Variety ได้รายงานว่า ‘Twisters’ ทำรายได้ในการฉายสุดสัปดาห์ที่ 4 (9 – 11 สิงหาคม 2024) ไป 15 ล้านเหรียญ ซึ่งส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 222.3 ล้านเหรียญ และรายได้รวมจากต่างประเทศอีก 87.8 ล้านเหรียญ
นั่นหมายความว่า ‘Twisters’ ทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 300 ล้านเหรียญ ได้สำเร็จ มาอยู่ที่ 310.1 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 9 ในปี 2024 ที่ทำรายได้ถึงระดับนี้ และอยู่ในระดับน่าพึงพอใจภายใต้การแข่งขันกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรสุดร้อนแรงอย่าง ‘Deadpool & Wolverine’ ที่ทำรายได้เพิ่มไปอีก 54.2 ล้านเหรียญ และเพิ่งทำรายได้ทั่วโลกผ่านหลัก 1,000 ล้านเหรียญ ไปในสุดสัปดาห์นี้
‘Twisters’ เป็นภาคต่อจากภาพยนตร์หายนะสุดฮิตในปี 1996 อย่าง ‘Twister’ โดยยังคงเล่าเรื่องของทีมนักล่าทอร์นาโดที่เสี่ยงชีวิตเพื่อติดตั้งเครื่องมือที่จะแจ้งเตือนภัยธรรมชาติสุดโหดร้ายนี้ก่อนจะสร้างความเสียหายให้แก่เมืองในชนบท โดยตัวภาพยนตร์ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกได้อย่างน่าประทับใจถึง 81 ล้านเหรียญ
แม้ว่ารายได้โดยรวมจะน่าพึงพอใจ โดยผ่านทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ และคาดว่าจะผ่านจุดคุ้มทุนที่ประมาณ 400 ล้านเหรียญได้ในอนาคต แต่ ‘Twisters’ นั้นยังไม่สามารถแซงหน้าภาพยนตร์ต้นฉบับเมื่อ 28 ปีก่อน ของผู้กำกับ ยาน เดอ บอนต์ (Jan de Bont) ที่ทำไว้ถึง 495.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 92 ล้านเหรียญ และยังตามหลังภาพยนตร์หายนะบล็อกบัสเตอร์สุดฮิตในยุคนั้นอย่าง ‘Independence Day’ ของผู้กำกับ โรลันท์ เอ็มเมอริช (Roland Emmerich) ที่ทำไว้ 814.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 75 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี ‘Twisters’ ยังคงเป็นผลงานที่ เกลน โพเวล (Glen Powell) ประสบความสำเร็จในฐานะนักแสดงอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจาก ‘Top Gun: Maverick’ (2022) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 1,495.7 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 170 ล้านเหรียญ และ ‘Anyone But You’ (2023) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 220.2 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญ