Rotten Tomatoes เว็บไซต์รวบรวมคะแนนวิจารณ์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ได้เปิดเผยคะแนนรีวิวเบื้องต้นของ ‘Alien: Romulus’ ของผู้กำกับ เฟเด อัลบาเรซ (Fede Alvarez) จาก ‘Evil Dead’ (2013) และ ‘Don’t Breathe’ (2016) โดยได้ไปในระดับสดใหม่ถึง 85% จากนักวิจารณ์จำนวน 127 คน
นี่ถือได้ว่าเป็นการกลับมาสร้างความสดใหม่ให้กับแฟรนไชส์ ‘Alien’ อีกครั้ง ภายหลังจากภาคเล่าเรื่องต้นกำเนิดอย่าง ‘Prometheus’ (2012) และ ‘Alien: Covenant’ (2017) ได้คะแนนวิจารณ์ไป 73% และ 65% ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังเป็นคะแนนสูงสุดลำดับที่ 3 ของแฟรนไชส์นี้ รองจาก 2 ภาคแรกของแฟรนไชส์ที่เป็นระดับขึ้นหิ้งอย่าง ‘Alien’ (1979) ของ ริดลีย์ สกอตต์ (Ridley Scott) และ ‘Aliens’ (1986) ของ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ที่ได้ไป 93% และ 94% ตามลำดับ
‘Alien: Romulus’ นั้น เดินเรื่องในช่วงรอยต่อระหว่าง ‘Alien’ และ ‘Aliens’ โดยมีตัวละครหลักเป็นกลุ่มชาวอาณานิคมอวกาศที่เข้าไปสำรวจสถานีอวกาศร้างและต้องเผชิญหน้ากับ Xenomorph ที่อาศัยอยู่ในยานแห่งนี้
คำวิจารณ์ของ ‘Alien: Romulus’ ในต่างประเทศนั้น ชื่นชมไปที่การสร้างบรรยากาศใกล้เคียงกับภาพยนตร์ต้นฉบับของสกอตต์ และนำองค์ประกอบด้านความสยองขวัญจากภาพยนตร์ต้นฉบับมาใช้อย่างได้ผล รวมถึงการนำเสนอฉากเลือดสาดสุดโหด, การอ้างอิงถึงภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ และเคลี สแปนีย์ (Cailee Spaeny) ที่ได้โชว์ศักยภาพในการรับบท Rain อย่างเต็มที่
แต่ถึงกระนั้นก็มีคำวิจารณ์ว่า การใส่ Easter Egg และอ้างอิงถึงภาพยนตร์เรื่องก่อน ๆ นั้น ทำให้ ‘Alien: Romulus’ ยังไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ยืนหยัดด้วยตนเองได้อย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ดี คำวิจารณ์ส่วนใหญ่ในต่างประเทศ ได้เน้นไปที่การสร้างตัวละครที่แข็งแกร่ง และฉากสยองขวัญที่โหดได้ใจ ซึ่งทำให้แฟรนไชส์ ‘Alien’ กลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นอีกครั้ง