องรับบทแสดงทั้ง 2 บทบาท โดยเขาจะแสดงบทบาทของไทเลอร์เป็นหลัก แสดงเป็นคาเมรอนเฉพาะในบางฉาก และให้ จอช เพนซ์ (Josh Pence) มาแสดงแทนในหลาย ๆ ฉากด้วยการแปะใบหน้าของแฮมเมอร์เข้าไปแทนที่

นอกจากไทเลอร์และคาเมรอน จะเคยมีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจแพลตฟอร์ม TheFacebook ก่อนที่พวกเขาจะฟ้องซักเกอร์เบิร์กในข้อหาขโมยไอเดียที่พวกเขาคิด พวกเขายังมีความสามารถด้านกีฬาเรือพายกรรเชียง ทั้งคู่เคยเป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติสหรัฐอเมริกา เข้าแข่งขันประเภท 2 ฝีพาย คว้าอันดับที่ 6 ในการแข่งขันโอลิมปิกที่จัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนในปี 2008

เกล็นน์ (Glenn Best) และจีนน์ เบสต์ (Jeanne Best) พ่อและแม่ของจัสตินได้ให้สัมภาษณ์กับ Delaware Online ถึงช่วงเวลาที่พวกเขาดูหนัง ‘The Social Network’ และแนะนำให้ลูกชายที่มีร่างกายส่วนบนใหญ่โตลองเล่นกีฬาเรือพาย หลังจากได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ หลังจากการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลของโรงเรียนมัธยม

จัสตินฝึกซ้อมจนกลายเป็นนักกีฬาพายเรือกรรเชียงระดับทีมชาติ และได้เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกในการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปี 2020 ด้วยการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันประเภททีมชาย 8 ฝีพาย

Armie Hammer The Social Network

และในการแข่งขันครั้งนี้ จัสตินเป็น 1 ในทีมนักกีฬาเรือพายกรรเชียงของสหรัฐอเมริกา ที่เข้าร่วมการแข่งขันในประเภทประเภททีมชาย 4 ฝีพาย ร่วมกับเลียม คอร์ริแกน (Liam Corrigan), ไมเคิล เกรดี (Michael Grady) และนิก มีด (Nick Mead) โดยสามารถเอาชนะทีมจากสหราชอาณาจักร และเฉือนชนะทีมนิวซีแลนด์ไปเพียง 0.85 วินาที คว้าเหรียญทองให้กับทีมนักกีฬาเรือพายของสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี นับตั้งแต่ที่เคยคว้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิก ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อปี 1960

จัสตินที่เพิ่งขอแฟนสาว เลนีย์ ดันแคน (Lainey Duncan) แต่งงานไปเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม เล่าถึงช่วงเวลาที่แม่ของเขาพยายามค้นหาโปรแกรมฝึกพายเรือช่วงฤดูร้อน และชมรมกีฬาเรือพายทางออนไลน์ให้ ก่อนจะเริ่มให้ลูกชายลองฝึกพายเรือในแม่น้ำ และหมั่นฝึกฝนจนกระทั่งสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเหรียญแรกในชีวิตได้สำเร็จ

“หลังจากนั้น พวกเขาก็ลองค้นหาสโมสรเรือพายใน Google และลงทะเบียนให้ผมเรียนพายเรือ ในพื้นที่ทางเหนือของรัฐเดลาแวร์และเมืองวิลมิงตัน ที่เรียกว่า Newport Rowing Club ก่อนที่ผมจะได้เริ่มเข้าค่ายฝึกพายเรือเป็นสัปดาห์แรก ซึ่งผมก็ชอบมันมาก โดยที่ไม่ได้รู้สึกลังเลอะไร”