นอกจากบรรดา Cameo มากหน้าหลายตาที่มากันแบบล้น ๆ จนนับไม่ถ้วนแล้ว ใน ‘Deadpool & Wolverine’ ก็ยังคงมีตัวละครหลายตัวที่เคยสร้างสีสันเอาไว้ใน ‘Deadpool’ (2016) และ ‘Deadpool 2’ (2018) กลับมาในฐานะสมาชิกครอบครัวของ เวด วิลสัน หรือ Deadpool ใน Earth-10005 ด้วย 1 ในนั้นก็คือ ตัวละคร ปีเตอร์ วิสดอม เซลแมนขายรถคนธรรมดา ๆ ที่ดันได้มาทำงานเป็น 1 ในสมาชิกทีมซูเปอร์ฮีโร X-Force ใน ‘Deadpool 2’ แถมยังเป็นสมาชิกคนเดียวที่รอดชีวิตกลับมาได้เสียอย่างนั้น (เพราะ Deadpool ย้อนเวลาไปช่วยชีวิตได้ทันเวลา)
ส่วนใน ‘Deadpool & Wolverine’ ปีเตอร์ ที่รับบทโดย ร็อบ เดลานีย์ (Rob Delaney) นักแสดงตลกชาวบอสตันวัย 47 ปี กลับมาในฐานะเพื่อนร่วมงานเซลแมนขายรถยนต์ของ เวด วิลสัน ที่วางมือจากการเป็น Deadpool ไปแล้ว และกำลังเผชิญกับวิกฤติวัยกลางคน
ก่อนที่ปีเตอร์จะเป็นคนปลุกใจให้เขายอมกลับไปใส่ชุดดำแดง (ที่ปีเตอร์แอบเอาชุดมาใส่ไว้ในล็อกเกอร์) ก่อนที่เขาจะปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับบรรดากองทัพ Deadpool และตัวเขาเองก็ถูกขนานนามจากเหล่ากองทัพ Deadpool ว่า Peterpool เพราะปีเตอร์คือตำนานที่อยู่คู่กับ Deadpool ในทุก ๆ ไทม์ไลน์
ความพิเศษของบทบาทปีเตอร์ใน ‘Deadpool & Wolverine’ ไม่ได้มีแค่การรับบทเป็น Peterpool เฉย ๆ แต่ยังมีอีก 1 ความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในท้ายเครดิต ซึ่ง ไรอัน เรย์โนลส์ (Ryan Reynolds) ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความบน Instagram เกี่ยวกับการอุทิศหนังเรื่องนี้ให้กับ เฮนรี เดลานีย์ (Henry Delaney) ลูกชายวัย 2 ขวบครึ่งของร็อบที่เสียชีวิตจากเนื้องอกในสมอง ไม่กี่เดือนก่อนที่ ‘Deadpool 2’ จะเข้าฉาย
“ร็อบ เดลานีย์ ได้นำ Peterpool (หรือ Sugarbear) มาสู่กลางใจของเรา และเปลี่ยนความหมายของคำว่า ‘พ่อหนุ่มเป้าตุง’ ในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว และแสดงให้เห็นว่ามันสามารถดูดีมีสไตล์และใช้งานได้จริง และถ้าทฤษฎีอะไร ๆ มันถูกต้อง เขาอาจจะเป็น ‘Anchor Being’ คนใหม่ก็ได้นะ”
“มีอะไรมากมายเกี่ยวกับร็อบที่บางคนอาจยังไม่รู้ เขาเป็น 1 ในคนที่มีอารมณ์ขันที่ลึกซึ้งและแยบยลที่สุดเท่าที่ผมรู้จักเลย เขาเป็นนักเขียนที่งดงาม เปี่ยมไปด้วยความอ่อนไหวและขื่นขม ถ้าคุณได้อยู่ดูจนถึงเครดิตท้ายของ ‘Deadpool & Wolverine’ คุณอาจสังเกตเห็นเครดิตที่เขียนว่า “แด่ เฮนรี เดลานีย์” เฮนรีคือลูกชายของร็อบ และร็อบได้สูญเสียลูกชายตัวน้อยของเขาจากเนื้องอกในสมองในปี 2018 ช่วงเวลาที่เราเพิ่งถ่ายทำ ‘Deadpool 2’ เสร็จ”
“ผมมักจะตำหนิถ่มถุยตัวเองอยู่เรื่อย โทษฐานที่ไม่ได้ใส่ข้อความระลึกถึงเฮนรีในท้ายเครดิตของ Deadpool 2 ถ้าหากมันจะมีมุมที่ดีบ้าง ก็คือการที่มีคนได้เห็นชื่อเฮนรีมากขึ้นในเครดิตท้ายของ Deadpool & Wolverine ซึ่งในที่สุด พ่อและลูกก็ได้มาปรากฏตัวบนจอเดียวกันเสียที”
“ร็อบเป็นคนที่มีมุมมองชัดเจนเกี่ยวกับความเศร้าโศกอันเกินจะจินตนาการได้ และเขาได้นำความเศร้า ความโกรธ ความรัก และความตลกขบขัน (ใช่ ตลกขบขันนั่นแหละ) มาสู่หนังสือของเขา ‘A Heart That Works’ ซึ่งเป็นงานเขียนที่จะสำรวจความรู้สึกต่าง ๆ ที่เปิดเผยหลังจากการจากไปของเฮนรีได้อย่างน่าทึ่ง ผมโชคดีที่ได้รู้จักบ็อบ และโชคดีที่มีเพื่อนที่กล้าจะทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยว ❤️💛”
ปี 2016 ร็อบ ลีอาห์ (Leah Delaney) ภรรยา ได้พาเฮนรี ลูกชายคนที่ 3 ของครอบครัวไปเข้ารับการรักษา หลังจากเฮนรีที่เพิ่งมีอายุครบ 1 ปีไม่นาน เริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น อาเจียนและน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วมาตั้งแต่อายุ 11 เดือน
แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยก่อนจะพบว่าเฮนรีมีเนื้องอกขนาดใหญ่ที่บริเวณท้ายทอยใกล้กับก้านสมอง อันเป็นอาการบ่งชี้ของโรคมะเร็งสมอง แพทย์ชี้แจงข้อวินิจฉัยของลูกชาย 1 วันหลังจากที่ซิตคอม ‘Catastrophe’ (2015) ที่เขาแสดงได้รับรางวัล BAFTA
“เราเริ่มจมดิ่งเข้าไปภายในตัวเราเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่หนักหนาสาหัสที่สุดในโลก ผมรู้สึกเหมือนน้ำหนักตัวของผมมันเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าในทันทีทันใด ตรงหัวใจของผมมันรู้สึกเหมือนมีวังน้ำวนสีดำ ๆ หมุนวนอยู่”
เฮนรีเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอก ก่อนจะกลับบ้านได้ในเดือนมิถุนายน 2017
“เฮนรีเป็นความสุขของพวกเรา เขาฉลาด ตลก และซุกซน เรามีการผจญภัยที่แสนวิเศษมากมายร่วมกัน โดยเฉพาะตอนที่เขากลับมาบ้านหลังจากใช้ชีวิต 15 เดือนที่โรงพยาบาล เนื้องอกและการผ่าตัดทำให้เขามีความพิการทางร่างกายอย่างมาก แต่เขาเรียนรู้ภาษามือได้อย่างรวดเร็ว และพัฒนาการเคลื่อนไหวจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งด้วยตัวเอง ด้วยการใช้ก้นเล็ก ๆ ที่น่ารักของเขาในการขยับตัว ความปรารถนาของเขาที่จะมีชีวิต มีความรัก และเชื่อมโยงกับผู้อื่นนั้นช่างลึกซึ้งมาก ๆ”
จนกระทั่งเดือนมกราคม ปี 2018 แพทย์ตรวจพบว่ายังคงมีเซลล์มะเร็งหลงเหลืออยู่ ก่อนที่เฮนรีจะโบยบินจากห้องนั่งเล่น จากพ่อ แม่ และพี่ชาย 2 คนของเขาไปตลอดกาล
“ผมนอนกับเขา ลีอาห์กอดและเต้นรำกับเขา ส่วนพี่ชายของเขาชวนเขาเล่นและอ่านหนังสือให้เขาฟัง ในบ้านมีแค่เรา 5 คน เป็นคน 5 คนที่รักกันและต้องการกันและกัน เฮนรีลืมตาและมองเข้าไปในดวงตาของลีอาห์ แล้วราว ๆ 05.00 น. ของเช้าวันรุ่นขึ้นเขาก็เสียชีวิต”
“ผมดีใจมากที่เฮนรีเสียชีวิตที่บ้าน ผมดีใจที่เขาได้จากไปในอ้อมอกของแม่ผู้แสนสวยที่รักเขามาก ๆ ผมมีความสุขมาก ๆ ที่เขาได้อยู่ท่ามกลางเราหลังจากนั้น และเราได้จูบ กอด และลูบผมสีบลอนด์ยาว ๆ ของเขา”
การตายของลูกชายอย่างกะทันหัน ทำให้เขาและภรรยาจมอยู่กับความเศร้าโศกและแตกสลาย แต่ในที่สุดพวกเขาก็ก้าวข้ามผ่านความรู้สึกเหล่านี้มาได้ ก่อนที่เดลานีย์จะลงมือบันทึกเรื่องราวเหล่านั้นลงในหนังสือบันทึกความทรงจำ ‘A Heart That Works’ ที่เขียนขึ้นเพื่อบันทึกและแบ่งปันการรับมือกับความเศร้าโศก รวมทั้งแบ่งปันความเข้าใจและความห่วงใยในฐานะคนเป็นพ่อแม่ของลูกที่มีอาการเจ็บป่วย
เดลานีย์เล่าถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่เขาได้มีโอกาสอยู่กับเฮนรี ในรายการ Desert Island Discs ของ BBC ว่า เขาต้องการอยากจะซื้อบ้านที่เขาเช่าอาศัยอยู่กับครอบครัวในลอนดอน เพียงเพราะว่ามันเป็นสถานที่ที่เฮนรีเสียชีวิต แม้ว่าแต่แรกเขาและภรรยาจะตั้งใจย้ายออกจากบ้าน แต่ด้วยความทรงจำของลูกชายที่จากไปยังคงอยู่ ก็ทำให้พวกเขาเลือกที่จะยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิม
“ผมถามเจ้าของบ้านว่าเขาจะย้ายออกไปเมื่อไหร่ ผมบอกเขาว่า ‘ฟังผมนะ ถ้าคุณจะขายที่นี่ บอกให้ผมรู้ก่อนนะ เพราะผมอยากซื้อ’ เวลาที่ผมอายุ 81 ปี ผมจะได้คลานเข้าไปและตายในห้องนั้นได้ ในห้องเดียวกับที่ลูกชายของผมเสียชีวิต และที่ที่ลูกชายอีกคนของผมเกิดขึ้นมา…มีเหตุผลมากมายที่เรายังคงอยู่ที่นั่น เหตุผลหนึ่งก็คือ ผมชอบไปเล่นสไลเดอร์ที่สนามเด็กเล่นอันเดียวกับที่เฮนรีเคยสไลเดอร์ลงมา”
แต่ถึงกระนั้นชีวิตก็ไม่ยอมให้เศร้าจนเกินไป เมื่อภรรยาของเขาได้คลอดลูกชายคนที่ 4 หลังจากการเสียชีวิตของเฮนรีเพียงไม่กี่เดือน เขากลัวว่าความโศกเศร้าจากการจากไปของเฮนรี จะทำให้เขาไม่สามารถมอบความรักให้กับลูกชายที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้อย่างเต็มที่
เดลานีย์เล่าเสริมว่า เขาและภรรยาได้บอกกับเฮนรีว่า ตัวเขากำลังจะมีน้องชายอีกคนกำเนิดขึ้นมาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต และลูกชายคนที่ 4 ของครอบครัวก็ถือกำเนิดขึ้นในห้องนั่งเล่นห้องเดียวกันกับที่พี่ชายของเขาอย่างเฮนรีจากไป
“เขาต้องรู้ครับ ว่าครอบครัวที่รักเขายังมีชีวิตอยู่และกำลังจะเติบโตต่อไป และยังมีใครบางคนที่เราจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับเขาให้ฟัง เรารู้ว่าพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตบนโลกนี้พร้อม ๆ กัน แม้ว่าน้องชายของเฮนรีจะเกิดในห้องเดียวกับที่เฮนรีเสียชีวิต ซึ่งนั่นก็คือห้องนั่งเล่นของเรา…”
“สำหรับผมแล้ว คุณต้องรู้สึกและให้เกียรติกับความเจ็บปวดของคุณ เมื่อความรู้สึกเหล่านั้นมาถึง คุณไม่สามารถหนีมันได้ทางที่ดีที่สุดก็คือ คุณต้องยอมปล่อยให้ตัวเองเจ็บปวด ปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นมันเกิดขึ้น”
“ทันทีที่เขาออกมาจากร่างกายของภรรยาผม ผมมองดูเขาและเริ่มร้องไห้ทันที แล้วผมก็ตกหลุมรักเขาอย่างสุดหัวใจ ผมอยากจะดม อยากจะกลืนกิน อยากจะเอาเขาใส่เข้าไปในเสื้อ อยากจะกอดเขาแน่น ๆ ผมรักเขาอย่างสุดหัวใจเลยล่ะ”