The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ได้แสดงความโกรธเคืองต่อการที่ วาคีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) ถอนตัวออกจากโปรเจกต์ภาพยนตร์โรแมนติกรักร่วมเพศของผู้กำกับ ท็อดด์ เฮย์เนส (Todd Haynes) ที่ยังไม่มีชื่ออย่างเป็นทางการ ทั้งที่กำลังจะเปิดกล้องถ่ายทำในอีก 5 วัน ที่ประเทศเม็กซิโก และกำลังพิจารณาว่าควรมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือไม่
บางแหล่งข่าวอ้างว่า ฟีนิกซ์อาจถูกฟ้องร้องจากการตัดสินใจในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการละเมิดสัญญาทั้งทางวาจาและลายลักษณ์อักษรต่อตัวภาพยนตร์ และมีรายงานว่าผู้บริหารสตูดิโอภาพยนตร์คนหนึ่งได้กล่าวว่า เขาโกรธมากที่ฟีนิกซ์ถอนตัวไปอย่างกะทันหันในครั้งนี้
นอกจากนี้ยังมีแหล่งข่าวนิรนามกล่าวอ้างว่า นี่เป็นพฤติกรรมซ้ำซากของฟีนิกซ์ที่เคยขู่จะถอนตัวจากภาพยนตร์ ‘Napoleon’ (2023) ของผู้กำกับ ริดลีย์ สกอตต์ (Ridley Scott) หากไม่มีการเขียนบทใหม่
เอเจนต์นักแสดงคนหนึ่งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์นี้ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ไม่ว่าพวกเขาจะขู่ฟ้องร้องอะไร เขา (หมายถึงฟีนิกซ์) ก็จะยอมเจรจายอมความ” ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจริงก็จะสามารถช่วยรักษาชื่อเสียงของฟีนิกซ์ไว้ได้ แต่ในทางกลับกันก็อาจทำให้ผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับในฮอลลีวูดเกิดความไม่มั่นใจในตัวฟีนิกซ์ขึ้นมา
ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีฟ้องร้องจากการที่นักแสดงถอนตัวจากโปรเจกต์ไปในนาทีสุดท้ายมาแล้วหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น คิม เบซิงเจอร์ (Kim Basinger) ที่ถูกฟ้องร้องในปี 1993 โดยบริษัท Main Line Picture เป็นมูลค่าความเสียหายถึง 8.92 ล้านเหรียญ เนื่องจากเธอได้ละเมิดสัญญาด้วยวาจาที่เธอจะรับบทนำใน ‘Boxing Helena’
ท้ายที่สุด เบซิงเจอร์ได้เจรจาจ่ายค่าเสียหายให้บริษัท Main Line Picture เป็นมูลค่า 3.8 ล้านเหรียญ เพื่อยุติการฟ้องร้อง
อีกกรณีหนึ่งคือ บรูซ วิลลิส (Bruce Willis) ที่ได้ถอนตัวจากการถ่ายทำภาพยนตร์ ‘Broadway Brawler’ ของ Disney ซึ่งท้ายที่สุดทำให้วิลลิสต้องแสดงภาพยนตร์ให้ Disney ถึง 3 เรื่อง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกฟ้องร้อง